SVL แก้น้ำมันแพงใช้รถหัวลากไฟฟ้า NEX บรรทุกเหล็ก ก้าวสู่การเป็น ‘โลจิสติกส์สีเขียว’

SVL Group ผนึกพลัง NEX เดินหน้าสู่การเป็นโลจิสติกส์สีเขียว ใช้รถหัวลากพลังงานไฟฟ้าเต็ม 100 วิ่งขนส่งสินค้าเหล็กรีดร้อน จากฮับบางสะพานส่งมอบถึงมือลูกค้าใกล้กรุง มั่นใจตอบโจทย์ธุรกิจ ลดมลพิษ รักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญเซฟต้นทุนค่าใช้จ่ายในยุคน้ำมันแพง

นายอนุวัต ชัยกิตติวนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทเอสวีแอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า SVL Group ในส่วนของกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ การขนส่งทางบก โดยบริษัท ไลน์ ทรานสปอร์ต จำกัด ในฐานะผู้ขนส่งสินค้าอุตสาหกรรม ได้สร้างมิติใหม่ของการขนส่งสินค้าเหล็กรีดร้อนของ บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) โดยใช้รถหัวลากพลังงานไฟฟ้า 100% ในการขนส่งสินค้าเหล็กรีดร้อน จาก Hub ที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นกลุ่มการผลิตเหล็กของเครือสหวิริยา มาส่งให้กับลูกค้า คือ บริษัท ไทยคูณ สตีล จำกัด ที่อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่ง จากบริษัท เน็กซ์ พอทย์ จำกัด (มหาชน) ภายใต้โครงการ “SVL EV LINE Truck รักษ์โลก”

“กิจกรรมการขนส่งสินค้าเหล็กรีดร้อน ด้วยรถหัวลากพลังงานไฟฟ้า 100% ในวันนี้ นับว่าเป็นส่วนสำคัญของโครงการ “SVL EV LINE Truck รักษ์โลก” ซึ่งเป็นโครงการทดลองวิ่งขนส่งสินค้าเหล็ก ที่ SVL Group ได้ร่วมมือกับNEX ตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา โดยการทดลองวิ่งรถหัวลากพลังงานไฟฟ้าเป็นเวลา 1 เดือน ได้สร้างประสบการณ์และการเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามรถหัวลากพลังงานไฟฟ้านับว่าเป็นเรื่องใหม่สำหรับประเทศไทย จึงเป็นธุรกิจที่ต้องศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติมในหลายๆประเด็น SVL Group ในฐานะผู้ประกอบการด้านธุรกิจโลจิสติกส์ หวังว่าจะได้เดินหน้าและช่วยขับเคลื่อนธุรกิจรถขนส่งที่ใช้พลังงานไฟฟ้า 100% เพราะด้วยนโยบายของSVL Group ที่จะก้าวไปสู่การเป็น Green Logistic รถหัวลากพลังงานไฟฟ้าจึงนับว่าเป็นการตอบโจทย์ธุรกิจได้เป็นอย่างดี ทั้งเรื่องการลดมลพิษ การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม รวมถึงการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการขนส่ง” นายอนุวัตกล่าว

ด้านนายนาวิน เสนาะดนตรี รองผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เน็กซ์ พอทย์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX กล่าวว่า โครงการ “SVL EV LINE Truck รักษ์โลก” เป็นความร่วมมือระหว่าง NEX และ SVL Group ในการทดสอบสมรรถนะของรถหัวลากพลังงานไฟฟ้า 100% โดยเป็นการทดสอบการบรรทุกเหล็กซึ่งเป็นสินค้าที่มีน้ำหนักมาก ด้วยรถหัวลากไฟฟ้ารายแรกของประเทศไทย และเป็นการขนส่งระยะไกลจากก อ.บางสะพานมาถึงกรุงเทพฯ ระยะทางประมาณ 400 กิโลเมตร (กม.)

ซึ่งตลอดระยะเวลาการใช้งานได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ใช้บริการ ทั้งในแง่ของสมรรถนะการใช้งานและความคุ้มค่า โดยเฉพาะตอบโจทย์ในเรื่องของการจะก้าวไปสู่การเป็น Green Logistic เพราะรถหัวลากไฟฟ้าเป็นพลังงานบริสุทธิ์ที่ปราศจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์สันดาป ที่นำไปสู่ภาวะโลกร้อน ช่วยลดฝุ่นควัน PM 2.5 และมลภาวะทางอากาศ ทั้งยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายจากน้ำมันเชื้อเพลิงและค่าซ่อมบำรุงรักษาให้กับผู้ประกอบการด้วย