ปักหมุด! มอเตอร์เวย์ M5 ส่วนต่อขยายดอนเมืองโทลล์เวย์ ช่วงรังสิต-บางปะอิน คาดเริ่มสร้างปี 67 เปิดใช้บริการปี 71 เชื่อมเดินทาง M6 ‘บางปะอิน-โคราช’
“ทางหลวง” ลุยสร้างมอเตอร์เวย์ M5 ส่วนต่อขยายดอนเมืองโทลล์เวย์ ช่วงรังสิต–บางปะอิน ระยะทาง 22 กม. มูลค่า3.1 หมื่นล้าน จ่อเสนอ “คมนาคม” ไฟเขียว ธ.ค.นี้ ก่อนชง ครม.เห็นชอบภายใน มี.ค.66 คาดเปิดประมูลปลายปีหน้าเริ่มสร้างปี 67 เสร็จปี 70 เปิดบริการปี 71 เชื่อมเดินทางมอเตอร์เวย์บางปะอิน–โคราช บรรเทาจราจร หนุนระบบโลจิสติกส์ประเทศ
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง(มอเตอร์เวย์) ส่วนต่อขยายทางยกระดับอุตราภิมุข หรือดอนเมืองโทลล์เวย์ ช่วงรังสิต–บางปะอิน (M5) ระยะทาง 22 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 31,375.95 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่างานโยธาและงานระบบ 31,303 ล้านบาท และค่าเวนคืน72.95 ล้านบาทว่า ปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมเสนอโครงการดังกล่าว ให้กระทรวงคมนาคมพิจารณา คาดว่าจะพิจารณาเห็นชอบภายใน ธ.ค. 2565
จากนั้นจะเสนอไปยังสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (บอร์ด PPP) ภายใน ก.พ. 2566 อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้ภายใน มี.ค. 2566 หรือก่อนมีการเลือกตั้ง
ทั้งนี้ ภายหลังจากผ่านความเห็นชอบของ ครม.แล้ว จะใช้เวลา 1-2 เดือน ในการตั้งคณะกรรมการมาตรา 36 เพื่อมาจัดทำเอกสารประกาศประกวดราคา (RFP) และคาดว่าจะเปิดประมูลโครงการคัดเลือกเอกชนได้ภายในช่วงปลายปี2566 คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปี 2567 แล้วเสร็จภายในปี 2570 และเปิดให้บริการปี 2571
โครงการมอเตอร์เวย์ M5 มีการลงทุนในรูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP Gross Cost) โดย ทล. เป็นผู้ลงทุนการก่อสร้างงานโยธา และจ้างเอกชนบริหารจัดการ อายุสัปทาน 30 ปี และถ้าทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ก็เชื่อว่ากระทรวงคมนาคม จะอนุมัติโครงการดังกล่าว เพราะมีความคุ้มค่า และเป็นโครงการที่จะเชื่อมต่อกับมอเตอร์เวย์หมายเลข 6 (M6) สายบางปะอิน–นครราชสีมา ตรงบางปะอิน”
นายสราวุธ กล่าว
นายสราวุธ กล่าวต่อว่า สำหรับโครงการมอเตอร์เวย์หมายเลข 5 เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ จะเป็นโครงข่ายทางยกระดับที่เชื่อมต่อการเดินทางจากกรุงเทพมหานคร (กทม.) สู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ได้โดยตรง ช่วยให้การเดินทางมีความคล่องตัว สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย บรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดบนถนนพหลโยธิน และถนนวิภาวดีรังสิต
นอกจากนี้ สามารถเชื่อมต่อกับโครงข่ายที่สำคัญในการเดินทาง ได้แก่ มอเตอร์เวย์ 3 สาย คือ ถนนกาญจนาภิเษก(ทล.9) ด้านตะวันตกและด้านตะวันออก, บางปะอิน–นครราชสีมา (M6) และ บางปะอิน–นครสวรรค์ (M5) รวมถึงถนนเอเชีย และถนนพหลโยธิน อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนระบบโลจิสติกส์และเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศอีกด้วย
รายงานข่าวจาก ทล. ระบุว่า แนวเส้นทางโครงการมอเตอร์เวย์ส่วนต่อขยายทางยกระดับอุตราภิมุข ช่วงรังสิต–บางปะอิน (M5) มีจุดเริ่มต้นโครงการเชื่อมต่อกับทางยกระดับอุตราภิมุขที่เปิดให้บริการในปัจจุบัน บริเวณทางแยกต่างระดับรังสิต (ประมาณ กม.33+924 ของถนนพหลโยธิน) และมีจุดสิ้นสุดโครงการอยู่ที่บริเวณทางแยกต่างระดับบางปะอิน (ประมาณ กม.1+800 ของทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32)
ทั้งนี้ สามารถเชื่อมต่อได้โดยตรงกับโครงการมอเตอร์เวย์ หมายเลข 6 สายบางปะอิน–นครราชสีมา ครอบคลุมพื้นที่อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และ อ.บางปะอิน อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา รวมระยะทางประมาณ 22 กม.
โดยตลอดสายทางมีจุดขึ้น–ลง และจุดเชื่อมต่อ จำนวน 7 แห่ง ได้แก่ 1.จุดเชื่อมต่อ บริเวณด่านฯ รังสิต 1, 2.จุดขึ้น–ลงบริเวณด่านฯ รังสิต 2, 3.จุดขึ้น–ลง บริเวณด่านฯ คลองหลวง, 4.จุดขึ้น–ลง บริเวณด่านฯ ม.ธรรมศาสตร์, 5.จุดขึ้น–ลงบริเวณด่านฯ นวนคร, 6.จุดขึ้น–ลง บริเวณด่านฯ วไลยอลงกรณ์ และ 7.จุดขึ้น–ลง บริเวณด่านฯ ประตูน้ำพระอินทร์
สำหรับรูปแบบการก่อสร้าง เป็นทางยกระดับตามแนวถนนพหลโยธิน โดยก่อสร้างต่อขยายตั้งแต่ช่วงรังสิต – บางปะอิน รวมระยะทางประมาณ 22 กม. ขนาด 6 ช่องจราจร (ไป–กลับ) ช่องจราจรกว้าง 3.5 เมตร ไหล่ทางด้านซ้ายกว้าง 2 เมตร ไหล่ทางด้านขวากว้าง 1 เมตร จุดขึ้น–ลง/จุดเชื่อมต่อ จำนวน 8 แห่ง และงานอาคารที่เกี่ยวข้อง เช่นอาคารด่านเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง อาคารศูนย์ควบคุมกลาง อาคารกู้ภัย และอาคารสถานีตำรวจทางหลวง
ขณะที่ การจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง ทล.ได้กำหนดให้จัดเก็บค่าผ่านทางแบบระบบเปิด (Open System) โดยชำระค่าธรรมเนียมผ่านทางที่ด่านขาเข้า และกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมผ่านทางแบ่งตามประเภทของยานพาหนะโดย ทล.จะกำหนดให้มีวิธีการจัดเก็บค่าผ่านทางแบบ Multi-lane free flow (M-Flow)