เสร็จแล้ว! ทล. ทุ่มงบ 516 ล้าน ขยายถนน 4 เลน ทล.1074 สายบ้านคอปล้อง-บ้านบึงบ้าน @กำแพงเพชร หนุน ศก.-ท่องเที่ยว

“กรมทางหลวง” ทุ่มงบ 516 ล้าน ขยายถนน 4 ช่องจราจร ทล.1074 สายบ้านคอปล้อง – บ้านบึงบ้าน จ.กำแพงเพชร ระยะทาง 11.475 กม. เสร็จแล้ว ช่วยลดเวลาเดินทาง กระตุ้นเศรษฐกิจการขนส่ง-ท่องเที่ยว

นายปิยพงษ์ จิวัฒนกุลไพศาล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ทล. ได้ดำเนินนโยบายพัฒนาโครงข่ายทางหลวงทั่วประเทศให้เชื่อมโยงกันอย่างสมบูรณ์ เพื่อรองรับปริมาณการจราจรที่เพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบัน สอดคล้องตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ด้านโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์ โดย ทล. ได้ดำเนินโครงการก่อสร้างขยายทางหลวงหมายเลข 1074 สายบ้านคอปล้อง – บ้านบึงบ้าน ในพื้นที่ อ.บึงสามัคคี จ.กำแพงเพชร ระยะทาง 11.475 กิโลเมตร (กม.) จากขนาด 2 ช่องจราจรเป็นขนาด 4 ช่องจราจร วงเงินงบประมาณในการก่อสร้างรวมทั้งสิ้น 516.9 ล้านบาท ล่าสุดได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ พร้อมเปิดให้ประชาชนใช้สัญจรอย่างเป็นทางการแล้ว เพื่อเพิ่มศักยภาพการเดินทางและขนส่ง รองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวระหว่าง จ.กำแพงเพชร และ จ.พิจิตร

ทั้งนี้ ทางหลวงหมายเลข 1074 ถือเป็นเส้นทางคมนาคมสายสำคัญที่เชื่อมโยงระหว่างอำเภอขาณุวรลักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร (ทล.1) กับอำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร (ทล.117) ผ่านอำเภอบึงสามัคคี ซึ่งประชาชนนิยมใช้เป็นเส้นทางสัญจรและขนส่งสินค้าเกษตรกรรม รวมถึงเป็นเส้นทางสู่แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ด้วยเหตุนี้  ทล. โดยสำนักก่อสร้างทางที่ 2 จึงได้ดำเนินโครงการดังกล่าว เพื่อลดความหนาแน่นของการจราจรบนทางหลวงหมายเลข 117 และสนับสนุนการเดินทางระหว่างจังหวัดให้มีความคล่องตัว สะดวก และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น สำหรับลักษณะโครงการ เป็นการก่อสร้างขยายช่องจราจรจากเดิมขนาด 2 ช่องจราจร เป็นมาตรฐานทางชั้นพิเศษขนาด 4 ช่องจราจร (ไป-กลับ ข้างละ 2 ช่องจราจร) ผิวจราจรเป็นแบบพอร์ตแลนด์ซีเมนต์คอนกรีต มีความกว้างช่องจราจรละ 3.50 เมตร ไหล่ทางด้านนอกกว้าง 2.25 เมตร แบ่งทิศทางการจราจรด้วยเกาะกลางแบบยก (Raised Median) และแบริเออร์คอนกรีต (Concrete Barrier) เพื่อความปลอดภัยสูงสุด พร้อมทั้งติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างและไฟกระพริบตลอดแนวเส้นทาง และติดตั้งป้ายจราจรและสัญญาณเตือนต่างๆ ตามมาตรฐานด้านวิศวกรรมงานทาง

นายปิยพงษ์ กล่าวต่อว่า โครงการนี้ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างครอบคลุม โดยช่วยให้การเดินทางโดยรวมมีความรวดเร็วขึ้น สามารถประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิง พร้อมยกระดับความปลอดภัยและลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุรุนแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งโครงข่ายคมนาคมที่สะดวกและปลอดภัยนี้ ไม่เพียงแต่จะเพิ่มศักยภาพการขนส่งสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันและกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่เท่านั้น แต่ยังส่งเสริมการท่องเที่ยวในท้องถิ่นและช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการสาธารณะที่สำคัญ เช่น โรงพยาบาลและสถานศึกษา ได้อย่างสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น

กรมทางหลวงมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศอย่างยั่งยืน ขอความร่วมมือผู้ใช้ทางปฏิบัติตามกฎจราจรและป้ายเตือนต่างๆ เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง“ นายปิยพงษ์ กล่าว