‘พิพัฒน์‘ ปล่อยเรือตรวจการณ์ดูแลความปลอดภัยทางน้ำ ’วันลอยกระทง‘ ปี 68

“พิพัฒน์” เดินหน้ายกระดับความปลอดภัยทางน้ำทั่วประเทศ รับวันลอยกระทงปี 68 สั่งกรมเจ้าท่าคุมเข้ม 24 ชม. ระดมกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 900 นาย ขับเคลื่อนนโยบาย “ความปลอดภัยเชิงรุก”

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีปล่อยแถวเจ้าหน้าที่และเรือตรวจการณ์เพื่อดูแลความปลอดภัยทางน้ำทั่วประเทศในช่วงเทศกาลวันลอยกระทงว่า ค่ำคืนวันลอยกระทงเป็นช่วงเวลาที่คนไทยทุกคนรอคอย กระทรวงคมนาคม โดยกรมเจ้าท่า (จท.) จึงให้ความสำคัญสูงสุดกับความปลอดภัยของประชาชนเพื่อให้ทุกคนสามารถร่วมสืบสานประเพณีได้อย่างมีความสุขและมั่นใจ โดยได้สั่งการให้ จท. ดำเนินมาตรการเข้มข้นทั้งในเชิง ป้องกัน ควบคุม และตอบสนองเหตุการณ์ อย่างรอบด้านซึ่งวันนี้เราไม่ได้เพียงแค่เพิ่มเจ้าหน้าที่หรือเรือตรวจการณ์แต่เรากำลังปรับระบบการบริหารความปลอดภัยทางน้ำของประเทศให้เป็น ‘ความปลอดภัยเชิงรุก’ ที่เน้นการป้องกันก่อนเกิดเหตุ

ทั้งนี้ ได้เตรียมนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เสริมการตรวจสอบและดูแลความปลอดภัยทางน้ำ อาทิ ระบบตรวจสอบเรืออัจฉริยะ ที่เชื่อมโยงข้อมูลเรือกับฐานข้อมูลกลางแบบเรียลไทม์ การใช้โดรนตรวจตราพื้นที่เสี่ยงและเส้นทางเดินเรือสำคัญ เพื่อเฝ้าระวังอุบัติเหตุล่วงหน้า และ ระบบเตือนภัยทางน้ำล่วงหน้า ที่ประสานข้อมูลกับกรมอุตุนิยมวิทยาและหน่วยงานท้องถิ่น ซึ่งนโยบายความปลอดภัยของกระทรวงคมนาคม ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงเทศกาลลอยกระทงเท่านั้น แต่เป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายระยะยาวในการผลักดันประเทศไทยสู่ ‘Vision Zero’ ที่เดินทางปลอดภัยทุกเส้นทาง ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศอย่างยั่งยืน

ด้านนายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดี จท. กล่าวว่า จท. ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางน้ำ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงจัดตั้งจุดอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยทางน้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 5 จุด ได้แก่ ท่าเรือริเวอร์ซิตี้ ท่าเรือไอคอนสยาม ท่าเรือเอเชียทีค ท่าเรือเทอร์มินอล 2 และท่าเรือคลองโอ่งอ่าง พร้อมจัดกำลังเจ้าหน้าที่ประจำท่าเทียบเรือ 62 แห่ง รวม 164 นาย และเรือตรวจการณ์ 8 ลำ ในส่วนภูมิภาคสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค 1 – 7 และสำนักงานสาขาได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางน้ำอีก 41 แห่ง รวมกำลังพลทั่วประเทศกว่า 800 นาย พร้อมเรือตรวจการณ์ 70 ลำ เพื่อบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กองทัพเรือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กองตำรวจน้ำ ตำรวจท่องเที่ยว มูลนิธิ และเครือข่ายอาสาวารี

ทั้งนี้ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตราและเฝ้าระวัง ขอความร่วมมือประชาชนและนักท่องเที่ยว สวมใส่เสื้อชูชีพทุกครั้งเมื่อโดยสารเรือหรือทำกิจกรรมทางน้ำ รวมทั้งปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัยสูงสุด หากพบเห็นเหตุการณ์ที่อาจก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยทางน้ำ สามารถแจ้งสายด่วนกรมเจ้าท่า โทร. 1199 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง