‘ศักดิ์สยาม’ ไล่บี้หน่วยงาน ‘คมนาคม’ เร่งเบิกจ่ายงบปี 63 ขู่ประเมิน KPI หากดำเนินการหลุดเป้า

“ศักดิ์สยาม” สั่งหน่วยงาน “คมนาคม” เร่งสปีดเบิกจ่ายงบปี 63 ตามเป้ารัฐบาล พร้อมมั่นใจ ก.ย.นี้ เบิกจ่ายได้ 100% ขู่ประเมิน KPI หากดำเนินการหลุดแผน เดินหน้าเข็น 41 โปรเจ็กต์ PPP รายงาน ครม.เศรษฐกิจรับทราบ 6 มี.ค.นี้

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ภายหลังราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท เมื่อวันที่ 26 ก.พ. 2563 ที่ผ่านมานั้น กระทรวงคมนาคม จะเร่งดำเนินการโครงการต่างๆ ตามขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ภายในเดือนนี้ โดยแผนการลงนามในรายการรายจ่ายลงทุนประจำปี 2563 ของกระทรวงคมนาคมนั้น รวมทั้งสิ้น 11,085 โครงการ วงเงิน 118,403 ล้านบาท ทั้งนี้ ได้มีการลงนามไปแล้วตั้งแต่ ต.ค. 2562 – ก.พ. 2563 จำนวน 3 โครงการ วงเงิน 3,467 ล้านบาท และภายใน มี.ค. 2563 คาดว่าจะลงนามในสัญญา จำนวน 2,299 โครงการ วงเงิน 7,634 ล้านบาท

สำหรับแผนการเบิกจ่ายรายจ่ายภาพรวมประจำปี 2563 ของกระทรวงคมนาคมนั้น รัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายให้กระทรวงคมนาคม เบิกจ่ายงบประมาณ 100% วงเงิน 180,731 ล้านบาท ภายใน ก.ย. 2563 โดยตั้งแต่ ต.ค. 2562-ก.พ. 2563 กระทรวงคมนาคม สามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ 31,321 ล้านบาท คิดเป็น 15% จากเป้าหมาย 44% ขณะที่ มี.ค. 2563 รัฐบาลตั้งเป้าการเบิกจ่ายไว้ที่ 54% หรือวงเงิน 48,150 ล้านบาท แต่แผนการเบิกจ่ายของกระทรวงคมนาคมนั้น คาดว่าจะสามารถเบิกจ่ายได้ 23%

ทั้งนี้ มั่นใจว่าภายในเดือน ก.ย.นี้ กระทรวงคมนาคมจะเบิกจ่ายได้ 100% ถึงแม้การคาดการณ์แผนการเบิกจ่ายจะอยู่ที่ 87% แต่ได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัด ปรับแผนไปใช้กับโครงการอื่น รวมถึงดึงโครงการในปีงบประมาณ 2564 มาดำเนินการก่อน อย่างไรก็ตาม ในเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2563 นี้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) จะนำมาพิจารณาเป็นตัวชี้วัด (KPI) ประเมินการทำงาน หากส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงคมนาคม ไม่สามารถดำเนินการได้ตามแผนนั้น จะมีผลต่อการประเมิน

“ทางรัฐบาลมีแผนให้ดำเนินการตามไตรมาสต่างๆ  ไตรมาสสุดท้ายภายในเดือน ก.ย.นี้ ต้องได้ 100%  ในส่วนของกระทรวงคมนาคมให้ไปดูว่าทำไมได้ 87% มีการปรับเปลี่ยนได้ไหมในการนำเงิน 13% ของงบที่เบิกจ่ายไม่ได้นำมาทำโครงการอื่นได้ไหม เพื่อให้ยอดเบิกจ่ายครบ 180,731 ล้านบาท แต่ต้องอยู่ที่ระเบียบกฎหมาย โดยในวันที่ 10 มี.ค.นี้ หน่วยงานของรัฐวิสาหกิจและส่วนราชการจะมีการปรับแผน เพื่อให้สามารถดำเนินการสอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาล ซึ่งจะมีการติดตามผลทุกเดือน ถ้าตรงไหนทำไม่ได้ให้รีบดำเนินการและรีบปรับแผน“ นายศักดิ์สยาม กล่าว

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่ออีกว่า การประชุม ครม.ฝ่ายเศรษฐกิจในวันที่ 6 มี.ค. 2563 โดยมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานนั้น กระทรวงคมนาคม จะนำเสนอข้อมูลรายการโครงการเพื่อประกอบการจัดทำแผนการจัดทำโครงการร่วมลงทุน (PPP) รวม 41 โครงการที่ได้มีการศึกษาไว้แล้ว ให้ที่ประชุมฯ พิจารณา เพื่อให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) พิจารณาไปดำเนินการต่อไปภายในปีนี้ เช่น โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายนครปฐม-ชะอำ, โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ, โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ตระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง, โครงการศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม, โครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต, การพัฒนาโครงการท่าเรือบก (Dry Port) ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย, โครงการคลังสินค้า ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (รายใหม่), โครงการเพิ่มบทบาทภาคเอกชนในการเดินรถขนส่งสินค้า (เส้นทางหนองคาย-แหลมฉบัง) เป็นต้น