ทีเส็บดึงข้อมูลอัจฉริยะ (Intelligence) ติดอาวุธไมซ์ไทยรับการแข่งขันธุรกิจไมซ์ทั่วโลก

ทีเส็บ กระตุ้นผู้ประกอบการไมซ์ไทยปรับตัว ชี้ปัจจุบันรัฐบาลทั่วโลกให้ความสำคัญกับการสร้างเศรษฐกิจด้วยธุรกิจไมซ์ ดึงการใช้ข้อมูลอัจฉริยะ (Intelligence) ผสานการวิเคราะห์ ตอบโจทย์พฤติกรรมนักธุรกิจไมซ์ที่เปลี่ยนแปลงไป เผยยุทธศาสตร์และแผนงาน 16 โครงการไฮไลท์พัฒนาธุรกิจไมซ์ด้วยนวัตกรรมและข้อมูลตลอดระยะ 3 ปี (2562-2564) พร้อมเปิดตัวฐานข้อมูลธุรกิจไมซ์ผ่านทางเว็บไซต์ (MICE Intelligence & Resource Center) ให้บริการทุกกลุ่มเป้าหมาย

นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาและนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวว่า จากยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีของรัฐบาลที่มีเป้าหมาย คือ ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ยุทธศาสตร์ดิจิทัล นับเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาประเทศ

โดยวิสัยทัศน์ของทีเส็บซึ่งสอดคล้องนโยบายรัฐบาลมุ่งเน้น 3 เป้าหมายหลัก คือ การสร้างรายได้ การพัฒนาประเทศด้วยนวัตกรรม และการสร้างความเจริญกระจายรายได้ ซึ่งยุทธศาสตร์ไมซ์ปีนี้มุ่งขับเคลื่อนไมซ์เชิงคุณภาพและกระจายรายได้สู่เมืองต่างๆ ส่งผลให้ทีเส็บจัดทัพโครงสร้างทีมงาน และแผนงานใหม่ ซึ่งได้รับมอบหมายให้ดูแลงานด้านนวัตกรรมและข้อมูลไมซ์ (MICE Intelligence & Innovation)

โดยพร้อมเปิดแผนพัฒนาธุรกิจไมซ์ด้วยนวัตกรรมและข้อมูลตลอดระยะ 3 ปี (2562-2564) ที่ศึกษาจากพฤติกรรมความต้องการของนักเดินทางไมซ์และผู้ประกอบการเอกชน โดยมีแนวทางการทำงานและ 16 โครงการไฮไลท์ที่จะดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรมตลอดระยะ 3 ปีเต็มจากนี้ เพื่อนำนวัตกรรมและข้อมูลมาใช้พัฒนาธุรกิจไมซ์ร่วมกับผู้ประกอบการอย่างใกล้ชิด ขับเคลื่อนไมซ์ให้เกิดผลลัพธ์จริงในการสร้างเศรษฐกิจและองค์ความรู้

ทีเส็บ ศึกษาแนวโน้มสำคัญของการพัฒนาธุรกิจไมซ์ระดับโลกในอนาคต ได้แก่ พฤติกรรมความต้องการของนักเดินทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น การจัดงานมุ่งเน้นการผสมผสานครบวงจรภายในงาน ความต้องการมีส่วนร่วมของผู้เข้าร่วมงานที่มีเวลาเข้าร่วมงานน้อยแต่ต้องการผลลัพธ์สูงสุด

และเนื่องจากนักเดินทางไมซ์มีความสำคัญต่อการเติบโตเศรษฐกิจ รัฐบาลทั่วโลกจึงพยายามผลักดันธุรกิจและเพิ่มจำนวนนักเดินทางไมซ์ แต่ที่ผ่านมาเป็นการสนับสนุนด้านงบประมาณ ทั้งในมิติของการพัฒนาบุคลากร สถานที่ หรือการดึงงานเข้าสู่ประเทศ ซึ่งการสนับสนุนทางการเงินเพียงด้านเดียวยังคงไม่ตอบโจทย์ความต้องการและการเติบโตอย่างยั่งยืนของธุรกิจ รัฐบาลหลายประเทศจึงเริ่มปรับเพิ่มกลยุทธ์การสนับสนุนด้านอื่น และหลายประเทศรวมถึงประเทศไทยโดยการส่งเสริมการจัดงานของทีเส็บกำลังเปลี่ยนผ่านจากการให้บริการด้านข้อมูลทั่วไป สู่ข้อมูลที่ผ่านการวิเคราะห์แล้ว (From information to insights) เพื่อวางแผนธุรกิจที่ตรงจุดขึ้นผ่านการวิเคราะห์ด้วยปัญญาประดิษฐ์ (Data Analytic & Artificial Intelligence)

