สกพอ. เปิดฟังเสียงประชาชน ลุยศึกษาระบบ Feeder เชื่อมต่อไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน คาดศึกษาเสร็จภายใน 1 ปี

สกพอ. เดินหน้ารับฟังเสียงประชาชน ครั้งที่ 1 เร่งศึกษาระบบ Feeder เชื่อมต่อไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบินในพื้นที่EEC ครอบคลุม 2 จังหวัด 5 อำเภอชลบุรีระยองหวังสร้างความสะดวกสบายในการเดินทาง ส่งเสริมการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ คาดศึกษาแล้วเสร็จภายใน 1 ปี

นายวรวุฒิ มาลา ที่ปรึกษาพิเศษโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน เปิดเผยว่า วันนี้ (23 ..66) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ได้จัดการประชุมสัมมนารับฟังความคิดเห็นของประชาชน (ครั้งที่ 1 : ปฐมนิเทศโครงการ) โครงการจ้างที่ปรึกษาศึกษาความเหมาะสมเบื้องต้นของระบบขนส่งสาธารณะที่เชื่อมโยงกับการพัฒนารถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินกับการพัฒนาเมืองใหม่ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยมีระยะเวลาในการศึกษาโครงการ 360 วัน

ทั้งนี้ สกพอ. ได้ศึกษาความเหมาะสมเบื้องต้นของระบบขนส่งสาธารณะที่เชื่อมโยงการพัฒนาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินกับการพัฒนาเมืองใหม่ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เพื่อเชื่อมโยงระบบคมนาคมหลักของพื้นที่ EEC ได้แก่ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมืองสุวรรณภูมิอู่ตะเภาสนามบินอู่ตะเภา และโครงการศูนย์ธุรกิจ EEC และเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดแนวเส้นทางและรูปแบบระบบขนส่งที่มีความเหมาะสมและตอบสนองความต้องการในการเดินทางของประชาชนอย่างแท้จริง

นายวรวุฒิ กล่าวต่อว่า ด้วยเหตุนี้ สกพอ. จึงได้ดำเนินการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในครั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมการประชุม ได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนแสดงความคิดเห็น และข้อเสนอแนะต่างๆ ทั้งในประเด็นรูปแบบของระบบขนส่งมวลชนรอง แนวเส้นทางโครงการ ให้มีความสอดคล้องตรงกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมากที่สุด

สำหรับพื้นที่ศึกษาโครงการ ตั้งอยู่ในบริเวณ .ห้วยใหญ่ .บางละมุง .ชลบุรี มีพื้นที่ประมาณ 14,619 ไร่ ถือเป็นจุดศูนย์กลางของการศึกษาโครงการ โดยจะศึกษาแนวเส้นทางที่เชื่อมโยงไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง ได้แก่ สถานีศรีราชา สถานีพัทยา และสถานีอู่ตะเภา โดยพื้นที่การศึกษาครอบคลุม2 จังหวัด คือ ชลบุรี รวม 3 อำเภอ ได้แก่ ศรีราชา บางละมุง และสัตหีบ และ .ระยอง 2 อำเภอ ได้แก่ บ้านฉาง และนิคมพัฒนา

โดยโครงการฯ มีขอบเขตการดำเนินงาน แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้

  • งานส่วนที่ 1 งานวิเคราะห์และศึกษาความเหมาะสมเบื้องต้นของระบบขนส่งสาธารณะขนาดรองที่เชื่อมโยงการพัฒนาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินกับการพัฒนาเมืองใหม่ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
  • งานส่วนที่ 2 งานการประชาสัมพันธ์และการมีส่วนร่วมของประชาชน
  • งานส่วนที่ 3 การศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น (Initial Environmental Examination : IEE) 

นายวรวุฒิ กล่าวอีกว่า ในอนาคตเมื่อเกิดการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนรองเพื่อเชื่อมต่อการเดินทางไปยังโครงการต่างๆ ในพื้นที่ EEC จะสร้างความสะดวกสบายในการเดินทางให้แก่ประชาชนในพื้นที่ ส่งเสริมการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล เกิดการพัฒนาที่ดินตามแนวเส้นทางของระบบขนส่งมวลชนและบริเวณโดยรอบสถานีที่เป็นชุมชนใหญ่ เพิ่มโอกาสทางธุรกิจจากความต้องการการบริโภคสินค้าและบริการของประชาชนและเกิดการกระจายความหนาแน่นออกจากศูนย์กลางทางเศรษฐกิจอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ภายหลังการประชุมครั้งนี้ สกพอ.จะรวบรวมข้อมูลความคิดเห็น และข้อเสนอแนะจากผู้เข้าร่วมประชุมซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในการพิจารณารูปแบบการพัฒนาโครงการที่เหมาะสมกับพื้นที่และความต้องการของประชาชนให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งจะดำเนินการจัดกิจกรรมการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อรับฟังความคิดเห็น และประชาสัมพันธ์รายละเอียดข้อมูลโครงการไปสู่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนในพื้นที่โครงการได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้อง