เปิดแล้ว! ถนน ทล. 304 ‘กบินทร์บุรี-ปักธงชัย’ เชื่อมผืนป่ามรดกโลกแห่งแรกในไทย

“กรมทางหลวง” เปิดใช้ทางหลวงหมายเลข 304 สาย “อ.กบินทร์บุรี – อ.ปักธงชัย” ระยะทาง 19 กม. ต้นแบบทางเชื่อมผืนป่ามรดกโลกแห่งแรกของไทย

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังพิธีเปิดใช้ทางหลวงหมายเลข 304 สาย อ.กบินทร์บุรี – อ.ปักธงชัย (ทางเชื่อมผืนป่ามรดกโลก) ว่า โครงการดังกล่าว ถือเป็นประวัติศาสตร์ของไทย ที่ดำเนินการเชื่อมผืนป่ามรดกโลก เป็นต้นแบบที่สำคัญในการพัฒนาการคมนาคมขนส่ง บนโครงข่ายถนนทางหลวง สำหรับทางหลวงหมายเลข 304 นั้น ได้พัฒนามาตั้งแต่ปี 2558 ที่เชื่อมจังหวัดปราจีนบุรี กับจังหวัดนครราชสีมา รวมถึงเชื่อมระบบโลจิสติกส์ เศรษฐกิจระหว่างภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้วย

ด้านนายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง หรือ ทล. กล่าวว่า ทางหลวงหมายเลข 304 เป็นเส้นทางสายยุทธศาสตร์ที่เชื่อมโยงภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเป็นเส้นทางสายหลักที่รองรับการขนส่งสินค้าจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือสู่ท่าเรือแหลมฉบังและนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออก ซึ่งในปัจจุบันทางหลวงสายนี้ได้มีการขยายเส้นทางเป็น 4 ช่องจราจรแล้ว ยกเว้นบริเวณ กม.191+860 ถึง กม.195+310 และบริเวณกม.207+760 ถึง กม.233+269 ที่ยังไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างได้ เนื่องจากแนวเส้นทางดังกล่าวอยู่ในพื้นที่รอยต่อของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่-อุทยานแห่งชาติทับลาน ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญส่วนหนึ่งของพื้นที่มรดกโลกดงพญาเย็นเขาใหญ่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ เมื่อ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2548 ซึ่งคณะกรรมการมรดกโลกได้มีข้อเสนอแนะให้ประเทศไทยดำเนินการจัดทำแนวเชื่อมต่อ  (Wildlife Corridor) เพื่อเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพและป้องกันสัตว์ป่าไม่ให้ได้รับอันตรายจากถูกรถชน  

ดังนั้นในปี พ.ศ. 2552 กรมทางหลวงจึงได้ดำเนินการสำรวจและออกแบบรายละเอียดและจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ทางเชื่อมผืนป่ามรดกโลกบนทางหลวงหมายเลข 304 ขึ้น ภายใต้การบูรณาการข้อมูลทางวิชาการร่วมกันระหว่างกรมทางหลวง  กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และคณะกรรมการมรดกโลก ซึ่งรายงานดังกล่าวได้ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติในปี พ.ศ. 2557 ต่อมากรมทางหลวงจึงได้ดำเนินการก่อสร้างโครงการสายนี้ขึ้น

ทั้งนี้ กรมทางหลวงได้เล็งเห็นความสำคัญและคำนึงถึงการพัฒนาเชื่อมโยงโครงข่ายทางหลวงคมนาคมที่สำคัญบนพื้นฐานของการอนุรักษ์ธรรมชาติอย่างยั่งยืน จึงได้ดำเนินโครงการก่อสร้างขยายทางหลวงหมายเลข 304 สาย อ.กบินทร์บุรี – อ.ปักธงชัย ควบคู่กับการก่อสร้างทางเชื่อมผืนป่าบริเวณ กม.191+860 ถึง กม.195+465 และบริเวณ กม.207+760 ถึง กม.233+269 ให้เป็นถนน 4 ช่องจราจร รวมระยะทางประมาณ 19 กม. 

อุโมงค์เชื่อมผืนป่าบนถนน ทล.304

สำหรับโครงการดังกล่าว แบ่งการก่อสร้างเป็น 3 ตอน ได้แก่ 1.โครงการฯ สาย อ.กบินทร์บุรี – อ.ปักธงชัย (ทางเชื่อมผืนป่า) บริเวณ กม.191+860 ถึง กม.195+310, 2.โครงการฯ สาย อ.กบินทร์บุรี – อ.วังน้ำเขียว ตอน 3 (ส่วนที่ 1) บริเวณ กม.207+760 ถึง กม.216+560 และ 3.โครงการฯ สาย อ.กบินทร์บุรี – อ.วังน้ำเขียว ตอน 3 (ส่วนที่ 2) บริเวณ กม.216+560 ถึง กม.223+269

ในส่วนของความโดดเด่นของโครงการนั้น คือ การก่อสร้างทางเชื่อมผืนป่าที่ได้ออกแบบเป็นอุโมงค์ชนิดดินตัดและถมกลับ (Wildlife Overpass) ที่บริเวณ กม.194+485 ถึง กม.194+990 โดยถมดินด้านบนอุโมงค์ ปลูกต้นไม้เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์และระบบนิเวศ เพื่อจูงใจให้สัตว์ป่าเข้ามาใช้ประโยชน์ และสามารถข้ามฝั่งไป-มาได้ ปัจจุบันบริเวณหลังคาของอุโมงค์พบรอยเท้าของสัตว์ป่าข้ามไป-มาหากันทั้งสองผืนป่าระหว่างอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และอุทยานแห่งชาติทับลาน 

นอกจากนี้ โครงการยังได้ก่อสร้างสะพานทางยกระดับเพื่อเป็นทางลอดสัตว์ป่า (Wildlife Underpass) ที่กม.192+935 ถึง กม. 193+505 ระยะทาง 570 เมตร และ กม. 209+483 ถึง กม. 209+823 ระยะทาง340 เมตร ซึ่งรถสามารถวิ่งบนสะพาน ในขณะเดียวกันสัตว์ป่าสามารถลอดใต้สะพานไป-มาได้อย่างปลอดภัย อันเป็นการรักษาไว้ซึ่งมรดกทางธรรมชาติ ส่งเสริมระบบนิเวศ ซึ่งเป็นคุณค่าโดดเด่นเป็นสากลของผืนป่ามรดกโลกดงพญาเย็น-เขาใหญ่

สำหรับ การขยายทางหลวงหมายเลข 304 สาย อ.กบินทร์บุรี – อ.ปักธงชัย ช่วยเพิ่มความปลอดภัย ลดการสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้ใช้ทาง เสริมศักยภาพด้านโลจิสติกส์ของประเทศ รวมถึงอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพในระบบนิเวศ ภายใต้การพัฒนาเชื่อมโยงโครงข่ายทางหลวงคมนาคมควบคู่ไปกับใส่ใจและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน