ครม.ไฟเขียวเปลี่ยนแปลง EIA รถไฟฟ้าสายสีชมพู 2 สถานี พร้อมอนุมัติเวนคืนที่ดิน 350 ไร่ สร้างถนนเชื่อม ‘ถนนนครอินทร์-ศาลายา’ มูลค่า 8.7 พันล้าน

ครม.ไฟเขียวเปลี่ยนแปลง EIA รถไฟฟ้าสายสีชมพู 2 สถานี พร้อมอนุมัติเวนคืนที่ดิน 350 ไร่ สร้างถนนเชื่อมต่อ “ถนนนครอินทร์-ศาลายา” ขนาด 6 เลน มูลค่า 8.7 พันล้าน ด้าน “ศักดิ์สยาม” เผย “รมต.ต่างประเทศของจีน” สนใจระบบโลจิสติกส์ไทย สั่งจัดทำรายละเอียด หวังให้ “ก.ต่างประเทศ” ใช้โชว์ในโอกาสต่อไป

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (20 ต.ค. 2563) มีมติเห็นชอบการขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการในรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี โดยขอเปลี่ยนแปลงตำแหน่งสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PK01) และสถานีนพรัตนราชธานี (PK26) ทั้งนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้กระทรวงคมนาคม หาแนวทางการดำเนินการว่า จะทำอย่างไรเพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ความก้าวหน้าของโครงการฯ ที่กระทรวงคมนาคมได้ดำเนินการ พร้อมทั้งเปรียบเทียบอดีต ปัจจุบัน และอนาคตว่า สิ่งที่ประชาชนจะได้รับมีอะไรบ้าง สืบเนื่องจากการลงพื้นที่ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ของนายกรัฐมนตรี จึงได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคม ใช้โดรนเก็บภาพมุมสูง และสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนทราบถึงความเปลี่ยนแปลง

นอกจากนี้ ที่ประชุม ครม. ยังมีมติอนุมัติร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) กำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน ต.บางใหญ่ ต.บางม่วง อ.บางใหญ่, ต.บางคูเวียง ต.ปลายบาง ต.ศาลากลาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี และ ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ซึ่งเป็นการกำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืนในท้องที่ดังกล่าว ประมาณ 350 ไร่ และมีอาคารสิ่งปลูกสร้างที่ถูกเวนคืน ประมาณ 87 รายการ สำหรับดำเนินการก่อสร้างถนนใหม่ของกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เชื่อมระหว่างทางหลวงชนบท นฐ.5035 กับทางหลวงชนบท นบ.1020 หรือถนนนครอินทร์ เพื่อแก้ปัญหาการจราจรติดขัดบนถนนกาญจนาภิเษก และถนนบรมราชชนนี รวมถึงรองรับการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจและสังคมใน จ.นนทบุรี และจ.นครปฐมในอนาคต

ทั้งนี้ โครงการถนนเชื่อมต่อถนนนครอินทร์-ศาลายา จ.นนทบุรี และ จ.นครปฐม ทช.ได้ดำเนินการสำรวจและออกแบบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะเป็นการก่อสร้างถนนใหม่ ขนาด 6 ช่องจราจร โดยจะใช้งบประมาณ 8,722 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าสำรวจอสังหาริมทรัพย์ 29 ล้านบาท ค่าทดแทนอสังหาริมทรัพย์ 4,392 ล้านบาท และค่าก่อสร้าง 4,301 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ทช. ยังได้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีผู้เห็นด้วย 83.8%

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่ออีกว่า ตามที่นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี ในโอกาสการเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 15 ต.ค. 2563 ที่ผ่านมานั้น กระทรวงคมนาคม ได้นำเสนอระบบโลจิสติกส์ของไทย อาทิ โครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย-อันดามัน (แลนด์บริดจ์) ระหว่างท่าเรือจังหวัดชุมพรกับท่าเรือจังหวัดระนอง ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ให้ไทยเป็นศูนย์กลางของอาเซียน โดยนายหวัง อี้ ได้ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก จึงได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปจัดทำรายละเอียด และเพื่อให้กระทรวงการต่างประเทศของไทย ได้เตรียมข้อมูลเพื่อนำเสนอในโอกาสต่อไป

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า สำหรับสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PK01) ขยับจากตำแหน่งเดิมไปทางขวา (ทิศตะวันออก) ประมาณ 337 เมตร โดยจะมาอยู่บริเวณด้านหน้าซอยรัตนาธิเบศร์ 4 ทั้งนี้ การเปลี่ยนตำแหน่งดังกล่าวนั้น เพื่อให้ไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่อุทยานมกุฏรมยสราญ และไม่บดบังด้านหน้าอุทยานมกุฏรมยสราญ ซึ่งจะมีการก่อสร้างทางเดินยกระดับ (สกายวอล์ค) พร้อมติดตั้งระบบทางเดินเลื่อนอัตโนมัติ บนทางเดินยกระดับ ทั้งขาไป-ขากลับ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสาร

ขณะที่ สถานีนพรัตนราชธานี (PK26) นั้น จะขยับตำแหน่ง จากตำแหน่งเดิมไปทางซ้าย (ทิศตะวันตก) ของแนวทางโครงการประมาณ 313 เมตร มาอยู่บริเวณด้านหน้าสนามกีฬาไนติงเกล เนื่องจากกรมทางหลวง (ทล.) ได้ดำเนินการก่อสร้างสะพานข้ามทางแยกบริเวณหน้าโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี (ทางแยกจุดตัดถนนรามอินทรา) ซึ่งเป็นตำแหน่งของสถานี PK26 เดิม ทำให้ตำแหน่งที่ตั้งของสถานี PK26 มีระยะห่างในแนวดิ่ง จากผิวถนนถึงโครงสร้างใต้สถานีไม่เพียงพอตามมาตรฐานของ ทล.ที่กำหนดไว้ไม่น้อยกว่า 5.5 เมตร