‘คมนาคม’ ร่อนหนังสือถึงหน่วยงานในสังกัดฯ วาง 5 แนวทางปฏิบัติ รับข้อกำหนดฯ ‘ปิดแคมป์คนงาน-คัดกรองการเดินทาง 10 จังหวัด’
“คมนาคม” ส่งหนังสือถึงหน่วยงานในสังกัดฯ วาง 5 แนวทางปฏิบัติ “บก-น้ำ-ราง-อากาศ” รับข้อกำหนด “ปิดแคมป์คนงาน-หยุดก่อสร้าง-ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงาน” ชั่วคราว 30 วัน พร้อมกำหนดใช้เส้นทางคมนาคม-คัดกรองการเดินทางในพื้นที่ 10 จังหวัด สั่งสนับสนุนแนวทางของแต่ละจังหวัด สอดคล้องสถานการณ์ ลุยเข้มมาตรการ สธ. “D-M-H-T-T-A”
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคม โดยนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ได้ทำหนังสือถึงหัวหน้าหน่วยงานในสังกัด เรื่อง แนวทางปฏิบัติตามข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 25) หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2564 ที่ผ่านมา
โดยข้อ 2 ของข้อกำหนดฯ ฉบับที่ 25 ได้ระบุถึงการกำหนดมาตรการเร่งด่วนพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด โดยให้มีการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดในกลุ่มแรงงานก่อสร้าง ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) และปริมณฑล ปิดสถานที่พักอาศัย หยุดการก่อสร้าง และห้ามการเดินทางเคลื่อนย้ายแรงงานเป็นการชั่วคราวอย่างน้อย 30 วัน และข้อ 7 การใช้เส้นทางคมนาคมและตรวจคัดกรองการเดินทางในพื้นที่ 10 จังหวัด แบ่งเป็น จังหวัดชายแดนภาคใต้ 4 จังหวัด ได้แก่ จ.นราธิวาส, ปัตตานี, ยะลา และสงขลา รวมถึงเส้นทางเข้าออก กทม. และจังหวัดในปริมณฑล 5 จังหวัด ได้แก่ จ.นครปฐม, นนทบุรี, ปทุมธานี, สมุทรปราการ และสมุทรสาครนั้น
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า เพื่อให้การดำเนินการตามข้อกำหนดดังกล่าว ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงคมนาคมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงกำหนดแนวทางปฏิบัติให้หน่วยงานในสังกัดดำเนินการ 5 ข้อ ประกอบด้วย
- กรมเจ้าท่า (จท.) กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กรมท่าอากาศยาน (ทย.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) พิจารณาสั่งการหน่วยงานในกำกับทั่วประเทศ ให้สนับสนุนการดำเนินการของผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อควบคุมการเดินทาง และเคลื่อนย้ายแรงงานข้ามเขตจังหวัดอย่างเข้มงวด
- ขบ. ประสานบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) และผู้ประกอบการเดินรถให้ความร่วมมือกับจังหวัด เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงมหาดไทยในทุกพื้นที่ 10 จังหวัด ตามที่ข้อกำหนดระบุไว้ เพื่อกำหนดรายละเอียดมาตรการในการตั้งจุดตรวจ ด่านตรวจ หรือจุดสกัดเพื่อคัดกรองการเดินทางข้ามเขตจังหวัด
- จท., ขบ. กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ดำเนินการออกมาตรการสำหรับผู้ประกอบการขนส่ง ผู้ให้บริการ เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจคัดกรอง ป้องกัน ดูแล ผู้โดยสาร ตามมาตรการ D-M-H-T-T-A ของสาธารณสุขขั้นสูงสุด และเคร่งครัดในการให้บริการระบบขนส่งสาธารณะ
- สำนักงานการนินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ดำเนินการแจ้งสายการบินให้ความร่วมมือกับ ทย., บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. และจังหวัดที่เป็นจุดหมายปลายทางการเดินทางและต้นทาง เพื่อให้สามารถปฏิบัติตามมาตรการที่จังหวัดนั้นๆ กำหนดขึ้นได้อย่างถูกต้อง และมีความสะดวกในการเดินทาง
- กรณีที่หน่วยงานมีโครงการที่ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างในเขตพื้นที่ กทม.และปริมณฑลที่ได้รับคำสั่งให้หยุดการก่อสร้างเป็นการชั่วคราว หากตรวจสอบแล้วมีความจำเป็นต้องดำเนินการก่อสร้างใดให้แล้วเสร็จก่อน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อประชาชน ที่สัญจรผ่านใกล้พื้นที่ก่อสร้างในระหว่างช่วงเวลาที่ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดฯ ให้ประสานผู้ว่าราชการ กทม. หรือผู้ว่าราชการจังหวัดในจังหวัดปริมณฑล เพื่อขออนุญาตเป็นกรณีพิเศษต่อไป
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคม จึงขอให้ทุกหน่วยงานดำเนินการตามแนวทางปฏิบัติของกระทรวงคมนาคมอย่างเคร่งครัด รวมทั้งพิจารณาออกมาตรการที่จำเป็น หรือคำสั่งให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เพื่อลดการเคลื่อนย้ายการเดินทาง ทั้งทางบก ทางน้ำ ทางราง และทางอากาศ พร้อมทั้งให้ปฏิบัติตามมาตรการในการตรวจคัดกรอง ป้องกัน ดูแล ตามมาตรการ D-M-H-T-T-A แล้วรายงานผลการดำเนินการให้กระทรวงคมนาคมทราบ เพื่อสรุปรายงานเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อโปรดทราบต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับมาตรการ D-M-H-T-T-A นั้น คือ เว้นระยะห่างระหว่างกันและหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้อื่น (D-Distancing) สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา (M-Mask wearing) จัดให้มีจุดบริการเจลแอลกออฮอล์ล้างมืออย่างทั่วถึงเพียงพอ และล้างมือบ่อยๆ (H-Hand washing) ตรวจอุณหภูมิร่างกาย (T-Temperature) ตรวจหาเชื้อ (T-Testing) ใช้แอปพลิเคชันไทยชนะและหมอชนะ (A-Application)