ทีเส็บจึงดำเนินโครงการ MICE Intelligence & Innovation เพื่อส่งเสริมการพัฒนาและการนำนวัตกรรมและข้อมูลมาใช้เพื่อพัฒนาธุรกิจไมซ์ โดยให้ความสำคัญกับการสร้างนวัตกรรมบนพื้นฐานความต้องการที่แท้จริงของผู้ประกอบการ สำรวจและสรุปความคาดหวังที่ผู้เกี่ยวข้องในธุรกิจไมซ์ต้องการในการนำนวัตกรรมและข้อมูลมาใช้ แล้วจึงออกแบบและพัฒนาแผนงานจนได้ 16 โครงการไฮไลท์ด้านข้อมูลและนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการ เพื่อดำเนินงานพัฒนาธุรกิจไมซ์ด้วยนวัตกรรมและข้อมูลตลอดระยะ 3 ปี (2562-2564) ภายใต้การดำเนินงานของฝ่าย MICE Intelligence & Innovation


นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาและนวัตกรรม ทีเส็บ

โรดแมปการพัฒนาธุรกิจไมซ์ด้วยนวัตกรรมและข้อมูลตลอดระยะ 3 ปี (2562-2564) ประกอบด้วย 6 ยุทธศาสตร์  16 โครงการไฮไลท์ ได้แก่

ยุทธศาสตร์ที่ 1 การสนับสนุนการจัดงานและผู้ประกอบการไมซ์ (Support & Sponsorship) มี 4 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการช่องทางสำหรับการขอรับบริการไมซ์เลน เพื่อต้อนรับแขก VIP ภายในสนามบิน (Paperless MICE Lane Request) 2.โครงการช่องทางออนไลน์เพื่อขอรับการสนับสนุนจากสสปน. (TCEB Online Financial Support Request) 3.โครงการระบบ AI เพื่อช่วยเจ้าหน้าที่ตอบคำถามเกี่ยวกับทีเส็บ(TCEB Help Desk Chatbot) 4.โครงการช่องทางให้คำแนะนำเกี่ยวกับการขอใบอนุญาตนำเข้าสินค้าเพื่อจัดแสดงและขอวีซ่า (MICE Permit Advisor)

ยุทธศาสตร์ที่ 2 การพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการไมซ์ (Developing MICE Supply) มี 3 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการช่องทางออนไลน์ให้ผู้ประกอบการขอใบรับรองและมาตรฐานไมซ์ (MICE Online Standard Assessment) 2.โครงการศูนย์รวมตำแหน่งงานและการแนะแนวอาชีพตามสายงานไมซ์ (MICE Career Portal) 3.โครงการแหล่งเรียนรู้ออนไลน์รวบรวมความรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการไมซ์ (MICE Digital Learning Platform)

ยุทธศาสตร์ที่ 3 การยกระดับประสบการณ์ของผู้เข้าร่วมงาน (Enhancing Attendee Experience) มี 1 โครงการ ได้แก่ โครงการแอพพลิเคชันสำหรับให้บริการผู้เข้าร่วมงาน เพื่ออำนวยความสะดวกอย่างครบวงจร (Event Application for Attendee)

ยุทธศาสตร์ที่ 4 การเพิ่มประสิทธิภาพการจัดงาน (Organizing Event with Efficiency) มี 2 โครงการ ได้แก่  1.โครงการแอพพลิเคชั่นมือถือสำหรับอำนวยความสะดวกผู้จัดงาน (Organizer Mobile Application) 2.โครงการระบบประเมินผลผู้เข้าชมงานด้วยภาพจากกล้องวิดีโอ (Event Traffic Analytics)

