จับตา! วันนี้ ‘ศักดิ์สยาม’ นัดประชุม ZOOM ไล่บี้ ‘การรถไฟฯ’ อัพเดท ‘รถไฟทางคู่’ 16 เส้นทาง 3,154 กม. มูลค่าก่อสร้าง 5.18 แสนล้าน จ่อชง ครม.เคาะเฟส 2 จำนวน 2 เส้นทาง

วันนี้! “ศักดิ์สยาม” นัดประชุมไล่บี้-อัพเดทโปรเจ็กต์รถไฟทางคู่ 16 เส้นทาง ระยะทาง 3,154 กม. มูลค่าก่อสร้าง 5.18 แสนล้าน สั่งเร่ง “การรถไฟฯ” แจงเหตุล่าช้า-วางแนวทางแก้ไข จ่อชง ครม. ไฟเขียวทางคู่เฟส 2 “ขอนแก่น-หนองคาย” และ “ชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี” 2 เส้นทาง วงเงิน 6.25 หมื่นล้าน พร้อมเปิดไทม์ไลน์ทางคู่สายใหม่อีก 2 เส้นทาง คาดเริ่มตอกเข็ม ต.ค.นี้

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า ในช่วงบ่ายของวันนี้ (6 พ.ค. 2564) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีกำหนดการเป็นประธานการประชุมผ่านแอปพลิเคชั่น ZOOM เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ (ครั้งที่ 2) รวมทั้งสิ้น 16 เส้นทาง ระยะทางรวม 3,154 กิโลเมตร (กม.) วงเงินก่อสร้างรวม 518,655.13 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 1 จำนวน 7 เส้นทาง ระยะทางรวม 993 กม. วงเงินก่อสร้างรวม 124,073.74 ล้านบาท, โครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 7 เส้นทาง ระยะทางรวม 1,483 กม. วงเงินก่อสร้างรวม 266,975.99 ล้านบาท และโครงการรถไฟทางคู่เส้นทางใหม่ จำนวน 2 เส้นทาง ระยะทางรวม 678 กม. วงเงินก่อสร้างรวม 127,605.4 ล้านบาท โดยการประชุมในครั้งนี้ เป็นการประชุมครั้งที่ 2 ซึ่งนายศักดิ์สยาม จะติดตามข้อสั่งการ ที่ได้สั่งการไปเมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2564 ที่มอบหมายให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ชี้แจงสาเหตุของความล่าช้า และแนวทางการแก้ไขปัญหา รวมถึงกำหนดแผนการดำเนินการให้มีความชัดเจนด้วย

แฟ้มภาพ

*** ไล่บี้ทางคู่เฟสแรกล่าช้า ***

ทั้งนี้ จากข้อมูลเมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2564 ที่ผ่านมา รฟท. ได้นำเสนอความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 1 จำนวน 7 เส้นทาง ประกอบด้วย 1.ช่วงฉะเชิงเทรา-แก่งคอย มูลค่าก่อสร้าง 10,232.86 ล้านบาท (เปิดใช้บริการแล้ว) 2.ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น มูลค่าก่อสร้าง 24,236 ล้านบาท (เปิดใช้บริการแล้ว) 3.ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ แบ่งออกเป็น 2 สัญญา คือ สัญญาที่ 1 ช่วงบ้านกลับ-โคกกระเทียม มูลค่าก่อสร้าง 10,050 ล้านบาท ความก้าวหน้างานก่อสร้าง 49.86% เร็วกว่าแผน 20.44% กำหนดแล้วเสร็จ พ.ค. 2565 และสัญญาที่ 2 ช่วงท่าแค-ปากน้ำโพ มูลค่าก่อสร้าง 8,649 ล้านบาท ความก้าวหน้างานก่อสร้าง 65.07% ล่าช้ากว่าแผน 0.05% ขยายสัญญาไปจนถึง ก.ค. 2565 และงานระบบอาณัติสัญญาณ วงเงิน 2,988.57 ล้านบาท

4.ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ แบ่งออกเป็น 3 สัญญา คือ สัญญาที่ 1 ช่วงมาบกะเบา-คลองขนานจิตร มูลค่าก่อสร้าง 7,560 ล้านบาท ความก้าวหน้างานก่อสร้าง 85.92% ล่าช้ากว่าแผน 2.42% กำหนดแล้วเสร็จ ม.ค. 2565 เนื่องจากติดปัญหาพื้นที่ของโครงการบางส่วนยังไม่ได้รับมอบพื้นที่ เนื่องจากงบประมาณค่าทดแทนอสังหาริมทรัพย์และการเวนคืนที่ดินไม่เพียงพอ, สัญญาที่ 2 การ ช่วงคลองขนานจิตร-ชุมทางจิระ มูลค่าก่อสร้าง 7,060.58 ล้านบาท (เดิม) อยู่ระหว่างการตรวจสอบที่มาของการรื้อสะพานสีมาธานี ก่อนที่จะดำเนินการเสนอขออนุมติโครงการและรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) คาดว่าจะเริ่มก่อสร้าง ต.ค. 2564 กำหนดแล้วเสร็จ พ.ย. 2567 และสัญญาที่ 3 งานก่อสร้างอุโมงค์ มูลค่าก่อสร้าง 9,290 ล้านบาท ความก้าวหน้างานก่อสร้าง 67.61% ล่าช้ากว่าแผน 11.34% กำหนดแล้วเสร็จ ธ.ค. 2564 ขณะนี้ ติดปัญหาพื้นที่ของโครงการบางส่วนยังไม่ได้รับมอบพื้นที่ เพราะงบประมาณค่าทดแทนอสังหาริมทรัพย์และการเวนคืนที่ดินไม่เพียงพอ รวมถึงปัญหางาน Concrete Work และงานระบบอาณัติสัญญาณ วงเงิน 2,549.89 ล้านบาท

5.ช่วงนครปฐม-หัวหิน แบ่งออกเป็น 2 สัญญา คือ สัญญาที่ 1 ช่วงนครปฐม-หนองปลาไหล มูลค่าก่อสร้าง 8,198 ล้านบาท ความก้าวหน้างานก่อสร้าง 83.18% เร็วกว่าแผน 2.51% ขยายสัญญาไปจนถึง ก.ย. 2565 เนื่องจากติดปัญหางานก่อสร้างอุโมงค์ทางลอด บริเวณวัดพระงาม กม.48+604 มีแนวท่อประปาของเทศบาลนครปฐม ผ่านแนวก่อสร้างอุโมงค์ (บางส่วน) และสัญญาที่ 2 ช่วงหนองปลาไหล-หัวหิน มูลค่าก่อสร้าง 7,520 ล้านบาท ความก้าวหน้างานก่อสร้าง 82.92% เร็วกว่าแผน 0.80% ขยายสัญญาไปจนถึง ก.ย. 2565

6.ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ มูลค่าก่อสร้าง 5,807 ล้านบาท ความก้าวหน้างานก่อสร้าง 82.59% ล่าช้ากว่าแผน 13.56% ขยายสัญญาไปจนถึง มิ.ย. 2564 และ 7.ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร แบ่งออกเป็น 2 สัญญา คือ สัญญาที่ 1 ช่วงประจวบคีรีขันธ์-บางสะพานน้อย มูลค่าก่อสร้าง 6,465 ล้านบาท ความก้าวหน้างานก่อสร้าง 75.86% เร็วกว่าแผน 1.40% ขยายสัญญาไปจนถึง ม.ค. 2565 และสัญญาที่ 2 ช่วงบางสะพานน้อย-ชุมพร มูลค่าก่อสร้าง 5,992 ล้านบาท ความก้าวหน้างานก่อสร้าง 67.50% ล่าช้ากว่าแผน 0.28% ขยายสัญญาไปจนถึง เม.ย. 2565 และงานระบบอาณัติสัญญาณ ช่วงนครปฐม-ชุมพร วงเงิน 7,384.84 ล้านบาท

*** จ่อชง ครม.ไฟเขียวเฟส 2 อีก 2 เส้นทาง ***

รายงานข่าวจาก รฟท. ระบุต่ออีกว่า นอกจากนี้ รฟท. ยังได้นำเสนอโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 7 เส้นทาง ประกอบด้วย 1. ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 285 กม. งบประมาณโครงการ 59,399.80 ล้านบาท สถานะปัจจุบัน อยู่ระหว่างการขออนุมัติโครงการ และ EIA อยู่ระหว่างเสนอคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) พิจารณา 2.ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ ระยะทาง 189 กม. งบประมาณโครงการ 57,992.44 ล้านบาท สถานะปัจจุบัน อยู่ระหว่างการขออนุมัติโครงการ และ EIA อยู่ระหว่างเสนอคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมฯ (คชก.) พิจารณา 3.ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 167 กม. งบประมาณโครงการ 25,842 ล้านบาท สถานะปัจจุบัน ขออนุมัติโครงการ และ กก.วล. เห็นชอบ EIA แล้วเมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2561

4.ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 308 กม. งบประมาณโครงการ 36,683 ล้านบาท สถานะปัจจุบัน อยู่ระหว่างการขออนุมัติโครงการ และ กก.วล. เห็นชอบ EIA แล้วเมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2563, 5.ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กม. งบประมาณโครงการ 23,080 ล้านบาท สถานะปัจจุบัน อยู่ระหว่างการขออนุมัติโครงการ และ EIA อยู่ระหว่างเสนอคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมฯ (คชก.) พิจารณา 6.ช่วงสุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง 321 กม. งบประมาณโครงการ 56,114.26 ล้านบาท สถานะปัจจุบัน อยู่ระหว่างการขออนุมัติโครงการ และ EIA อยู่ระหว่างเสนอคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมฯ (คชก.) พิจารณา และ 7.ช่วงชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กม. งบประมาณโครงการ 7,864.49 ล้านบาท สถานะปัจจุบัน อยู่ระหว่างการขออนุมัติโครงการ และ กก.วล. เห็นชอบ EIA แล้วเมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2561

ทั้งนี้ ในการจัดลำดับความสำคัญโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 นั้น คาดว่า จะเริ่มดำเนินการได้ก่อน 2 ช่วง คือ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย และชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ซึ่ง กก.วล.ได้ให้ความเห็นชอบรายงาน EIA แล้ว ขณะเดียวกัน ก่อนหน้านี้กระทรวงคมนาคมได้แจ้ง รฟท. เมื่อ 19 พ.ย. 2563 ที่ผ่านมา ให้ปรับปรุงข้อมูลตามความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และสำนักงบประมาณ เพื่อนำเสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาโดยเร็ว เนื่องจากเป็นโครงการที่ กก.วล. ให้ความเห็นชอบรายงาน EIA แล้ว ขณะที่กรมการขนส่งทางราง (ขร.) เห็นควรให้ รฟท.เร่งรัด นำเสนอโครงการทั้ง 2 ช่วงดังกล่าวต่อกระทรวงคมนาคมโดยเร็ว เพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติดำเนินโครงการต่อไป

*** เปิดไทม์ไลน์ “ทางคู่สายใหม่” คาดตอกเข็ม ต.ค.นี้ ***

รายงานข่าวจาก รฟท. ระบุอีกว่า ในส่วนของความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่สายใหม่ 2 เส้นทางนั้น คือ 1.ช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 323 กม. มูลค่าก่อสร้าง 72,921 ล้านบาท ตามที่ ครม.อนุมัติไปแล้วเมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2561 และ กก.วล.เห็นขอบ EIA นั้น คาดว่า จะประกาศใช้พ.ร.ฎ. เวนคืนในช่วง มิ.ย. 2564 โดยในขณะนี้ อยู่ระหว่างการขายแบบและเอกสาร (19 มี.ค. 2564-17 พ.ค. 2564) ยื่นข้อเสนอและเสนอราคาวันที่ 18 พ.ค. 2564 ยื่นข้อเสนอด้านเทคนิควันที่ 19 พ.ค. 2564 จากนั้นจะประกาศผลการประกวดราคาวันที่ 8 ก.ค. 2564 และลงนามสัญญา 30 ก.ค. 2564 ก่อนเริ่มก่อสร้างใน ต.ค.  2564 แล้วเสร็จ ก.ย. 2570

2.ช่วงบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355 กม. มูลค่าก่อสร้าง 54,684.40 ล้านบาท ตามที่ ครม.อนุมัติไปแล้วเมื่อวันที่ 28 พ.ค. 2562 และ กก.วล.เห็นขอบ EIA นั้น คาดว่า จะประกาศใช้พ.ร.ฎ. เวนคืนในช่วง มิ.ย. 2564 โดยในขณะนี้ อยู่ระหว่างการขายแบบและเอกสาร (26 มี.ค. 2564-24 พ.ค. 2564) ยื่นข้อเสนอและเสนอราคาวันที่ 25 พ.ค. 2564 ยื่นข้อเสนอด้านเทคนิควันที่ 26 พ.ค. 2564 จากนั้นจะประกาศผลการประกวดราคาวันที่ 15 ก.ค. 2564 และลงนามสัญญา 6 ส.ค. 2564 ก่อนเริ่มก่อสร้างใน ต.ค.  2564 แล้วเสร็จ ก.ย. 2568