‘คมนาคม’ เตรียมคลอดมาตรการรับข้อสั่งการ ‘ปิดแคมป์คนงาน-สถานที่ก่อสร้าง’ ในพื้นที่ กทม.-ปริมณฑล 30 วัน

“คมนาคม” เตรียมคลอดมาตรการฯ รับข้อสั่งการ “ปิดแคมป์คนงาน-สถานที่ก่อสร้าง” ในพื้นที่ กทม.-ปริมณฑล 30 วัน “ทางหลวงฯ” เผยหยุดสร้าง 4 โครงการ-ปิด 40 แคมป์ ยันไม่กระทบแผน พร้อมสั่งบริหารการจราจรอำนวยความสะดวกประชาชนต่อเนื่อง ด้าน รฟม. สั่งที่ปรึกษาฯ ปฏิบัติตาม พร้อมประเมิน-ปรับแผนสอดรับสถานการณ์ ฟาก “ทช.-รฟท.” ชี้ไม่กระทบ หลังงานส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ ตจว.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 25) ลงวันที่ 26 มิ.ย. 2564 ข้อ 2 การควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดในกลุ่มแรงงานก่อสร้างเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) และปริมณฑล และประกาศของ กทม. เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 34) ลงวันที่ 27 มิ.ย. 2564 ข้อ 2 ปิดสถานที่ก่อสร้าง ดัดแปลง หรือรื้อถอนอาคาร หรือพื้นที่ดำเนินการก่อสร้าง โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย.-27 ก.ค. 2564 (ระยะเวลา 30 วัน) หรือจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่นนั้น

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากข้อกำหนดดังกล่าวข้างต้น และคำสั่งให้หยุดงานก่อสร้าง และห้ามการเดินทางและเคลื่อนย้ายแรงงานเป็นการชั่วคราว และให้มีคําสั่งปิดสถานที่พักอาศัยชั่วคราว สําหรับคนงานทั้งภายใน และภายนอกสถานที่ก่อสร้าง ดัดแปลง หรือรื้อถอนอาคาร ตามมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 25) นั้น ในส่วนของกระทรวงคมนาคม ซึ่งมีบางโครงการก่อสร้าง อยู่ในพื้นที่ที่ประกาศ โดยเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดดังกล่าว ขณะนี้นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม อยู่ระหว่างการดำเนินการออกหนังสือข้อสั่งการให้กับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมที่เกี่ยวข้อง เพื่อปฏิบัติตามต่อไป

*** ปิด 40 แคมป์คนงาน ใน 4 โปรเจ็กต์ ทล. ***

นายอภิชาติ จันทรทรัพย์ รองอธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) ฝ่ายดำเนินงาน กล่าวว่า จากคำสั่งดังกล่าว ส่งผลให้ ทล. ต้องหยุดดำเนินการก่อสร้าง 4 โครงการ ซึ่งอาจจะกระทบกับแผนงานบางส่วน โดยภายหลังครบระยะเวลา 30 วันแล้วนั้น แต่ทั้งนี้ ยืนยันว่า ในภาพรวมของแต่ละโครงการฯ จะไม่กระทบมากนัก เนื่องจาก ณ ปัจจุบัน บางโครงการมีความคืบหน้าเร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้ ส่วนโครงการที่อาจจะล่าช้ากว่าแผนนั้น หลังจากนี้ ทล.จะเร่งรัดการก่อสร้างให้เป็นไปตามแผนที่กำหนดต่อไป

ทั้งนี้ สำหรับแคมป์คนงานก่อสร้างในเขต กทม. และปริมณฑลที่ต้องปิดเป็นการชั่วคราว มีทั้งสิ้น 40 แคมป์ ใน 4 โครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ประกอบด้วย 1.โครงการก่อสร้างทางยกระดับบนทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) มีแคมป์คนงาน จำนวน 3 แคมป์ ภาพรวมโครงการฯ เร็วกว่าแผน 2% 2.โครงการขยายทางคู่ขนานถนนวงแหวนตะวันตก ช่วงบางบัวทอง-บางปะอิน มีแคมป์คนงาน จำนวน 9 แคมป์ ขณะนี้ ภาพรวมโครงการเร็วกว่าแผน 2%

3.โครงการมอเตอร์เวย์ หมายเลข 81 สายบางใหญ่-กาญจนบุรี มีแคมป์คนงาน จำนวน 25 แคมป์ ภาพรวมโครงการเร็วกว่าแผน 6% และ 4.โครงการพัฒนาคูน้ำริมถนนวิภาวดี ระยะที่ 2 มีแคมป์คนงาน จำนวน 3 แคมป์ ภาพรวมโครงการล้าช้ากว่าแผน 2% อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ประกาศหยุดดำเนินการก่อสร้าง 30 วัน ยืนยันว่า งานก่อสร้างทั้ง 4 โครงการ จะยังเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ เนื่องจากส่วนใหญ่แล้ว โครงการจะมีความก้าวหน้าเร็วกว่าแผนที่กำหนด

*** ยืนยันไม่กระทบแผนโครงการฯ ***

นายอภิชาติ กล่าวอีกว่า การปิดแคมป์คนงาน ระยะเวลา 30 วันนั้น ทล. จะงดค่าปรับให้กับผู้รับจ้าง และผู้รับจ้างสามารถขอขยายระเวลาการดำเนินการได้ สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยช่วงที่ผ่านมา ทล. ได้ดำเนินการขยายระยะเวลาการก่อสร้างในบางโครงการฯ มาแล้ว นอกจากนี้ ทล. ยังมุ่งเน้นเรื่องความปลอดภัยในการเดินทางของผู้ใช้ทางตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม โดยได้สั่งการให้หน่วยงานด้านการบริหารการจราจร ให้ดำเนินการอำนวยความสะดวกการเดินทางให้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง และปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ

ขณะที่ นายปฐม เฉลยวาเรศ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) กล่าวว่า ในขณะนี้ ทช. ยังไม่มีโครงการก่อสร้างในเขตพื้นที่ กทม. และปริมณฑล จึงยังไม่มีแคมป์คนงานในพื้นที่ที่มีการประกาศตามข้อกำหนดดังกล่าว ทั้งนี้ ที่ผ่านมา นายศักดิ์สยาม ได้กำชับและสั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม คุมเข้มมาตรการการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยในส่วนของ ทช. จึงได้สั่งการให้มีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าปฏิบัติงาน การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล รวมทั้งการทำความสะอาดฆ่าเชื้อภายในสำนักงาน และแคมป์คนงาน โดยได้เน้นย้ำในเรื่องมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในแคมป์คนงานก่อสร้างทุกโครงการฯ อย่างเคร่งครัด

*** รฟม.สั่งที่ปรึกษาฯ เข้มมาตรการ ***

ด้านนายกิตติกร ตันเปาว์ รองผู้ว่าการ (วิศวกรรมและก่อสร้าง) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในฐานะผู้อำนวยการโครงการ เปิดเผยว่า ในส่วนของโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าทั้ง 3 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี 2.โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และ 3.โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าวสำโรง ขณะนี้มีความคืบหน้างานโยธาเกือบ 80% ปัจจุบันอยู่ในช่วงงานตกแต่ง งานสถาปัตย์ และงานติดตั้งระบบไฟฟ้าเครื่องกล

ทั้งนี้ ภายหลังจากภาครัฐมีมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดในกลุ่มแรงงานก่อสร้าง โดยสั่งปิดแคมป์คนงานก่อสร้างและพื้นที่ก่อสร้างเป็นการชั่วคราวนั้น ทาง รฟม. ได้มอบหมายให้ที่ปรึกษาฯ กำชับผู้รับจ้างก่อสร้างทุกโครงการ ให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดและประกาศของภาครัฐในการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในกลุ่มแรงงานก่อสร้างในเขตพื้นที่ กทม.และปริมณฑลอย่างเคร่งครัด

พร้อมทั้งเร่งประเมินสถานการณ์และผลกระทบต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในภาพรวม รวมถึงดำเนินการปรับแผนงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และมีผลกระทบต่อระยะเวลาตามสัญญาให้น้อยที่สุด โดย รฟม. และทุกโครงการจะยังคงดำเนินมาตรการต่างๆ ให้มีความเข้มข้นและรัดกุม อย่างต่อเนื่อง รวมถึงให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามมาตรการของภาครัฐอย่างเคร่งครัด

*** โปรเจ็กต์การรถไฟฯ ยังไม่ได้รับผลกระทบ ***

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า จากคำสั่งดังกล่าว ยังไม่ได้รับผลกระทบกับโครงการของการรถไฟฯ อาทิ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ เนื่องจากการก่อสร้างส่วนใหญ่ อยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด ส่วนโครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิตนั้น อาจจะกระทบในส่วนของเรื่องการปรับปรุงถนนเข้าสถานีรังสิต และสัญญาย่อยอื่นๆ ซึ่งเป็นงานเก็บรายละเอียด และการชำรุดตามสถานี อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า จะไม่กระทบกับสัญญา และการเดินรถอย่างแน่นอน