NOSTRA Logistics จ่าฝูงด้านเทคโนโลยี GPS “เราไม่เคยกลัวการแข่งขันในตลาด”

บริษัท จีไอเอส จำกัด หนึ่งในบริษัทภายใต้การนำของกลุ่มบริษัท ซีดีจี (CDG Group) ที่ให้บริการติดตั้งและวางระบบที่เกี่ยวข้องกับระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS System Integrator) และมีความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำการให้บริการระบบดังกล่าวอย่างครบวงจร ตั้งแต่ดำเนินการศึกษา ให้คำปรึกษา จัดทำแผนงาน ออกแบบ วางระบบ พร้อมติดตั้งอุปกรณ์และให้บริการด้านโซลูชั่น

ซึ่งหนังสือพิมพ์ TRANSPORT JOURNAL ได้รับเกียรติจาก คุณปิยวดี หงษ์ภักดี หรือคุณอุ้ม ผู้อำนวยการส่วนผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ บริษัท จีไอเอส จำกัด มาพูดคุยและเปิดเผยเรื่องราวเกี่ยวกับระบบ GPS ของบริษัท ที่หลายคนน่าจะรู้จักกันดีในชื่อว่า “NOSTRA Logistics” (นอสตร้า โลจิสติกส์) ระบบบริหารจัดการการขนส่งพร้อมแผนที่ความละเอียดสูง
ที่เพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย

คุณปิยวดี เริ่มเล่าว่า บริษัท จีไอเอส จำกัด เราทำเกี่ยวกับแผนที่ โลเคชั่น และระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ ขณะที่ระบบโลจิสติกส์ก็เป็นส่วนหนึ่งในบริษัทของเรา ส่วนนอสตร้า โลจิสติกส์ จะทำตั้งแต่โซลูชั่นไอทีที่เริ่มต้นวางแผน จนกระทั่งติดตาม ออกรีพอร์ท และออกมาเป็น Dashboard (สิ่งที่แสดงข้อมูลในลักษณะกราฟ ตัวเลข สี เพื่อสรุปข้อมูลต่างๆ ให้ผู้ใช้งานสามารถดูข้อมูลในภาพรวมได้ในทันทีบนแอพพลิเคชั่น)

นอสตร้า โลจิสติกส์ ครอบคลุมตั้งแต่เรื่องวางแผน การหาค่าพิกัด ระบบทรานสปอร์ต แมเนจเม้นต์ ซิสเต็ม มาจนถึง GPS ระบบติดตามรถต่างๆ ทั้งตัวที่เป็นแบ็กส์บ็อกซ์รวมทั้งแอพพลิเคชั่นในมือถือ ข้อมูลต่างๆ สามารถอ่านค่าออกมาจากสมองกลในรถได้อย่างรวดเร็ว

“ด้วยเทคโนโลยีระบบติดตามรถที่เราพัฒนามาเรื่อยๆ ตอนนี้สามารถรายงานทุกอย่างได้ครอบคลุมกว่าเดิม เช่นว่า มีการทำโอเวอร์สปีดหรือไม่ ดูได้ถึงขั้นว่าการเลี้ยวรถเลี้ยวด้วยองศาแค่ไหน สามารถนำข้อมูลที่ได้มาประมวลผลต่อว่าการขับขี่ลักษณะนั้นสามารถทำให้เกิดอุบัติเหตุได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งทำให้เราได้ข้อมูลการขับขี่ละเอียดมากขึ้นและสามารถนำข้อมูลที่ได้ส่งมอบให้กับบริษัทต้นสังกัดของรถคันนั้นๆ เอามาใช้ประโยชน์ได้”

จุดแข็งและความต่างของนอสตร้า โลจิสติกส์ ถ้าเทียบกับโซลูชั่นระบบ GPS ของรายอื่นๆ นั้น คุณอุ้ม เผยว่า เรามีจุดแข็งในแง่ของเทคโนโลยีที่เราได้นำเทคโนโลยีที่เรียกว่าเทเลเมติกส์ (Telematics) มาใช้ทำให้ได้ข้อมูลจากรถขนส่งต่างๆ เยอะแยะมากมาย เราจึงเอาข้อมูลเหล่านี้ที่เป็น Big data กับเทคโนโลยีทางด้าน IoT เข้ามาประมวลผลและออกมาในรูปแบบของรีพอร์ท ที่ผู้ใช้งานสามารถเอาไปใช้งานได้ง่ายๆ

