10 ต.ค.นี้ ทล. ถกเตรียมความพร้อมเปิดใช้สะพานไทย-ลาว แห่งที่ 5 ช่วงสิ้นปีนี้ เล็งเปิด 6 โมงเช้า ปิด 4 ทุ่ม
”กรมทางหลวง“ เตรียมประชุมคณะกรรมาธิการบริหารสะพานฯไทย-ลาว 10 ต.ค. นี้ ถกเตรียมความพร้อมเปิดใช้สะพานมิตรภาพ แห่งที่ 5 ช่วงปลายปีนี้ เล็งเปิด 6 โมงเช้า ปิด 4 ทุ่ม เชื่อมโยงเศรษฐกิจ ”ไทย–ลาว–เวียดนาม” หนุนมูลค่าการค้าชายแดนพุ่ง
นายปิยพงษ์ จิวัฒนกุลไพศาล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย–ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ–บอลิคำไซ) ว่า ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเปิดใช้อย่างเป็นทางการภายในปลายเดือน ธ.ค. 2568 โดยในวันที่ 10 ต.ค. 2568 จะมีการประชุมคณะกรรมาธิการบริหารและบำรุงรักษาสะพานมิตรภาพไทย–ลาว ผ่านระบบ Zoom เพื่อหารือแนวทางการเปิดใช้สะพาน และกำหนดมาตรการบริหารจัดการร่วมกันระหว่างสองประเทศต่อไป
สำหรับการประชุมฯ ในวันที่ 10 ต.ค. นี้ คณะกรรมาธิการบริหารสะพานฯ จะพิจารณาประเด็นสำคัญหลายด้าน เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเปิดใช้อย่างเป็นทางการ อาทิ การกำหนดเวลาเปิด–ปิดสะพาน ซึ่งคาดว่า จะยึดตามมาตรฐานเดียวกับสะพานมิตรภาพไทย–ลาว แห่งอื่น ๆ คือ ตั้งแต่เวลา 06.00 – 22.00 น. รวมถึงการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมผ่านสะพาน และข้อกำหนดด้านการจราจร ความปลอดภัย และพิธีการศุลกากร โดยทั้งหมดจะดำเนินการภายใต้กรอบความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและลาว เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกับ สะพานมิตรภาพไทย–ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม–คำม่วน) และ แห่งที่ 4 (เชียงของ–ห้วยทราย)
นายปิยพงษ์ กล่าวต่อว่า โครงการสะพานมิตรภาพไทย–ลาว แห่งที่ 5 มีระยะทางรวมทั้งสิ้นประมาณ 16.34 กิโลเมตร (กม.) ประกอบด้วย สะพานข้ามแม่น้ำโขงและถนนโครงข่ายเชื่อมต่อทั้งสองฝั่ง โดยมีมูลค่าการลงทุนรวม 3,772 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่างานตามสัญญาฝ่ายไทย 2,576 ล้านบาท และฝ่าย สปป.ลาว ประมาณ 1,196 ล้านบาท สะพานตั้งอยู่ที่อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ เชื่อมกับเมืองปากซัน แขวงบอลิคำไซ ของ สปป.ลาว ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เปิดประตูเศรษฐกิจสู่ภูมิภาคอินโดจีน
สำหรับลักษณะทางวิศวกรรม สะพานมิตรภาพไทย–ลาว แห่งที่ 5 ถือเป็นสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งแรกที่ออกแบบในรูปแบบ สะพานคานขึงคอนกรีตอัดแรงรูปกล่อง (Extradosed Prestressed Concrete Bridge) คล้ายกับสะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ จ. นนทบุรี มีเสากลางรับแรงดึงพร้อมสายเคเบิล พร้อมพื้นคอนกรีตอัดแรงที่บาง ซึ่งจะทำให้โครงสร้างมีความแข็งแรง ทันสมัย และมีความสวยงามโดดเด่นแตกต่างจากสะพานมิตรภาพแห่งอื่น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงสร้างคอนกรีตแบบดั้งเดิม ทั้งยังออกแบบให้รองรับการจราจรสองช่องทาง พร้อมระบบไฟส่องสว่างที่ได้มาตรฐาน
นอกจากนี้สะพานแห่งนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งภายใต้ยุทธศาสตร์และแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย ยกระดับระบบโลจิสติกส์ให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยเป้าหมายในการสร้างรากฐานความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สังคม ความปลอดภัยในการเดินทาง มุ่งเน้นการเชื่อมโยงและความคล่องตัวในการขนส่งกับประเทศเพื่อนบ้านไปสู่ศูนย์กลางของภูมิภาคอย่างไร้รอยต่อ โครงการนี้ยังสอดรับกับกรอบความร่วมมือในระดับอนุภูมิภาค ได้แก่ กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง และยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี – เจ้าพระยา – แม่โขง ถือเป็นเส้นทางหลักเชื่อมโยงเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวของภูมิภาค โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าระหว่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย กับ ภาคใต้ของลาว
อย่างไรก็ตาม คาดว่า ภายหลังการเปิดใช้งานสะพานมิตรภาพ แห่งที่ 5 นั้น จะช่วยส่งเสริมการเดินทางและขนส่งสินค้าข้ามแดนที่จังหวัดบึงกาฬ โดยมีสินค้าหลักที่คาดว่าจะขยายตัวได้แก่ ยางพารา มันสำปะหลัง พืชเกษตรแปรรูป และสินค้าอุปโภคบริโภค นอกจากนี้ยังจะส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยง สามประเทศ ไทย–ลาว–เวียดนาม สร้างเส้นทางท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและธรรมชาติใหม่ในภูมิภาคและยังเปรียบเสมือนประตูเศรษฐกิจแห่งใหม่อีกด้วย