เปิดแล้ว! รถไฟไทย-ลาว ‘สถานีกรุงเทพอภิวัฒน์-เวียงจันทน์ (คำสะหวาด)’ นั่งรถไฟเที่ยว 11 ชั่วโมงครึ่ง คาดมีผู้ใช้บริการปีละ 2 แสนคน

เปิดแล้ว! เดินขบวนรถระหว่างประเทศ ไทย-ลาว เที่ยวปฐมฤกษ์ “กรุงเทพอภิวัฒน์–เวียงจันทน์ (คำสะหวาด)”  ระยะทาง 654 กม. ใช้เวลาเดินทางกว่า 11 ชั่วโมงครึ่ง ส่งเสริมเศรษฐกิจ 2 ประเทศ คาดมีผู้ใช้บริการมากกว่าปีละ 2 แสนคน สร้างรายได้มากกว่าปีละ 67 ล้านบาท

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในการต้อนรับผู้โดยสาร และนักท่องเที่ยวในการเปิดเดินขบวนรถระหว่างประเทศ ไทย – สปป.ลาว เที่ยวปฐมฤกษ์ เส้นทางกรุงเทพอภิวัฒน์ – เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) วันนี้ (20 ก.ค. 2567) ว่า การเดินขบวนรถระหว่างประเทศเที่ยวปฐมฤกษ์ในครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งในความสำเร็จที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ดำเนินการยกระดับคุณภาพการให้บริการที่ดีแก่ประชาชน ตามนโยบายที่มอบให้ รฟท. บูรณาการความร่วมมือกับรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งชาติลาว

ทั้งนี้ เพื่อขยายการให้บริการขบวนรถโดยสารระหว่างประเทศ สามารถเชื่อมโยงการเดินทางระหว่างไทย – สปป.ลาว ของประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้ง 2 ประเทศได้อย่างไร้รอยต่อ ซึ่งสอดรับกับนโยบาย IGNITE THAILAND ของรัฐบาลที่ต้องการขับเคลื่อนให้ประเทศไทยสู่เป้าหมายการเป็น Tourism Hub ที่สำคัญของโลก ในการดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ จำนวนไม่น้อยกว่า 35 ล้านคน สร้างรายได้สู่อุตสาหกรรมท่องเที่ยว ไม่น้อยกว่า 3 ล้านล้านบาท โดยนักท่องเที่ยวจาก สปป.ลาว เป็น 1 ใน 5 ของกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีอัตราการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศสูงสุด

นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า คาดว่าตลอดปี 2567 จะมีนักท่องเที่ยวจาก สปป.ลาว เดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย ไม่น้อยกว่า 977,000 คน สามารถสร้างร้ายได้ไม่ต่ำกว่า 36,960 ล้านบาท ช่วยให้เกิดการหมุนเวียนเศรษฐกิจจากการเดินทางท่องเที่ยว สำหรับการเปิดให้บริการขบวนรถระหว่างประเทศไทย – สปป.ลาว เส้นทางสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ระยะทาง 654 กิโลเมตร (กม.) ได้เปิดให้บริการไป-กลับ จำนวน 2 ขบวน

นอกจากนี้ ยังได้เปิดให้บริการเส้นทางอุดรธานี –  เวียงจันทน์(คำสะหวาด) – อุดรธานี ไป-กลับ อีก 2 ขบวน รวมเป็น 4 ขบวน/วัน ประกอบด้วย ขบวนรถเร็วที่ 133 กรุงเทพอภิวัฒน์-เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ขบวนรถเร็วที่ 148 เส้นทางเวียงจันทน์ (คำสะหวาด)-อุดรธานี ขบวนรถเร็วที่ 147 อุดรธานี-เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) และขบวนรถเร็วที่ 134 เวียงจันทน์ (คำสะหวาด)-กรุงเทพอภิวัฒน์  โดยผู้โดยสารที่จะมา สปป.ลาวสามารถเดินทางมากับขบวนรถเร็วที่ 133 ออกจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์เวลา 20.25 น. ถึงสถานีหนองคายเวลา 07.55 น. ระยะทางประมาณ 621 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง 30 นาที

จากนั้นลงจากขบวนรถพร้อมกระเป๋าเดินทางและหนังสือเดินทาง (passsport) ที่มีอายุเหลืออย่างน้อย 6 เดือน หรือทำบัตรผ่านแดน เพื่อเดินไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองที่สถานีหนองคาย ซึ่งมีให้บริการ 3 ตู้ ตู้ละ 2 ช่อง และเดินผ่านด่านศุลกากร ในขณะที่ขบวนรถไฟจะตัดขบวน 4 ตู้หน้าเลื่อนไปรอด้านทิศเหนือของสถานีหนองคาย เมื่อผู้โดยสารผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว สามารถเดินขึ้นขบวนรถไฟได้เลย โดยใช้เวลาช่วงนี้ประมาณ 40 นาที

