‘ศักดิ์สยาม’ สั่งเตรียมการรับผู้โดยสารเพิ่ม รองรับไฮซีซั่นปลายปีนี้ ด้าน ‘ธปท.’ คาดสิ้นปี 65 นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 6 ล้านคน

ศักดิ์สยามนั่งหัวโต๊ะ ประชุม กบร. สั่งเตรียมการรับมือผู้โดยสารเพิ่ม รองรับไฮซีซั่นปลายปีนี้ ป้องกันปัญหาเที่ยวบินป่วนในยุโรปสหรัฐฯ เชื่อเงินบาทอ่อนค่าดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยมากขึ้น ด้าน ธปท. เผย 1 ..-20 .. 65 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1.08 ล้านคน คาดสิ้นปี 65 มีนักท่องเที่ยว 6 ล้านคน ส่วนปี 66 แตะ 19 ล้านคน

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) เปิดเผยภายหลังที่ประชุมคณะกรรมการ กบร. ครั้งที่ 5/2565 วันนี้ (27 .. 2565) ว่า ได้สั่งการให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ประสานผู้ประกอบการทุกรายเตรียมความพร้อมเต็มที่เพื่อรองรับปริมาณเที่ยวบินและผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังพบระบบการขนส่งทางอากาศในยุโรปและสหรัฐอเมริกาโกลาหลหนักจากการเตรียมรับมือความต้องการเดินทางที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วหลังโควิด-19 คลี่คลายลง

ทั้งนี้ จากกรณีสนามบินทั่วยุโรปรวมทั้งในสหรัฐอเมริกาเกิดความโกลาหลอย่างหนักในช่วงนี้ โดยมีผู้โดยสารและสัมภาระตกค้างจากการยกเลิกเที่ยวบินและมีเที่ยวบินล่าช้าจํานวนมากตั้งแต่ เม.. 2565 เป็นต้นมา โดยในยุโรปมีการยกเลิกเที่ยวบินไปแล้วเกือบแสนเที่ยวบิน ส่วนในสหรัฐอเมริกาก็มีการยกเลิกเที่ยวบินไปไม่น้อยกว่า 2 หมื่นเที่ยวบินในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา นับตั้งแต่สถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง ทําให้มีปริมาณนักท่องเที่ยวและผู้โดยสารเพิ่มขึ้นมาก

ขณะที่ ทั้งยุโรปและอเมริกาประสบปัญหา เนื่องจากขาดแคลนบุคลากรทางการบิน ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการปรับลดพนักงานไปเป็นจำนวนมาก รวมทั้งผลพวงจากการระบาดของโควิด-19 ที่ทําให้เจ้าหน้าที่ต้องกักตัวจนขาดคนทํางานนอกจากนั้น ในหลายประเทศยังมีการนัดหยุดงานของบุคลากรในอุตสาหกรรมการบิน ทําให้มีคนทํางานไม่เพียงพอ

นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า จึงสั่งการให้ กพท.เร่งประสานกับทุกภาคส่วน ทั้งสายการบิน, สนามบิน, บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) รวมทั้งผู้ประกอบการอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อมทุกมิติไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นในระบบการบินของประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงที่จะมีเที่ยวบินและผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่เดือนนี้

สำหรับแนวโน้มของจำนวนผู้โดยสารต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามายังประเทศไทยนั้น สถานการณ์การอ่อนค่าของเงินบาท จะเป็นปัจจัยส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวในไทยมากยิ่งขึ้น เนื่องจากนักท่องเที่ยวสามารถแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์สหรัฐให้เป็นเงินบาทไทยในจำนวนที่มากขึ้น ในขณะเดียวกัน สถิติจากกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และประมาณการโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่าช่วงตั้งแต่วันที่ 1 ..-20 .. 2565 ที่ผ่านมา มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทยจำนวนทั้งหมด 1.08 ล้านคน

ขณะเดียวกัน ธปท.ได้คาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2565 เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 6 ล้านคน โดยในไตรมาส2 และไตรมาส 3 จะมีการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลง เนื่องจากเป็นฤดูกาลนอกช่วงการท่องเที่ยว (Low season) แต่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในไตรมาส 4 เนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาลการท่องเที่ยว (High season) และในปี 2566 คาดการณ์ว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นเป็น 19 ล้านคน

ทั้งนี้ สำหรับกลุ่มผู้โดยสารชาวจีน ปัจจุบันรัฐบาลจีนเริ่มผ่อนคลายมาตรการการเดินทางระหว่างประเทศกับไทย แต่ยังคงอนุญาตให้เฉพาะการเดินทางที่จำเป็นในกลุ่มนักธุรกิจ นักเรียนและนักศึกษา โดยสำนักงานการบินพลเรือนแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (CAAC) อนุญาตให้สายการบินของไทยและจีนทำการบินแบบประจำรับขนส่งผู้โดยสารระหว่างไทยกับจีนฝ่ายละ 3 เที่ยวต่อสัปดาห์ ในช่วง ..-.. 2565

โดยจากจำนวนเที่ยวบินจะยังไม่ส่งผลมากต่อการเพิ่มปริมาณผู้โดยสารที่เดินทางเข้าออกประเทศไทย แต่ถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศกับกลุ่มตลาดใหญ่อย่างจีน และเป็นจุดเริ่มต้นให้สายการบินของไทยได้เตรียมความพร้อมตามมาตรการสาธารณสุขของจีนด้วย หากสายการบินของไทยดำเนินการไปได้ด้วยดี ทางการจีนอาจเพิ่มจำนวนเที่ยวบินให้กับประเทศไทยต่อไป

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่ออีกว่า ที่ประชุม กบร. ยังมีมติที่สำคัญเพื่อกระตุ้นและส่งเสริมการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการบินของประเทศ ประกอบด้วย 1.การขยายมาตรการบรรเทาผลกระทบสายการบินจากโควิด-19 ในไตรมาส 3/2565ทั้งมาตรการด้านการลดค่าใช้จ่ายของสายการบิน และมาตรการทางการเงิน 2.มีมติเห็นชอบการทบทวนแผนแม่บทห้วงอากาศและการเดินอากาศแห่งชาติให้มีความสอดคล้องเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบันมากยิ่งขึ้น และปรับให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี

และ 3.การออกใบอนุญาตประกอบกิจการการบินพลเรือนให้ผู้ประกอบการ 2 ราย ได้แก่ บริษัทเอเซีย เอวิเอชั่น แอนด์เทคโนโลยี จํากัด และบริษัทแอร์ อินเตอร์ ทรานสปอร์ต จำกัด รวมทั้งเห็นชอบให้ต่อใบอนุญาตฯ ให้ผู้ประกอบการจำนวน 4 ราย ประกอบด้วย บริษัทเอเชี่ยน แอโรสเปซ เซอร์วิส จํากัด บริษัทแอ๊ก โกลบอล จํากัด บริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย จํากัด และบริษัทเอ็มเจ็ท จํากัด