“ศักดิ์สยาม” ลงพื้นที่ “สุวรรณภูมิ” ตรวจความพร้อม & สนองนโยบาย “นายกฯ” รับเปิดประเทศ–ผ่อนคลายมาตรการเข้าไทย 1 พ.ค.นี้ คาดผู้โดยสารแตะ 1.5 หมื่นคน ส่วนไฟลท์อินเตอร์เพิ่มเป็นวันละ 180 เที่ยวบิน
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) วันนี้ (29 เม.ย. 2565) ว่า การลงพื้นที่ในวันนี้ เพื่อตรวจความพร้อมการดำเนินงานของหน่วยงานต่างๆ ใน ทสภ. ซึ่งคาดว่าจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศจะเพิ่มมากขึ้นตามมาตรการผ่อนคลายข้อกำหนดการเดินทางเข้าราชอาณาจักร ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการดำเนินการตามนโยบายเปิดประเทศวันที่ 1 พ.ค. 2565
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการตอบรับนโยบายการเปิดประเทศ ทสภ. ได้บูรณาการร่วมกับทุกหน่วยงานที่ปฏิบัติงาน ณ ทสภ. ในการซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการคัดกรองผู้โดยสารตามข้อกำหนดใหม่ เพื่อให้การบริการแต่ละขั้นตอนตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2565 เป็นต้นไป เป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ โดยแบ่งผู้โดยสารที่เดินทางเข้าประเทศไทยเป็น 2 กลุ่ม คือ ผู้โดยสารที่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์และผู้โดยสารที่ไม่ได้รับวัคซีนแต่มีผลตรวจ RT-PCR ไม่เกิน 72 ชั่วโมง สามารถเข้าประเทศได้ตามกระบวนการผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศตามขั้นตอนปกติ
ขณะที่ ผู้โดยสารที่ไม่ได้รับวัคซีน / รับวัคซีนไม่ครบ และไม่มีผลตรวจ RT-PCR เมื่อลงจากอากาศยานเรียบร้อยแล้วต้องเข้าสู่ขั้นตอนการเข้าประเทศตามระบบ Seal Route ซึ่ง ทสภ.กำหนดให้ผ่านพิธีการศุลกากรที่ช่องทางออก C (Exit C) เท่านั้น เพื่อมาพบกับตัวแทนโรงแรม AQ ที่บริเวณประตูทางออกหมายเลข 10 และขึ้นรถโดยสารที่ทางโรงแรมจัดเตรียมไว้เพื่อเข้าสู่กระบวนการกักตัวต่อไป
โดย ทสภ. คาดว่าภายหลังการผ่อนคลายมาตรการการเดินทางเข้าประเทศไทยแล้ว จะส่งผลให้ พ.ค. 2565 ทสภ. มีจำนวนผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศเฉลี่ยวันละ 15,954 คน เพิ่มขึ้นจาก เม.ย. 2565 ที่มีจำนวนผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศเฉลี่ยวันละ 11,594 คน หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 37.61% ในส่วนของเที่ยวบินขาเข้าระหว่างประเทศมีจำนวนเฉลี่ยวันละ 180 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจาก เม.ย. 2565 ที่มีจำนวนเที่ยวบินขาเข้าระหว่างประเทศเฉลี่ยวันละ 140 เที่ยวบิน หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็น 28.57% (ข้อมูล ณ วันที่ 28 เม.ย. 2565)
อย่างไรก็ตาม ทสภ. มีความมุ่งมั่นในการดำเนินงานโดยสอดคล้องตามมาตรการของภาครัฐมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทั้งกระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และหน่วยงานต่าง ๆของทั้งภาครัฐและเอกชนเป็นอย่างดี และแรงสนับสนุนจากทุกภาคส่วนนี้ก็ทำให้เชื่อมั่นว่า ทสภ. และหน่วยปฏิบัติงานณ ทสภ. ทุกหน่วยมีความพร้อมสำหรับรองรับจำนวนผู้เดินทางที่จะเพิ่มขึ้นในระยะต่อไป
นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า ตนได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามและกำกับดูแลการดำเนินงานและการให้บริการโดยปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเพื่อให้สอดคล้องกับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น โดยคำนึงถึงความสะดวกสบายและความปลอดภัยของผู้โดยสารสูงสุด เพื่ออำนวยความปลอดภัยในการเดินทางตามมาตรการที่ศบค. กำหนด ซึ่งการผ่อนปรนมาตรการการเดินทางเข้าประเทศครั้งนี้ จะส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศกลับมาฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน ได้มีข้อสั่งการให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ดำเนินการให้เป็นไปตามขั้นตอนมาตรการเข้าประเทศใหม่ที่จะเริ่มในวันที่ 1 พ.ค. 2565 โดยกำกับดูแลสายการบินให้ปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้อง รวมทั้งติดตามมาตรการข้อปฏิบัติของประเทศต่างๆ และติดต่อประสานงานกับสถานทูต เพื่อประชาสัมพันธ์ขั้นตอนการเดินทางเข้าประเทศไทยให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทราบ และปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ ให้ประสานงานสายการบินเพื่อประชาสัมพันธ์ขั้นตอนการเดินทางเข้าประเทศไทยบนสายการบินเพื่อสร้างความเข้าใจให้ผู้โดยสารปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง
นอกจากนี้ มอบให้กรมท่าอากาศยาน (ทย.) และบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ดำเนินการประชาสัมพันธ์ ขั้นตอนการปฏิบัติของผู้โดยสารทั้งภายในประเทศ และระหว่างประเทศ โดยจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ป้ายประชาสัมพันธ์ ป้ายบอกทางภายในท่าอากาศยาน รวมทั้งจัดเสากั้นทางเดิน ในพื้นที่อาคารผู้โดยสาร เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย และจัดเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำช่วยเหลือ
อีกทั้ง มอบนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการประชาสัมพันธ์เชิงรุกเกี่ยวกับมาตรการและขั้นตอนการเดินทาง โดยดำเนินการทั้งภายในประเทศเพื่อประชาสัมพันธ์ให้คนไทยที่เดินทางไปต่างประเทศได้ทราบ และประชาสัมพันธ์บนสายการบินเพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมีความเข้าใจขั้นตอนการเดินทางที่ถูกต้อง รวมทั้งมอบให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมรองรับการให้บริการผู้โดยสารในกรณีสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ซึ่งคาดว่าจะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้น รวมทั้งหารือร่วมกับหน่วยงานและผู้ประกอบการ เพื่อเตรียมแผนรองรับให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกและเกิดความประทับใจในการใช้บริการ