ก่อนที่ขบวนรถไฟจะออกจากสถานีหนองคายเวลา 08.35 น. ข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ผ่านสถานีท่านาแล้งไปยังสถานีเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ระยะทางประมาณ 10 กม. ใช้เวลาประมาณ 30 นาที โดยขบวนรถไฟจะมาถึงสถานีเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ในเวลา 09.05 น. ขณะเดียวกันการรถไฟฯ ยังได้รับความร่วมมือจาก สมาคมผู้ประกอบการขนส่งที่เวียงจันทน์  มาให้บริการอำนวยความสะดวกในการเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ในเมืองเวียงจันทน์ได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการขบวนทั้ง 4 ขบวน เพิ่มขึ้นมากกว่าปีละ 2 แสนคน สร้างรายได้มากกว่าปีละ 67 ล้านบาท

สำหรับสถานีรถไฟเวียงจันทน์(คำสะหวาด) สถานีตั้งอยู่ที่บ้านคำสะหวาด เมืองไซยเชษฐา ห่างขึ้นไปทางทิศเหนือจากท่าบกท่านาแล้งเพียง 7.5 กม. เป็นสถานีรถไฟขนาด 2 ชั้น 2 ชานชาลา ถูกออกแบบเพื่อใช้ในการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าด้วยระบบรางขนาด 1 เมตร (Meter Gauge) รวมขนาดพื้นที่กว่า 1 หมื่นตารางเมตร ใช้งบประมาณก่อสร้าง รวมทั้งสิ้น 994.68 ล้านบาท

ทั้งนี้ นับเป็นสถานีรถไฟแห่งที่ 2 ในเส้นทางโครงข่ายทางรถไฟไทย – สปป.ลาว ที่มีความสำคัญในการคมนาคมขนส่งทางรางระหว่างประเทศ นอกจากนี้ ยังถือเป็นเส้นทางเชื่อมโยงด้านการขนส่งสินค้า Logistics โดยผ่านสถานีขนถ่ายสินค้าท่านาแล้งแล้ว ยังเป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้กับพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษบึงธาตุหลวง ศูนย์กลางการท่องเที่ยว การค้า และการทำธุรกิจของเวียงจันทน์ ซึ่งจะก่อให้ประโยชน์ความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยวในอนาคต

“การเปิดเดินขบวนรถระหว่างประเทศ ไทย – สปป.ลาว ในครั้งนี้ จะเป็นการขยายความร่วมมือครั้งสำคัญของทั้ง 2 ประเทศ ที่สามารถเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมทางรางไว้ด้วยกัน ก่อให้เกิดการเจริญเติบโตสู่ภูมิภาค โดยขบวนรถสามารถรับส่งผู้โดยสารที่เดินทางโดยเครื่องบิน มาลงยังสนามบินอุดรธานี เพื่อเดินทางต่อโดยรถไฟเข้าไปนครหลวงเวียงจันทน์ได้โดยไม่ต้องต่อรถโดยสารอื่นเหมือนที่ผ่านมา สามารถขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว และโลจิสติสก์ของภูมิภาคต่อไป“ นายสุรพงษ์ กล่าว

นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า ขบวนรถเร็วที่ 133 เส้นทางกรุงเทพอภิวัฒน์- เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) และขบวนรถเร็วที่ 134 เวียงจันทน์ (คำสะหวาด)-กรุงเทพภิวัฒน์ ค่าตั๋วรถไฟนั่งชั้นสามพัดลม ราคา 281 บาท (152ที่นั่ง) ,รถนั่งชั้นสองปรับอากาศราคา 574 บาท (64 ที่นั่ง), รถนั่งและนอนชั้นสองปรับอากาศ (30 ที่นั่ง) เตียงบนราคา 784 บาท และเตียงล่างราคา 874 บาท  ส่วนขบวนรถเร็วที่ 148 เวียงจันทน์ (คำสะหวาด)-หนองคาย-อุดรธานี ขณะที่ ขบวนรถเร็วที่ 147 อุดรธานี-หนองคาย-เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) คิดอัตราพิเศษ แบ่งเป็นระยะ คือ อุดรธานี – เวียงจันทน์ : รถพัดลม 100 บาท / รถแอร์ 200 บาท, อุดรธานี – หนองคาย  : รถพัดลม 30 บาท / รถแอร์ 80 บาท และหนองคาย – เวียงจันทน์ : รถพัดลม 70 บาท / รถแอร์ 120 บาท