‘กรมรางฯ’ อัปเดตความคืบหน้าสร้างรถไฟทางคู่ ‘เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ’ เร่งขุดเจาะอุโมงค์ คาดทั้งโครงการฯ เสร็จปี 71

กรมรางฯอัปเดตรถไฟทางคู่สายเด่นชัยเชียงรายเชียงของระยะทาง 323 กม. เร่งขุดเจาะอุโมงค์แม่กา” 2,700 เมตร เผยเสร็จใน 4 ปี พร้อมโชว์ความว้าวอุโมงค์ทั้งโครงการ 6.2 กม. @ลำปาง คาดทั้งโครงการฯ แล้วเสร็จปี 71 เพิ่มศักยภาพการแข่งขันของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน รองรับเชื่อมโยงเส้นทางขนส่งทางรางสายใหม่

นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยในการร่วมสัมมนาเชิงปฏิบัติการเตรียมความพร้อมเพื่อเพิ่มศักยภาพการพัฒนาพื้นที่และเสริมสร้างโอกาสในการแข่งขันของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ในการรองรับและเชื่อมโยงเส้นทางระบบขนส่งทางรางสายใหม่รถไฟทางคู่สายเด่นชัยเชียงรายเชียงของวันนี้ (2 .. 2566) ว่า ตนได้บรรยายพิเศษในหัวข้อรถไฟทางคู่ เด่นชัยเชียงรายเชียงของ เส้นทางสายใหม่ กับโอกาสในการแข่งขันทางด้านเศรษฐกิจของประเทศไทย และกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2”

ทั้งนี้ แผนแม่บทการพัฒนาโครงข่ายทางรถไฟ ระยะ 20 ปี ประกอบด้วย การพัฒนารถไฟทางคู่ การพัฒนาทางรถไฟสายใหม่ การพัฒนารถไฟความเร็วสูง พร้อมทั้งนำเสนอสถานะความคืบหน้า โดยโครงการรถไฟทางคู่สายใหม่ ช่วงเด่นชัยเชียงรายเชียงของ ระยะทาง 323.10 กิโลเมตร (กม.) ผ่านพื้นที่ 4 จังหวัดได้แก่ แพร่ ลำปาง พะเยา และเชียงราย ซึ่งอยู่ในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 จำนวน 3 จังหวัด (ยกเว้นจังหวัดลำปาง) 17 อำเภอ 59 ตำบล

โดยมีสถานีและที่หยุดรถไฟรวม 26 แห่ง มีย่านกองเก็บและขนถ่ายตู้สินค้า (CY) จำนวน 4 แห่ง ที่สถานีแพร่ สถานีพะเยา สถานีป่าแดด และสถานีเชียงราย รวมถึงมีลานกองเก็บตู้สินค้าคอนเทนเนอร์เชื่อมต่อกับศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของอีก 1 แห่ง ปัจจุบันอยู่ระหว่างทำสัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ที่ถูกเวนคืนได้มากกว่า50% และส่งมอบพื้นที่ให้แก่ผู้รับจ้างเพื่อดำเนินการก่อสร้างต่อไป

นายพิเชฐ กล่าวต่อว่า ขร. ได้มีการลงพื้นที่อุโมงค์แม่กา หนึ่งในสี่ที่เป็นอุโมงค์คู่ทางเดี่ยว มีความยาว 2,700 เมตรซึ่งปัจจุบันได้ขุดเจาะไปแล้วประมาณ 42-44 เมตร คาดว่าจะใช้เวลาขุดเจาะประมาณ 4 ปี แต่โครงการดังกล่าว จะมีอุโมงค์ที่ยาวที่สุด 6.2 กม. ที่ .งาว .ลำปาง ทั้งนี้ เส้นทางรถไฟสายใหม่เด่นชัยเชียงรายเชียงของ เป็นเส้นทางรถไฟที่เชื่อมต่อกับแหล่งเกษตรกรรม รองรับการขนส่งสินค้าการเกษตรทางราง ซึ่งปัจจุบันมีการขนส่งสินค้าทางรางประเภทควบคุมอุณหภูมิไปยัง สปป.ลาวและสาธารณรัฐประชาชนจีน

นอกจากนี้ ยังสามารถพัฒนาเชื่อมต่อกับนิคมอุตสาหกรรมสีเขียวสำหรับสินค้าเกษตรและอาหาร การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แม่เมาะได้อีกด้วย รวมทั้งมีการเชื่อมต่อกับแหล่งท่องเที่ยว  และรองรับการเชื่อมต่อระบบรางกับประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย ซึ่งเมื่อโครงการฯ ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2571 จะช่วยพลิกโฉมการเป็น Logistic Hub ของภูมิภาค เชื่อมโยงการเดินทางและการขนส่งสินค้าหลายรูปแบบ

ขณะเดียวกัน ยังเชื่อมต่อการขนส่งไทยลาวจีน  ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงตามระเบียงเศรษฐกิจแนวเหนือใต้ (North-South Economic Coridor :NSEC) เปิดประตูการค้าชายแดนภาคเหนือ  ช่วยให้เกิดการจ้างงาน สร้างโอกาสที่ดีต่อการค้าและการลงทุน ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและช่วยการกระจายความเจริญให้กับคนในพื้นที่ ช่วยลดระยะเวลาการเดินทาง มีความปลอดภัยในการเดินทางมากยิ่งขึ้น และเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ให้ดีขึ้นต่อไป