ปักหมุดเลย! ‘ไทยเวียตเจ็ท’ รุกหนักไฟลท์ ตปท. เตรียมเปิดบิน ‘กัมพูชา-เวียดนาม-สิงคโปร์’ ช่วง มี.ค.-เม.ย.นี้ เล็งเปิดบิน ‘ฟุกุโอกะ’ ก.ค. 65

“ไทยเวียตเจ็ท” รุกหนักไฟลท์อินเตอร์ เตรียมทยอยเปิดบิน “กัมพูชา–เวียดนาม–สิงคโปร์” ช่วง มี.ค.-เม.ย.นี้ พร้อมเตรียมแลนดิ้งสู่แดนปลาดิบ “กรุงเทพฯ–ฟุกุโอกะ” ตั้งธง ก.ค. 65 พ่วงเส้นทางสู่อินเดีย คาดปีนี้ผู้โดยสารไทยแห่ใช้บริการ 5 ล้านคน ดันรายได้โต 30% วางหมากในอีก 5 ปี ขนส่งผู้โดยสารต่างชาติแตะ 70%

นายวรเนติ หล้าพระบาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยเวียตเจ็ท เปิดเผยว่า ภายหลังที่ในหลายประเทศได้ผ่อนคลายมาตรการและกฎระเบียบการเดินทางเข้าประเทศ พร้อมมีนโยบายรับนักท่องเที่ยวมากขึ้น ซึ่งประเทศไทยถือเป็นจุดหมายปลายทางหลัก ที่นักท่องเที่ยวมีความต้องการเดินทางมาเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ สายการบินไทยเวียตเจ็ท จึงเตรียมเปิดให้บริการเส้นทางบินระหว่างประเทศในช่วง มี.ค.-เม.ย. 2565 จำนวน 4 เส้นทาง ประกอบด้วย 1.กรุงเทพฯ–พนมเปญ 2.กรุงเทพฯ–โฮจิมินห์ 3.กรุงเทพฯ–ดานัง และ 4.กรุงเทพฯ–สิงคโปร์นอกจากนี้ วันที่ 2 มิ.ย. 2565 จะเปิดให้บริการเส้นทางภูเก็ต–สิงคโปร์ รวมถึงวางแผนไว้ว่า จะเปิดเส้นทางบินไปยังเมืองอาเมนาบัด ประเทศอินเดีย ในช่วง ก.ค. 2565 ส่วนเส้นทางพุทธคยา และกุสินารา ต.ค. 2565 ขณะที่ เส้นทางฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่นนั้น มีแผนจะเปิดให้บริการใน ก.ค. 2565

โดยในปัจจุบันสายการบินไทยเวียตเจ็ทมีฝูงบินรวมทั้งสิ้น 16 ลำ ซึ่งในปี 2565 มีแผนขยายฝูงบินเพิ่มอีก 4-8 ลำ เพื่อรองรับเส้นทางบินต่างประเทศที่เตรียมจะเปิดให้บริการเพิ่มเติมดังกล่าวข้างต้น สำหรับแผนการขยายฝูงบินนั้น จะพิจารณาจากสถานการณ์การเปิดประเทศของประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะประเทศจีน ที่คาดว่า จะเปิดประเทศในไตรมาส 4/2565

เรามีความยินดีที่ได้สยายปีกสู่ต่างแดนอีกครั้ง หลังจากการจำกัดการเดินทางจากสถานการณ์โควิด-19 โดยเชื่อมั่นว่าการให้บริการเส้นทางบินระหว่างประเทศเส้นทางใหม่ๆ จะมีส่วนสำคัญในการเป็นสะพานเชื่อมผู้คนจากแต่ละประเทศ พร้อมๆ กับช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในภาพรวมของแต่ละประเทศ”

นายวรเนติ กล่าว

นายวรเนติ กล่าวอีกว่า ในปี 2565 คาดว่า จะมีผู้โดยสารชาวไทยใช้บริการสายการบินไทยเวียตเจ็ทประมาณ 5 ล้านคน จากปี 2564 มีผู้โดยสาร 3 ล้านคน และคาดว่า จะมีรายได้เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ขณะที่ผู้โดยสารต่างชาติในปี 2565 คาดหวังว่า อยู่ที่ 30% จากผู้โดยสารทั้งหมด ปัจจัยจากการเปิดประเทศของจีนในไตรมาส 4 นี้และตั้งเป้าในอีก 5 ปีข้างหน้าจะมีผู้โดยสารต่างชาติ 70% ของผู้โดยสารทั้งหมด

