เริ่มพรุ่งนี้! กพท. ยกระดับมาตรการป้องกันโควิด-19 เข้มคัดกรองผู้โดยสาร-เจ้าหน้าที่ อุณหภูมิเกิน 37.3 องศา ห้ามขึ้นเครื่อง

กพท.ออกประกาศยกระดับมาตรการป้องกันโควิด-19 วอนสายการบินงดให้บริการไฟลท์ 5 ทุ่มตี 4 เข้มคัดกรองผู้โดยสารเจ้าหน้าที่ ตรวจอุณหภูมิห้ามเกิน 37.3 องศา พร้อมจัดที่นั่งเว้นระยะห่าง ดีเดย์เริ่มตั้งแต่ 1 พ.ค.นี้

รายงานข่าวจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ระบุว่า จากกรณีที่ศูนย์ข้อมูลโควิดจังหวัดภูเก็ตประกาศแจ้งผู้โดยสารของสายการบิน 3 สายการบิน รวม 7 เที่ยวบิน ที่ได้มีการเดินทางเข้าออกจังหวัดภูเก็ตตั้งแต่วันที่ 15 เม.. 2564 เป็นต้นมา ซึ่งมีผู้โดยสารที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ต้องตรวจหาเชื้อและกักตัวโดยเร็ว

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการยกระดับการดำเนินมาตรการเฝ้าระวังป้องกันโรค กระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้ กพท. ยกระดับมาตรการให้เข้มงวดรัดกุมขึ้น โดย กพท.จึงออกประกาศแนวปฏิบัติสำหรับผู้ให้บริการสนามบินและสายการบิน ในเส้นทางการบินภายในประเทศ ทั้งนี้ ให้เริ่มปฏิบัติตามตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2564 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะสิ้นสุดไป หรือมีประกาศอื่นใดเพิ่มเติม โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้

  1. ขอความร่วมมือให้สายการบินพิจารณาจำกัดการให้บริการระหว่างเวลา 23.00-04.00 . เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับผู้โดยสารในการเดินทางระหว่างสนามบินและที่พัก และเพื่อให้สอดคล้องกับการขนส่งสาธารณะประเภทอื่นๆ
  2. ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงเที่ยวบิน การยกเลิกเที่ยวบินและการรวมเที่ยวบิน ให้แจ้งและดูแลผู้โดยสารอย่างเหมาะสม ตามประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง การคุ้มครองสิทธิของผู้โดยสารที่ใช้บริการสายการบินของไทยในเส้นทางบินประจำภายในประเทศ .. 2553
  3. สนามบินจะดำเนินการตรวจคัดกรองผู้ที่จะเข้ามาใช้บริการอย่างเข้มงวด โดยต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า มีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายด้วยเครื่องวัดอุณหภูมิแบบอินฟราเรดที่ไม่ต้องสัมผัสกับร่างกายของผู้ถูกตรวจวัดและหากผู้ใดไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า หรือวัดอุณหภูมิได้สูงกว่า 37.3 องศาเซลเซียส ให้ปฏิเสธการเข้าพื้นที่สนามบินโดยเด็ดขาด
  4. เจ้าหน้าที่สายการบินจะตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของผู้โดยสารโดยใช้เครื่องวัดอุณหภูมิแบบอินฟราเรดก่อนขึ้นเครื่องบินที่สถานีต้นทาง และผู้โดยสารจะถูกตรวจวัดอุณหภูมิอีกครั้งก่อนออกจากพื้นที่สนามบิน หากอุณหภูมิสูงกว่า37.3 องศาเซลเซียส หรือมีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ เจ้าหน้าที่สนามบินจะรีบแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ทันที
  5. ให้สายการบินพิจารณาการจัดที่นั่งในเครื่องบินอย่างเหมาะสมกับจำนวนผู้โดยสารในแต่ละเที่ยวบิน โดยคำนึงถึงมาตรการเว้นระยะห่างเพื่อไม่ให้เกิดความหนาแน่นแออัด เพื่อช่วยในการป้องกันควบคุมโรค
  6. ให้สนามบินและสายการบินแจ้งเตือนผู้โดยสาร กรณีหากเป็นผู้ป่วยยืนยันหรือผู้สัมผัสเสี่ยงสูงต้องงดการเดินทางหากฝ่าฝืนอาจได้รับโทษตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ .. 2558