เข้าใจตรงกันนะ! “คมนาคม” เล็งออกกฎใหม่ “ขับช้าชิดขวาโดนจับ” บังคับรถวิ่ง 2 ช่องทางขวาห้ามขับต่ำกว่า 80 กม./ชม. หนุนนโยบายความเร็วไม่เกิน 120 กม./ชม.

“ศักดิ์สยาม” ตั้งโต๊ะแจงนโยบายถนน 4 ช่องจราจร ขับรถความเร็วไม่เกิน 120 กม./ชม. เล็งออกกฎใหม่บังคับ 2 ช่องทางขวาห้ามขับรถช้า ความเร็วต้องไม่ต่ำกว่า 80-120 กม./ชม. หากช้าถูกจับแน่หวังแก้ปัญหาจราจรติดขัด ย้ำ! ไม่ทำให้ยอดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากนโยบายแก้กฎกระทรวงคมนาคม เพื่อขยายอัตราจำกัดความเร็วบนถนน 4 ช่องจราจรทั่วประเทศ ที่สามารถใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 120 กม./ชม. นั้น ยืนยันว่าจะไม่ทำให้ยอดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เนื่องจากอุบัติเหตุทางถนนมักจะเกิดจากความประมาท หรือการขับขี่ขณะเมาสุรา แต่ไม่ใช่เรื่องความเร็วของยานพาหนะ ดังนั้น สำหรับแนวทางการบังคับใช้มาตรการความเร็วบนท้องถนนใหม่นี้ จะมีการบังคับใช้ความเร็วพื้นฐานในบางช่องจราจรเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ โดยแบ่งเป็นช่องจราจรทางซ้ายสุด สำหรับยานพาหนะที่ขับช้า ส่วนช่องจราจรถัดมา คือ ช่องที่บังคับใช้ความเร็วปานกลาง รวมถึงเป็นช่องจราจรที่ให้รถขับช้าไว้แซงกัน ส่วน 2 ช่องจราจรด้านขวาสุดนั้น จะกำหนดความเร็วในการขับขี่ห้ามต่ำกว่า 80 กม. และไม่เกิน 120 กม. เท่านั้น เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ขับขี่ที่ไม่ปฏิบัติตามความเร็วที่กำหนดใน 2 ช่องจราจรขวาสุดนั้น จะต้องมีโทษตักเตือนไปจนถึงโทษปรับตามกฎหมายหากมีการทำผิดซ้ำซ้อน เป็นการลดปริมาณรถขับช้าที่ชอบแช่ช่องจราจรขวาสุดอีกด้วย

ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมมองว่า สามารถใช้ได้กับถนนทั่วประเทศที่มี 4 ช่องจราจร โดยครอบคลุมเฉพาะรถยนต์ส่วนบุคคลเท่านั้น ส่วนด้านรถบรรทุกและรถโดยสารสาธารณะยังบังคับใช้กฎหมายความเร็วเท่าเดิม คือ 80-90 กม. ให้สอดคล้องกับมาตรการ GPS ตรวจจับความเร็วของกรมการขนส่งทางบก หรือ ขบ. นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมจะสั่งการให้เตรียมความพร้อมถนน 4 ช่องจราจรทั่วประเทศ โดยเฉพาะการจัดทําทางเลี่ยง หรือช่องรอเลี้ยวบริเวณทางแยกและจุดกลับรถ (Pocket Lane) เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ในกรณีรถขับช้าช่องทางซ้ายจะต้องกลับรถซึ่งต้องขับชิดขวา ควบคู่ไปกับการเพิ่มอุปกรณ์ความปลอดภัยบนท้องถนน เช่น เนินชะลอความเร็วขนาดเล็ก(Rumble Strip) และ เครื่องหมายลดความเร็ว (Optical Speed Bar : OSB) เป็นต้น