‘ถาวร’ จี้ ‘บินไทยฯ’ เร่งแก้ขาดทุน พร้อมนัด สตง. ถก 16 ส.ค.นี้

“คมนาคม” จี้ “บินไทยฯ” เร่งแก้ขาดทุน ชี้เป็นสมบัติของทุกคน พร้อมเรียก สตง.ตรวจสอบปมทุจริต 16 ส.ค.นี้ ฟากวงในเผยพนักงานหอบงานวิจัย ร้ององค์กรส่อล็อคสเป็กจ้างเอกชน Outsource อึ้ง!ผลวิจัย ระบุพนักงานรับระบบอุปถัมภ์มีจริง-ให้คะแนนสอบตกความโปร่งใส

นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากกรณีที่บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้แจ้งผลประกอบการครึ่งปีแรกขาดทุน 6,878 ล้านบาทนั้น ถือเป็นเรื่องที่น่ากังวล จึงต้องส่งสัญญาณให้ผู้ถือหุ้น และคณะกรรมการหรือ บอร์ด รับทราบ ทั้งยังขอให้ตระหนักว่า ผลประกอบการเป็นตัวชี้วัดของความพึงพอใจของผู้ถือหุ้น ตนจึงได้มอบนโยบายให้หาแนวทางในการแก้ปัญหาขาดทุน ในส่วนของการชี้แจงว่าเงินบาทแข็งค่าทำให้ขาดทุนนั้น ต้องแจกแจงด้วยว่าขาดทุนจากเงินบาทแข็งค่าคิดเป็นสัดส่วนเท่าไหร่ของการขาดทุนทั้งหมด โดยต้องลงลึกข้อมูลด้านสาเหตุว่าสัดส่วนการขาดทุนประกอบด้วยสิ่งใดบ้าง

“อย่าลืมว่าการบินไทยเป็นของทุกคน ภาครัฐถือหุ้นมากกว่า 50% ไม่ใช่เป็นองค์กรของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นองค์กรของประชาชนทุกคน ช่วยบริหารให้ดีด้วย การบินไทยขาดทุนจนชินชาจนทุกคนมองว่าเป็นเรื่องปกติ ” นายถาวรกล่าว

นายถาวร กล่าวต่ออีกว่า สำหรับตัวชี้วัดของตนที่จะให้คะแนนการบินไทย คือ แผนฟื้นฟูกิจการฯ ที่มีชื่อว่า “มนตรา” เนื่องจากรัฐมนตรีมีหน้าที่กำกับดูแลและประเมินผล ดังนั้น การดำเนินแผนฟื้นฟูการบินไทย ต้องใช้เครื่องบินหรือทรัพยากรที่มีอยู่ทั้งหมดในการเพิ่มรายได้ ควบคู่ไปกับการลดรายจ่ายที่สิ้นเปลืองในการบริหาร หรือตัดตรงไหนได้ต้องเอาออก โดยในวันที่ 16 ส.ค.นี้ ตนได้เชิญสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. มาตรวจสอบงบดุลและงบการเงินของการบินไทย รวมถึงเรื่องความไม่โปร่งใสภายในองค์กร เนื่องจาก สตง. มีความเชี่ยวชาญเรื่องตรวจสอบตัวเลข หลังจากนั้นต้องรอข้อสรุปว่า สตง.ตั้งข้อสังเกตุว่ามีสิ่งใดบ้างจะต้องปรับปรุง นอกจากนี้ ตนจะเรียกทุกแผนกในองค์กรเข้าพบ เพื่อช่วยกันหาทางแก้ปัญหา เช่น ฝ่ายกัปตัน ฝ่ายครัวบินไทย ฝ่ายพนักงานบริการ ฝ่ายซ่อมบำรุง รวมถึงสหภาพการบินไทย เป็นต้น

ด้านแหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า พนักงานอาวุโสของการบินไทยได้เดินทางเข้ามายังกระทรวง พร้อมส่งมอบผลวิจัยเรื่องธรรมาภิบาลของการบินไทย โดยงานวิจัยพบว่า พนักงานในองค์กรต่างให้คะแนนสอบตกเรื่องความโปร่งใสในการบริหาร อีกทั้ง งานวิจัยยังชี้ว่ามีเรื่องการส่อทุจริตล็อคสเป็กสัญญาจ้างบริษัทภายนอก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทรายเดิม หรือเปลี่ยนชื่อบริษัท แต่เป็นบุคลากรชุดเดิมเกือบทั้งหมด มีอยู่ด้วยกันหลากหลายเจ้าแบ่งตามประเภทสายงาน เช่น กลุ่มงานขนสัมภาระ กลุ่มงานทำความสะอาดห้องโดยสาร (Cabin Cleaner) และฝ่ายอุปกรณ์ภาคพื้น เป็นต้น ซึ่งรายจ่ายของการจ้างพนักงานกลุ่มดังกล่าวนั้น ยังมีรายจ่ายมากกว่าพนักงานปกติ 30% ดังนั้น กระทรวงคมนาคมจะตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเข้มงวด เพราะตามหลักกฎหมายเชื่อได้ว่า เจตนาของพนักงานบริษัทที่ทำงานมามากกว่า 20 ปี คงไม่ใส่ร้ายป้ายสีบริษัทตนเองให้เสียหาย เพราะยังต้องการความก้าวหน้าในอาชีพการงานที่ทำอยู่ปัจจุบัน

ทั้งนี้ งานวิจัยเรื่องบรรษัทภิบาลของการบินไทยดังกล่าวยังพบว่า จากการเก็บข้อมูลพนักงานการบินไทยมากกว่า 200 คน พนักงานส่วนใหญ่ไม่แน่ใจว่าผู้บริหารมีการบริหารตามหลักบรรษัทภิบาลขององค์กร โดยมีความไม่แน่ใจมากที่สุด คือ ความเป็นธรรม รองลงมาคือความโปร่งใสและความรับผิดชอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิบัติตามนโยบายว่าด้วย การสรรหา แต่งตั้ง โยกย้าย และพิจารณาความดีความชอบ ด้วยความโปร่งใสและเป็นธรรม ซึ่งอธิบายว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากระบบอุปถัมภ์ซึ่งได้ครอบงำความรู้สึกนึกคิดของพนักงานมาอย่างยาวนานและยังไม่หมดสิ้นไป