กบร. ถกแผนพร้อมรับนโยบายเปิดประเทศ 120 วัน บิ๊กล็อตเฟส 2-3 รวม 26 จังหวัดใน ต.ค.นี้ ดึงบทเรียน ‘ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์’ มาปรับแก้ไข

ศักดิ์สยามสั่ง กพท. สนองนโยบายรัฐ เตรียมพร้อมนโยบายเปิดประเทศ 120 วัน รองรับนักท่องเที่ยวครั้งใหญ่สุดเฟส 2-3 รวม 26 จังหวัดใน ..นี้ พร้อมดึงบทเรียนภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์มาแก้ไข ด้านซอฟต์โลนสั่งเร่งรวมข้อมูลก่อนชง ครม.เคาะอนุมัติ พ่วงวางเป้าไทยกลับคืน CAT 1 ภายในสิ้นปีนี้

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานกรรมการการบินพลเรือน เปิดเผยภายหลังหารประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) ครั้งที่ 9/2564 ว่า ตนได้มอบนโยบายให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เตรียมความพร้อมตามนโยบายเปิดประเทศใน 120 วัน พร้อมทั้งให้ กพท.ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมการรองรับนโยบายการเปิดประเทศใน 120 วันของรัฐบาลโดย .. 2564 จะถือเป็นการเปิดครั้งใหญ่ที่สุด ทั้งระยะที่ 2 และระยะที่ 3 รวม 26 จังหวัด

ทั้งนี้ เพื่อรองรับการท่องเที่ยวทั้งของคนไทยและต่างชาติกระจายไปยังทุกภูมิภาคของประเทศ ประกอบกับเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว (High Season) อีกด้วย โดยให้นำบทเรียนจากโครงการแซนด์บ็อกซ์ที่เปิดก่อนหน้านี้ มาปรับปรุงแก้ไขและเร่งดำเนินการตามนโยบายการบินวิถีใหม่ (New Normal) ที่จะมีการนำเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาใช้ในกิจการการบินให้สามารถนำมาเริ่มใช้ได้โดยเร็ว

นอกจากนี้ ยังได้มอบนโยบายให้ กพท. เป็นศูนย์กลางดำเนินการร่วมกับกระทรวงคมนาคม ในการประสานงานและเตรียมการเพื่อให้บุคลากรทางการบินซึ่งปฏิบัติงานสัมผัสใกล้ชิดโดยตรงกับผู้โดยสาร ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เพื่อให้มีความพร้อมสำหรับการปฏิบัติการบิน โดยเฉพาะในช่วงการเปิดประเทศใน ..นี้ด้วย

นายศักดิ์สยาม ยังกล่าวถึงมาตรการการช่วยเหลือสายการบินให้ได้รับเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) ว่า ได้มอบหมายให้ กพท. เร่งรัดดำเนินการ เพื่อให้มีข้อมูลวิเคราะห์เชิงลึกถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจมหภาคและการสูญเสียความสามารถด้านกิจการการบินของประเทศ โดยเฉพาะเมื่อสถานการณ์กลับมาเป็นปกติซึ่งคาดว่าจะอยู่ในช่วงปี2568 เป็นต้นไป เพื่อเสนอข้อมูลต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาให้ความช่วยเหลือสายการบินให้ได้รับเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำโดยเร็ว

ขณะที่การยกระดับประเทศไทยกลับคืนสู่ Category 1 โดยองค์การบริหารการบินแห่งสหรัฐอเมริกา (FAA) นั้น นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ที่ประชุม กบร. ได้เน้นย้ำให้ กพท.เร่งรัดดำเนินการแก้ไขข้อบกพร่องที่ได้รับจากการตรวจประเมินตามโครงการยกระดับมาตรฐานการกำกับดูแลด้านความปลอดภัยตามการประเมินความปลอดภัยการบินระหว่างประเทศ (IASA) และ FAA โดยมีเป้าหมายเดิม คือ เพื่อยกระดับประเทศไทยกลับคืนสู่ Category 1 ภายในปี 2564

สำหรับการกลับสู่ Category 1 นั้น จะทำให้ไทยอยู่ในกลุ่มประเทศที่ระบบการกำกับดูแลความปลอดภัยการบินพลเรือนเป็นไปตามมาตรฐานของ FAA, IASA ซึ่งจะส่งผลดีให้สายการบินของไทยบินตรงไปยังสหรัฐฯ ได้และทำการบินร่วมได้ตามปกติ (Code Sharing) รวมถึงยังจะส่งผลต่อการขอเพิ่มจำนวนเที่ยวบินจากไทยไปยังประเทศอื่นที่ยึดถือผลประเมินของ FAA ด้วย เช่น เกาหลีใต้ เป็นต้น