ส่วนราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นนั้น นายวรเนติ กล่าวว่า ในปัจจุบันสายการบินฯ ได้มีการเพิ่มค่าธรรมเนียมน้ำมันท่านละ 8-9 เหรียญสหรัฐฯ แล้ว ซึ่งรวมไปในราคาค่าโดยสารในเส้นทางต่างประเทศที่ใช้ระยะเวลาการบินตั้งแต่ 1.30 นาทีเป็นต้นไป โดยในเรื่องดังกล่าว สมาคมสายการบินแห่งประเทศไทย ได้ยื่นหนังสือถึงสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เพื่อพิจารณาแยกค่าธรรมเนียมน้ำมันออกจากค่าโดยสารอย่างชัดเจน เช่นเดียวกับค่าธรรมเนียมผู้โดยสารขาออก (PSC)

ด้านนายปิ่นยศ พิบูลสงคราม ผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ สายการบินไทยเวียตเจ็ท กล่าวว่า สายการบินเตรียมเปิดให้บริการเส้นทาง Go inter โดยไม่ต้องกักตัวในหลายเส้นทาง ได้แก่ ในวันที่ 16 มี.ค. 2565 เปิดให้บริการเส้นทางบินระหว่าวประเทศ กรุงเทพฯ–พนมเปญ โดยในช่วงแรก จะเริ่มให้บริการสัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน ทุกวันพุธ วันศุกร์ และวันอาทิตย์ และจะปรับเพิ่มจากความถี่สัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน เป็นสูงสุดสัปดาห์ละ 7 เที่ยวบินภายใน พ.ค.นี้ รวมถึงเตรียมให้บริการเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ สู่ เสียมเรียบในอนาคตด้วย

นอกจากนี้ ในวันที่ 17 มี.ค. 2565 จะให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศกรุงเทพฯ–โฮจิมินห์ สูงสุด 5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และเตรียมกลับมาให้บริการเส้นทางบินระหว่างประเทศ กรุงเทพฯ–ดานัง ในวันที่ 27 มี.ค. 2565 เป็นต้นไปโดยในช่วงแรก เส้นทางกรุงเทพฯ–ดานัง จะให้บริการด้วยความถี่สัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน ทุกวันพุธ วันศุกร์ และวันอาทิตย์ โดยวางแผนปรับเพิ่มความถี่เป็น 2 เที่ยวบิน/วัน ภายในสิ้นปี 2565

ทั้งนี้ สายการบินไทยเวียตเจ็ทได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลสิงคโปร์และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งสิงคโปร์ในการเข้าร่วมโครงการช่องทางพิเศษสำหรับผู้เดินทางที่ฉีดวัคซีนแล้ว (VTL) อนุญาตให้เดินทางเข้าสู่ประเทศสิงคโปร์โดยไม่ต้องทำการกักตัว หวังฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศ โดยในวันที่ 28 เม.ย. 2565 จะเริ่มให้บริการเส้นทางบินระหว่างประเทศกรุงเทพฯ–ชางงี ด้วยความถี่ 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ทุกวันอังคาร วันพฤหัสบดี และวันอาทิตย์ ส่วนเส้นทางบินภูเก็ต–ชางงี จะให้บริการตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย. 2565 เป็นต้นไป

“สายการบินไทยเวียตเจ็ท คาดหวังว่า การเปิดบินเส้นทางระหว่างประเทศครั้งนี้ จะมีอัตราบรรทุกผู้โดยสารประมาณ80% เพราะว่า ได้ผลตอบรับดี ถือเป็นการปลุกตลาดการบินให้ตื่นตัว กระตุ้นการท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมเกี่ยวน้อง นอกจากนี้ คาดว่า ในไตรมาส 2-3/2565 เส้นทางบินจากต่างประเทศมายังประเทศไทยจะเติบโตมากขึ้น เช่นเดียวกับเส้นทางจากไทยไปยังต่างประเทศ ที่จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน และก็คาดว่าในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ถ้าจีนเปิดประเทศ ก็จะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นด้วย” นายปิ่นยศ กล่าว