ยุทธศาสตร์ที่ 5 การเป็นศูนย์กลางการซื้อขายสินค้าและบริการไมซ์ (Connecting MICE Supply & Demand) มี 5 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการแหล่งรวบรวมรายชื่อและข้อมูลงานอีเวนท์ที่สามารถเข้าร่วมประมูลสิทธิ์ในการจัดงานได้ (Event Opportunities Portal) 2.โครงการศูนย์กลางการระดมเงินทุนเพื่อสนับสนุนการจัดงาน (MICE Crowd Funding Platform) 3.โครงการแหล่งรวบรวมผู้ประกอบการด้านไมซ์ (MICE Supply Market Place) 4.โครงการช่องทางโปรโมทอีเวนท์เพื่อให้ผู้สนใจลงทะเบียนหรือจองพื้นที่แสดงสินค้า (Event Discovery Platform Platform) 5.โครงการศูนย์กลางการซื้อขายสินค้าและบริการ เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจก่อนและหลังการจบงาน (e-Commerce Platform)

ยุทธศาสตร์ที่ 6 ด้านการเป็นแหล่งข้อมูลอุตสาหกรรมไมซ์ (MICE Intelligence & Resource Center) มี 1 โครงการ ได้แก่ โครงการฐานข้อมูลไมซ์เพื่อสร้างนวัตกรรมและเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ (MICE Intelligence & Resource Center)

การจัดงาน “MICE INTELLIGENCE AND INNOVATION CONFERENCE 2019” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Break Through the Hype – Uncover the Reality of Customer Insights” ของทีเส็บ มีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดตัวแนะนำแผนงานและ 16 โครงการไฮไลท์เพื่อพัฒนาธุรกิจไมซ์ด้วยนวัตกรรมและข้อมูลตลอดระยะ 3 ปี (2562-2564) โดยฝ่าย MICE Intelligence & Innovation รวมถึงกระตุ้นให้ผู้ประกอบการและผู้ที่เกี่ยวข้องในธุรกิจไมซ์ เล็งเห็นความสำคัญของการใช้นวัตกรรมและข้อมูลอัจริยะวางแผนและกำหนดกลยุทธ์การพัฒนางานไมซ์ในอนาคต 

พร้อมเปิดตัวโครงการแรก คือ โครงการฐานข้อมูลไมซ์เพื่อสร้างนวัตกรรมและเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ (MICE Intelligence & Resource Center) หนึ่งในโครงการที่จะพลิกโฉมด้านนวัตกรรมและข้อมูลสำคัญของธุรกิจไมซ์ เพื่อให้ผู้ประกอบการ ภาคธุรกิจ สถาบันการศึกษา รวมถึงประชาชน เข้ามาใช้บริการข้อมูลไมซ์เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลองค์ความรู้ระหว่างภาคธุรกิจ โดยร่วมมือกับพันธมิตรสำคัญระดับโลกด้านข้อมูล อาทิ ธนาคารโลก (World Bank) สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (PATA) บริษัทที่ปรึกษาด้านการวิจัย Frost & Sullivan และบริษัทจัดการข้อมูลอัจฉริยะ Meltwater Singapore

“ที่ผ่านมาอุตสาหกรรมไมซ์ในประเทศไทยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 5-10% ซึ่งหากมีเครื่องมือทางนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาขับเคลื่อนจะมีโอกาสเติบโตได้ถึงปีละ 20% ขณะเดียวกันเทคโนโลยีจะเป็นสิ่งที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำ ทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมไมซ์ทุกกลุ่มได้เข้าถึงข้อมูลอย่างเท่าเทียมกัน”

อีกทั้งการสร้างพันธมิตรที่มีความแข็งแกร่ง (Empowering Partnership) ขยายจากผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมเดิม สู่สตาร์ทอัพหรือกลุ่มธุรกิจอื่นที่ใช้ไมซ์เป็นแพลทฟอร์ม จะช่วยทำให้วงจรของธุรกิจไมซ์กว้างและเข้มแข็งขึ้น สร้างโอกาสทางธุรกิจ การแลกเปลี่ยนความรู้และการต่อยอดอุตสาหกรรมให้ดียิ่งขึ้น นำไปสู่ความสามารถทางการแข่งขันที่ยั่งยืนต่อไป” นางศุภวรรณ กล่าวสรุป