“ทุกวันนี้เทคโนโลยีทางด้านโลจิสติกส์มีอยู่มากมาย แต่ที่ผ่านมาลูกค้าก็จะใช้ระบบ TMS ระบบหนึ่ง ระบบ GPS ระบบหนึ่ง กล้องวงจรปิดที่อยู่ในรถอีกหนึ่งตัว กล้องป้องกันการหลับในอีกหนึ่งอัน ซึ่งเขาจะต้องดูหลายอัน หากเกิดเหตุใดๆ เขาจะต้องนำมาวิเคราะห์กันนานมาก แต่ปัจจุบันสิ่งที่นอสตร้า โลจิสติกส์ กำลังทำและกำลังจะไปในอนาคตอันใกล้นี้ก็คือ การอินทิเกรท ทั้งฮาร์ดแวร์และข้อมูลที่ได้จากอุปกรณ์เหล่านี้ และแสดงผลในรูปแบบของรายงานที่ลูกค้าสามารถนำไปใช้งานได้ทันที โดยไม่ต้องเสียเวลามอนิเตอร์หลายๆ สิ่ง”

คุณปิยวดี กล่าวต่อถึงภาพรวมการตลาดในธุรกิจ GPS ว่า ภาพรวมการตลาดโตขึ้นอย่างแน่นอน ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ
ไปมาก รวมกับเรื่องของกฎหมายของกรมการขนส่งทางบกเองออกข้อบังคับให้รถโดยสาร รถขนส่งเชิงพาณิชย์ จะต้องติดตั้งอุปกรณ์และระบบ GPS เพื่อเน้นด้านความปลอดภัย ก็จะทำให้ระบบขนส่งของไทยพัฒนาทัดเทียมกับต่างชาติมากขึ้น

“ตลาดโตขึ้นมหาศาลมากค่ะ เพราะผู้ประกอบการจากเดิม ก็มีไม่กี่ราย ตอนนี้เพิ่มขึ้นมาแข่งขันกันในตลาดสูง แต่เราไม่กลัวการแข่งขันเลยค่ะ จากการที่กรมการขนส่งทางบกจะติดตั้ง GPS บนรถให้ได้ 1 ล้านคันภายในปี 2562 แต่เท่าที่ทราบข้อมูลตอนนี้ยังติดตั้งได้ไม่ถึงครึ่ง เพราะฉะนั้นเราจึงมองเห็นกลุ่มลูกค้าอีกเยอะที่เราจะเข้าไปทำตลาด และมั่นใจว่าด้วยเทคโนโลยีของนอสตร้า โลจิสติกส์ที่ก้าวล้ำ เราจะไม่แข่งในด้านโปรดักส์เหมือนเจ้าอื่นๆ เพราะจุดแข็งเราคือ เทคโนโลยี การอินทิเกรชั่น และการบริการที่ครบวงจร”

“บริษัท จีไอเอส ของเราถือว่าเป็นผู้นำระดับต้นๆ ที่นำเทคโนโลยี โซลูชั่น อันทันสมัยมารวบรวมไว้ในอุปกรณ์และระบบ GPS เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และมีความแม่นยำในข้อมูลสูงที่สุด ปัจจุบันเราใช้วิธีการ sourcing และ OEM อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่ดีที่สุดในเทคโนโลยีนั้นๆ เข้ามาประกอบเป็นโซลูชั่นของเรา เราไม่ผูกติดกับการผลิตอุปกรณ์แบบนี้แล้วต้องใช้โซลูชั่นแบบนี้เพื่อมาตอบโจทย์ของเราเท่านั้น เรามองว่าเทคโนโลยีมันไปทางไหนและมีตัวฮาร์ดแวร์ที่พัฒนาให้ดีขึ้นได้เราก็จะมุ่งไปทางนั้น ส่วนสิ่งที่เราทำ R&D อย่างต่อเนื่องคือเทรนด์ของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปบวกกับซอฟท์แวร์ถือเป็นสิ่งสำคัญของบริษัทเราที่ต้องทำ”

คุณปิยวดี กล่าวเสริมในแง่ธุรกิจของบริษัท ว่า ลูกค้าหลักของเราจะเป็นองค์กรขนาดตั้งแต่กลางถึงใหญ่ที่เน้นการอินทิเกรชั่นเยอะๆ กับอีกส่วนคือลูกค้าที่เป็น SME ที่เราออกแบบระบบการใช้งานที่ไม่ซับซ้อนให้ รูดบัตรติดตามระบบ GPS แบบใช้งานง่ายให้ เป็นต้น สำหรับเป้าหมายการเติบโตในปีนี้ ถ้าเทียบกับปีก่อนเราคาดว่าจะเติบโต 30% ช่วง 3-5 ปีหลังต้องบอกว่าเติบโตมากจากการที่บ้านเรามีระบบ 3G และ 4G ขึ้นมาใช้ อีกปัจจัยคือข้อบังคับการติดตั้ง GPS ที่ออกโดยกรมการขนส่ง
ทางบก ก็ช่วยให้บริษัทเติบโตอย่างรวดเร็ว