‘เบสท์กรุ๊ป’ สนลงทุน 3 หมื่นล้าน สร้าง ‘สนามบินมหาชัย’ พื้นที่ 4 พันไร่ ปั้นฮับการบินอาเซียน คาดชัดเจนปลายปีนี้
“เบสท์กรุ๊ป” บุกหารือ “ถาวร” สนลงทุนสร้าง “สนามบินมหาชัย” 3 หมื่นล้าน พื้นที่ 4,000 ไร่ รองรับเครื่องบินส่วนบุคคลขนาดกลาง-เล็ก พร้อมปั้นฮับการบินอาเซียน โชว์รูปแบบสนามบินยกระดับแห่งแรกของโลก ยันเห็นภาพชัดเจนปลายปีนี้
นายสิทธิชัย เจริญขจรกุล ประธานกลุ่มบริษัท เบสท์กรุ๊ป เจ้าของที่ดินประมาณ 4,000 ไร่ในพื้นที่มหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2563 ได้เข้าหารือร่วมกับนายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ถึงแนวทางการลงทุนพัฒนาสนามบินนานาชาติที่มหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร บนพื้นที่ราว 4,000 ไร่ เพื่อรองรับเครื่องบินขนาดกลางและเครื่องบินเล็ก พร้อมกับมีเป้าหมายพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางการบิน โดยเน้นเครื่องบินประเภทส่วนบุคคลมากกว่า ทั้งการซ่อมและผลิตรองรับในกลุ่มอาเซียน ที่มีแนวโน้มเติบโตด้านการบินอย่างต่อเนื่อง
โดยรูปแบบการก่อสร้างสนามบินดังกล่าว เพื่อแก้ไขปัญหาและป้องกันไม่ให้กระทบต่อสภาพแวดล้อมทางเสียง ความปลอดภัย ไม่มีการกีดขวางทางน้ำ จึงออกแบบก่อสร้างให้เป็นสนามบินยกระดับสูงจากพื้นประมาณ 20 เมตร ระยะทางรันเวย์ยาวประมาณ 2.5 กิโลเมตร โดยไฮไลต์ใต้รันเวย์นั้น สามารถนำไปพัฒนาเชิงพาณิชย์ สำนักงาน ที่พักอาศัย ฯลฯ ได้อีกมากมายด้วย
สำหรับผลการหารือเบื้องต้นนั้น นายถาวร ยืนยันว่า สอดคล้องกับการพัฒนาตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และยุทธศาสตร์โลจิสติกส์ภาคใต้ของไทย จึงพร้อมผลักดันให้เกิดผลเป็นรูปธรรมจริง อีกทั้งยังพร้อมจะก่อสร้างถนนเส้นทางเชื่อมโยงในพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนและนักลงทุนสามารถเข้าถึงบริการได้อย่างสะดวกรวดเร็วขึ้น ทั้งนี้ ผลลัพธ์ของการพัฒนาเมกะโปรเจ็กต์นี้ จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของจังหวัดสมุทรสาคร กรุงเทพมหานคร และใกล้เคียง ประชาชนในพื้นที่เดินทางสะดวก ปลอดภัย รวดเร็วขึ้น
“พื้นที่ดังกล่าว เหมาะพัฒนาให้เป็นฮับสายการบินขนาดกลางและเครื่องบินเล็กส่วนบุคคล ทั้งการผลิตและการซ่อมบำรุง โดยได้ชี้ให้ท่านถาวรเห็นว่า หากโครงการนี้เกิดขึ้น จะส่งผลดีต่อประเทศชาติ และพื้นที่มหาชัย กทม. และโซนใกล้เคียงอย่างไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างงาน สร้างบุคลากรด้านการบิน วิศวกร ส่งเสริมด้านโลจิสติกส์ ที่จะสนับสนุนด้านสินค้าเกษตร ประมง ไปยังจังหวัดต่างๆ ได้มากขึ้น” นายสิทธิชัย กล่าว
นายสิทธิชัย กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ โครงการดังกล่าว ยังจะส่งผลดีต่อการเพิ่มปริมาณนักท่องเที่ยวระดับสูงเข้ามาในพื้นที่มหาชัยมากขึ้น ก่อให้เกิดการพัฒนาด้านที่อยู่อาศัย โรงแรม ร้านอาหาร ร้านค้าและส่วนเกี่ยวเนื่องอื่นๆตามมาอีกมากมาย โดยเฉพาะด้านบริการที่ประเทศไทยมีต้นทุนทางด้านนี้ดีกว่าอีกหลายประเทศ โดยภายในโครงการนอกจากมีอาคารเพื่อการผลิตและซ่อมบำรุงด้านการบินแล้วยังจัดพื้นที่ส่วนหนึ่งเป็นสวนหย่อมในการเพิ่มพื้นที่สีเขียว อาคารที่พักอาศัย สนามกีฬา ให้ชุมชนได้เข้ามาใช้บริการได้อีกด้วย
“ยืนยันว่าพื้นที่ของกลุ่มเบสท์กรุ๊ปมีรองรับไว้เพียงพอ แต่หากมีการเวนคืนก็จะเสนอเงื่อนไขให้เป็นทางเลือกกับผู้ที่จะได้รับผลกระทบเป็นที่น่าพอใจ จะพยายามให้กระทบด้านการเวนคืนน้อยที่สุดเพราะอาจมีบางจุดต้องโดนเวนคืนเพื่อการสร้างถนนเชื่อมโยงให้เข้าถึงบริการได้อย่างสะดวก ปลอดภัยนั่นเอง” นายสิทธิชัย กล่าว
นายสิทธิชัย กล่าวอีกว่า หลังจากนี้จะร่วมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ต่อไป พร้อมกับการเร่งออกแบบ การเปิดรับฟังความเห็นประชาชน การศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ตลอดจนการเสนอขอความเห็นชอบในขั้นตอนต่างๆเพื่อเร่งผลักดันให้เกิดผลเป็นรูปธรรมจริง คาดว่าจะเห็นภาพชัดเจนได้ในตั้งแต่ปลายปี 2563 เป็นต้นไป
“สิ่งหนึ่งที่จะเห็นภาพชัด คือ การลดระยะเวลาและต้นทุนทางเศรษฐกิจระบบโลจิสติกส์ ให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้ สำหรับความเหมาะสมด้านศักยภาพทำเลมหาชัยแห่งนี้ลักษณะที่ดินอยู่ใกล้อ่าวไทย ไม่มีสิ่งปลูกสร้างกีดขวาง สะดวกในการจัดสภาพการจราจรทางอากาศ สร้างแหล่งท่องเที่ยว และการพักผ่อนแห่งใหม่ให้เกิดขึ้นในพื้นที่ได้อีกทางหนึ่งด้วย” นายสิทธิชัย กล่าว