‘คมนาคม’ เร่งส่งมอบพื้นที่ไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน เฟสแรกก่อน 24 ต.ค.นี้ จ่อชง ครม.ขยายกรอบวงเงินค่าเวนคืนเพิ่ม 2,170 ล้าน 30 มี.ค.นี้

“คมนาคม” เร่งส่งมอบพื้นที่ไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน เฟสแรก “สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา” ไม่เกิน 24 ต.ค.นี้ เฟส 2 “พญาไท-ดอนเมือง” เร่งให้จบเร็วขึ้นกว่าแผน 1 ปี เตรียมชง ครม.ขยายกรอบวงเงินค่าเวนคืนที่ดิน 2,170 ล้าน 30 มี.ค.นี้ พร้อมลุยทำสัญญาผู้ถูกเวนคืน 754 สัญญา พื้นที่ 920 ไร่ ให้จบ ก.ย.64 ระบุปมย้ายสถานี เอกชนยังไม่เสนอให้พิจารณา เผยขอสร้างสถานีเพิ่มในอนาคตได้ ด้าน บ.รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน ตั้ง “สฤษดิ์ จิณสิทธิ์” นั่งกรรมการผู้จัดการใหญ่

นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะทำงานเร่งรัดการรื้อย้าย ส่งมอบพื้นที่รถไฟเชื่อมสามสนามบิน (สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง-อู่ตะเภา) วันนี้ (25 มี.ค. 2564) ว่า ที่ประชุมได้ติดตามความคืบหน้าการดำเนินการ 3 เรื่อง ประกอบด้วย 1.การแก้ไขปัญหาผู้บุกรุก โดยในขณะนี้ได้ดำเนินการแล้วเสร็จครบ 100% 2.การเวนคืนที่ดิน ซึ่งการดำเนินการเป็นไปตามแผน และ 3.การรื้อย้ายสาธารณูปโภค ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปพิจารณาลงรายละเอียดต่างๆ ให้ครบถ้วน อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า กรอบระยะเวลาเป็นไปตามแผนที่กำหนด หรือจะส่งมอบพื้นที่ระยะแรก ช่วงสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภาให้กับเอกชนคู่สัญญา ภายใน 24 ต.ค. 2564

รายงานข่าวจากที่ประชุมคณะทำงานฯ ระบุว่า ในวันที่ 30 มี.ค. 2564 เตรียมเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาขยายกรอบวงเงินสำหรับค่าจัดกรรมสิทธิ์และสำรวจอสังหาริมทรัพย์ กรณีเวนคืนตามสัญญาร่วมลงทุนฯ วงเงิน 2,170 ล้านบาท ให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จากเดิมที่มีมติอนุมัติไปแล้ว 3,570 ล้านบาท และจะเพิ่มเป็น 5,740 ล้านบาท ทั้งนี้ การขอขยายกรอบวงเงินเพิ่มนั้น สืบเนื่องจากภายหลังการลงพื้นที่ พบว่า พื้นที่ที่จะเวนคืน มีราคาตลาดเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงในบางพื้นที่ จะต้องมีการขยายเขตทางเพิ่มเติม

สำหรับวงเงิน 2,170 ล้านบาท แบ่งเป็น งบจำเป็นเร่งด่วน โดยขอรับงบกลางปี 2564 เพื่อจ่ายค่าเวนคืนช่วงสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา วงเงิน 607.56 ล้านบาท จะเสนอ ครม. อีกครั้งต่อไป ซึ่งถือว่ามีความจำเป็นเร่งด่วน ให้ทันส่งมอบพื้นที่ช่วงสุวรรณภูมิภายใน 24 ต.ค. 2564 และขอรับงบประมาณประจำปี 2565 วงเงิน 1,562.59 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าเวนคืน ช่วงพญาไท-ดอนเมือง วงเงิน 792.11 ล้านบาท และค่าเผื่ออุทธรณ์ ช่วงสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา (อาจไม่ต้องใช้) วงเงิน 770.48 ล้านบาท

