‘พิพัฒน์‘ หารือร่วม ’สหภาพฯ กทพ.‘ ฟังข้อเสนอแก้จราจร โชว์นโยบาย ’ค่าทางด่วน 50 บาทตลอดสาย’ ยันรอบคอบ-โปร่งใส
”พิพัฒน์“ หารือ “สหภาพแรงงาน กทพ.” รับฟังข้อเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาการจราจรบนโครงข่ายทางด่วน พร้อมโชว์นโยบายลดค่าครองชีพ “ค่าทางด่วน 50 บาทตลอดสาย“ ยันรอบคอบ-โปร่งใส-ไม่เพิ่มภาระหนี้สาธารณะ มุ่งยึดผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลาง
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมหารือกับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (สร.กทพ.) วันนี้ (10 พ.ย. 2568) ว่า การหารือครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดีที่ทุกฝ่ายได้ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเชิงสร้างสรรค์ เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดในการพัฒนาโครงข่ายทางพิเศษ โดยเฉพาะโครงการทางพิเศษยกระดับชั้นที่สอง (Double Deck Expressway) ซึ่งเป็นเพียงหนึ่งในกว่า 21 โครงการของ กทพ. ที่อยู่ในแผนการแก้ไขปัญหาการจราจรบนโครงข่ายทางพิเศษทั้งระบบที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ไดัมีมติรับทราบผลการศึกษาตามติคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2565 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ได้ย้ำแนวทางการพิจารณาโครงการใด ๆ ว่าหลักสำคัญ คือ ผู้ใช้งานจริงต้องได้ประโยชน์ รัฐต้องไม่เสียประโยชน์ องค์กรต้องอยู่ได้ และเอกชนต้องไม่เอาเปรียบเกินไป โดยรัฐบาลมีแนวทางลดภาระค่าครองชีพ โดยหาแนวทางเพื่อจัดทำมาตรการสนับสนุน เช่น รถไฟฟ้า 40 บาทตลอดวัน, ค่าทางด่วน 50 บาทตลอดสาย เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ทุกอย่างต้องทำด้วยความรอบคอบ โปร่งใส และไม่เพิ่มภาระหนี้สาธารณะของประเทศ

นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า การลดค่าทางด่วนให้มองในภาพรวมและผลที่จะได้รับ ซึ่งไม่ใช่เรื่องของรายได้ลดลงเพียงด้านเดียว เพราะหากบริหารจัดการอย่างเหมาะสม จะเพิ่มปริมาณผู้ใช้บริการและสร้างสมดุลระหว่างรัฐ เอกชน และผู้บริโภค พร้อมกล่าวขอบคุณสหภาพแรงงานฯ ที่นำข้อมูลมาชี้แจงและแสดงจุดยืนเพื่อประโยชน์ของผู้ใช้ทาง ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องนำข้อเสนอและเอกสารจากสหภาพแรงงานฯ ไปศึกษาต่อในรายละเอียด โดยจะหารือร่วมกับปลัดกระทรวงคมนาคม กทพ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงรายงานต่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาอย่างรอบด้านก่อนดำเนินการ
ด้านนายมานพ เกื้อรัตน์ เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ กล่าวว่า การเข้าพบในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อให้ข้อมูลเชิงเทคนิคและข้อเสนอแนะต่อกระทรวงคมนาคมเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินโครงการ Double Deck โดยเฉพาะในประเด็นผลกระทบต่อผู้ใช้งานทางพิเศษ การต่ออายุสัมปทาน และการดูแลประชาชนที่อยู่ในแนวก่อสร้าง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและความสมดุลระหว่างทุกฝ่าย ทั้งนี้ ขอขอบคุณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่เปิดใจรับฟังความคิดเห็น และยินดีดำเนินการร่วมกับกระทรวงคมนาคมในการศึกษาทางเลือกต่าง ๆ อย่างรอบคอบ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดกับผู้ใช้งานทางพิเศษและประชาชนในภาพรวม
