‘ศักดิ์สยาม’ นำทัพ ‘คมนาคม’ ลุยของบปี 65 เสนอเบื้องต้นมูลค่ากว่า 6 แสนล้าน จ่อชงสำนักงบฯ 28 ธ.ค.นี้

“ศักดิ์สยาม” นำทัพ “คมนาคม” ลุยของบปี 65 เสนอเม็ดเงินเบื้องต้นกว่า 6 แสนล้าน สั่งหน่วยงานพิจารณาจัดลำดับความสำคัญ-ความพร้อมของโครงการ สนองนโยบายรัฐ-ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี วางเป้าพิจารณาแล้วเสร็จภายใน 2 เดือน ก่อนส่งงานสำนักงบฯ เคาะ 28 ธ.ค.นี้ ฟากงบปี 64 ตั้งธงเบิกจ่าย 100% ครบภายใน ส.ค. ปีหน้า

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงการจัดทำคำขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ว่า จากการเสนอแผนขอรับการจัดสรรงบปี 2565 ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2563 ที่ผ่านมานั้น เบื้องต้นมีการเสนอของบฯ รวมทุกหน่วยงานวงเงิน 600,000 กว่าล้านบาท โดยเป็นการนำเสนอเบื้องต้น ซึ่งที่ผ่านมาหลังการพิจารณารายละเอียดต่างๆ แล้ว จะมีการปรับลดกรอบวงเงินลงอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ ตนได้สั่งการให้แต่ละหน่วยงานไปพิจารณาจัดลำดับความสำคัญโครงการ ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี และเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงคมนาคม รวมถึงความต่อเนื่องของโครงการที่ได้ดำเนินการแล้วให้เชื่อมโยงกัน พร้อมทั้งเป็นการกระจายงบประมาณในการพัฒนาโครงการต่างๆ ด้วย อย่างไรก็ตาม จะมีการหารือเพื่อพิจารณาลงรายละเอียดของแต่ละหน่วยงานภายในสัปดาห์นี้ ก่อนที่จะเสนอรายละเอียดขอรับการจัดสรรงบประมาณปี 2565 ให้สำนักงบประมาณพิจารณาในวันที่ 28 ธ.ค. 2563 ซึ่งเป็นไปตามกรอบปฏิทินที่กำหนดไว้ และยังมีระเวลาในการพิจารณาของกระทรวงคมนาคมประมาณ 2 เดือน

“ได้มีการเน้นย้ำว่า การเสนอเพื่อขอจัดสรรงบประมาณของหน่วยงานต่างๆ ต้องพิจารณาหน่วยงานที่มีความสำคัญ มีความต่อเนื่อง ซึ่งโครงการใดยังไม่พร้อมก็ไม่ต้องเสนอ เพราะมีประสบการณ์ในการของบปี 2564 ที่มีโครงการคาดว่าจะพร้อม แต่ไม่พร้อม สุดท้ายก็ต้องโดนตัดงบไป ทำให้เสียโอกาสในการของบเพื่อนำมาให้ในการดำเนินการพัฒนาที่สำคัญ” นายศักดิ์สยาม กล่าว

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่ออีกว่า สำหรับการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 2563 นั้น ส่วนตัวพอใจผลการเบิกจ่ายงบในระดับนึง ซึ่งตามที่ได้ตั้งเป้าหมายการเบิกจ่ายให้ได้ 100% จากข้อมูล ณ 30 ก.ย. 2563 ภาพรวมของกระทรวงคมนาคมสามารถเบิกจ่ายงบประมาณอยู่ที่ประมาณมากกว่า 90% เนื่องจากบางโครงการติดปัญหาเรื่องการร้องเรียน และการยื่นอุทธรณ์ ส่งผลให้โครงการเกิดความล่าช้า ขณะที่การดำเนินการก่อหนี้ผูกพันโครงการต่างๆ อีกประมาณ 33 สัญญานั้น คาดว่ากรมทางหลวง (ทล.) และกรมทางหลวงชนบท (ทช.) จะสามารถลงนามในสัญญาได้ภายใน ธ.ค.นี้

ในส่วนของปีงบประมาณ 2564 นั้น ในขณะนี้ได้มีการเดินหน้าขอดำเนินโครงการได้เกือบครบ 100% แล้ว โดยได้กำหนดให้การดำเนินการก่อหนี้ผูกพันและลงนามในสัญญาโครงการต่างๆ ให้ครบอย่างช้าที่สุดภายใน มี.ค. 2564 พร้อมทั้งได้วางปฏิทินงบประมาณให้ดำเนินการเบิกจ่ายครบ 100% ให้แล้วเสร็จภายใน ส.ค. 2564 เพื่อเร่งรัดเดินหน้าโครงการพัฒนาต่างๆ เนื่องจากกระทรวงคมนาคมเป็นกระทรวงที่ต้องลงทุนและสามารถส่งเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้เร็วที่สุด ส่งผลให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วย นอกจากนี้ ในส่วนของโครงการที่อยู่ระหว่างการดำเนินการนั้น ได้เร่งให้ดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม

ด้านนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมได้เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2564 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศหลังการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยหารือร่วมกับสำนักงบประมาณเพื่อวางแผนเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีของกระทรวงคมนาคมในปีงบประมาณ 2564 ทั้งนี้ ได้ตั้งเป้าการเบิกจ่ายงบประมาณของกระทรวงคมนาคม ปี 2564 ให้ได้ 100% ภายใน 31 ส.ค. 2564

นอกจากนี้ สำนักงบประมาณได้ชี้แจงแนวทางการจัดทำคำขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 โดย การดำเนินการจัดทำงบประมาณฯ ต้องสอดคล้องกับแผนต่างๆ เช่น ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ โดยอาจทำผังความเชื่อมโยงเพื่อให้เห็นชัดเจนเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น การให้ความสำคัญในการจัดสรรงบประมาณให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การนำข้อสังเกตของกรรมาธิการมาพิจารณาเพื่อหาคำตอบและปรับปรุงให้เหมาะสม การจัดทำคำของบประมาณต้องเป็นไปตามกฎหมาย การรับฟังความคิดเห็นของประชาชนว่าคำขอฯ ตรงความต้องการของประชาชนหรือไม่ และการจัดลำดับความสำคัญของโครงการ เป็นต้น