ขณะที่ การทำสัญญาหลังประกาศค่าทดแทนทั้งหมด 754 สัญญา พื้นที่รวม 920 ไร่นั้น ขณะนี้ดำเนินการไปแล้ว 78% เหลืออีก 22% จะเร่งทำสัญญาให้แล้วเสร็จภายในต้น ก.ย. 2564 ทั้งนี้ ภายใน มิ.ย. 2564 จะทราบว่า มีผู้มาทำสัญญาเท่าใด ซึ่งหากไม่มาทำสัญญา รฟท.จะออกประกาศครอบครองและวางทรัพย์ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเวนคืนและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2562 เพื่อให้เกิดการครอบครองต่อไป

รายงานข่าวจากที่ประชุม ระบุอีกว่า การส่งมอบพื้นที่ของโครงการนั้น จะแบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะแรก ช่วงสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา จะส่งมอบพื้นที่ไม่เกินวันที่ 24 ต.ค. 2564 จากนั้นจะออกเอกสารแจ้งให้เริ่มงาน (NTP) เพื่อให้เอกชนคู่สัญญาเริ่มดำเนินการก่อสร้างต่อไป ส่วนระยะที่ 2 ช่วงพญาไท-ดอนเมือง จะเร่งรัดส่งมอบพื้นที่ไม่เกิน ธ.ค. 2565 ซึ่งจะเร็วกว่าแผนที่กำหนด 1 ปี หรือจากเดิมกำหนดส่งมอบพื้นที่ภายใน ต.ค. 2566

ในส่วนของการย้ายสถานี ตามที่ก่อนหน้านี้มีกระแสว่า เอกชนจะย้ายสถานีรถไฟความเร็วสูงพัทยา จากตำแหน่งเดิมที่เส้นทางทับกับสถานีรถไฟพัทยาในปัจจุบัน ไปตำแหน่งใหม่ใกล้ตลาดนํ้าสี่ภาคนั้น รายงานข่าว แจ้งว่า ในขณะนี้ยังไม่มีการเสนอขย้ายสถานีเข้ามาให้พิจารณา แต่ทั้งนี้ ในอนาคต หากมีความจำเป็นจะขอเพิ่มสถานีในโครงการฯ สามารถยื่นเสนอดำเนินการเพิ่มเติมได้

***ตั้งผู้บริหารระดับสูง***

ด้านรายงานข่าวจากบริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด เผยว่า บริษัทได้ประกาศแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง นายสฤษดิ์ จิณสิทธิ์ ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด รับผิดชอบบริหารและกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนธุรกิจของบริษัท ในขณะที่ นายธิติฏฐ์ นันทพัฒน์สิริ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาคณะผู้บริหาร บริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด เพื่อให้คำปรึกษาด้านการวางกลยุทธ์ และดำเนินงาน เสริมสร้างความแข็งแกร่งของบริษัทต่อไป โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค. 2564 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ที่ผ่านมานายสฤษดิ์ จิณสิทธิ์ มีบทบาทสำคัญในการทำงานร่วมกับกลุ่มทรูมายาวนานกว่า 28 ปี มีความเชี่ยวชาญด้านการดูแลงานระบบปฏิบัติการ และก่อสร้าง อีกทั้งยังได้รับมอบหมายให้บริหารจัดการโครงการสำคัญต่างๆ ของกลุ่มทรูมาโดยตลอด ในส่วนของประวัติของนายสฤษดิ์ จิณสิทธิ์นั้น สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท ด้านวิทยาศาสตร์ สาขาการจัดการวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ จากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ จากสถาบันเทคโนโลยี พระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง

สำหรับบริษัท รถไฟความเร็วสูง สายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด เป็นบริษัทเอกชนผู้ร่วมลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา) รายแรก ที่ได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาลไทย ให้พัฒนาโครงการรถไฟความเร็วสูง ในรูปแบบสัญญาการร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (Public Private Partnership : PPP) โดยมีระยะเวลาสัญญา 50 ปี มีมูลค่ากว่า 224,544 ล้านบาท

ทั้งนี้ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เป็นโครงการเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานหลักในการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) เมื่อโครงการเสร็จสมบูรณ์ คาดว่าจะสร้างรายได้ ให้กับประชาชนในท้องถิ่น โดยมีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจประมาณ 650,000 ล้านบาท รวมถึงการจ้างงานตลอดช่วงระยะเวลาการก่อสร้างสูงถึง 16,000 อัตรา และการจ้างงานในธุรกิจที่เกี่ยวข้องมากกว่า 100,000 อัตรา ใน 5 ปี