ทช. ครบรอบ 23 ปี ’พิพัฒน์‘ สั่งเดินหน้า 2 โปรเจกต์สร้างสะพานภาคใต้ 6.5 พันล้าน ลงนามสัญญาสิ้นปีนี้ พร้อมเร่งเบิกจ่ายงบปี 69 กว่า 5.3 หมื่นล้าน
“พิพัฒน์” เดินเครื่อง 2 โปรเจกต์ “สะพานเชื่อมเกาะลันตา-ข้ามทะเลสาบสงขลา” มูลค่า 6.5 พันล้าน รอ World Bank เคาะผู้ชนะประกวดราคา คาดลงนามสัญญาภายในสิ้นปีนี้ สร้างเสร็จ-เปิดใช้ปลายปี 71 สั่งเร่งเบิกจ่ายงบปี 69 กว่า 5.3 หมื่นล้าน ลุยสร้าง 4 โครงการใหญ่ 2.8 พันล้าน ตั้งธงเบิกจ่ายมากกว่า 50% ภายใน 4 เดือน
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีวันคล้ายวันสถาปนากรมทางหลวงชนบท (ทช.) ครบรอบ 23 ปี วันนี้ (9 ต.ค. 2568) ว่า ทช. ถือเป็นหน่วยงานหลักในการพัฒนาโครงข่ายถนนสายรองที่เชื่อมโยงระหว่างเมืองกับชนบท ให้ประชาชนทุกพื้นที่เข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจ การค้า และการท่องเที่ยวได้อย่างเท่าเทียม
ทั้งนี้ ในช่วง 4 เดือนจากนี้ ได้เร่งผลักดันให้ ทช. เดินหน้าโครงการสำคัญในพื้นที่ภาคใต้ 2 โครงการ วงเงินรวมประมาณ 6,500 ล้านบาท ได้แก่ 1.โครงการสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา (ตำบลเกาะใหญ่ – จองถนน จังหวัดสงขลา – พัทลุง) ระยะทาง 7 กิโลเมตร (กม.) วงเงินประมาณ 4,700 ล้านบาท และ 2.โครงการสะพานเชื่อมเกาะลันตา (ตำบลเกาะกลาง – เกาะลันตาน้อย จังหวัดกระบี่) ระยะทาง 2.24 กม. วงเงินประมาณ 1,800 ล้านบาท
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ความคืบหน้าของทั้ง 2 โครงการนั้น ขณะนี้ โครงการอยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณารายงานด้านเทคนิคโดยธนาคารโลก (World Bank) จากผู้ยื่นเสนอประกวดราคา จำนวน 4 รายของแต่ละโครงการฯ คาดว่า World Bank จะตอบกลับมาภายในสัปดาห์หน้า จากนั้น ทช. จะดำเนินการเปิดซองด้านราคา ก่อนเสนอให้ World Bank พิจารณาอีกครั้ง ควบคู่กับการจัดทำหนังสือสัญญาเงินกู้ของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) อย่างไรก็ตาม คาดว่า ทั้ง 2 โครงการ จะลงนามสัญญาได้ภายในสิ้นปึ 2568 ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 30 เดือน แล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการในช่วงปลายปี 2571 ต่อไป
สำหรับการเจรจาแหล่งเงินกู้จาก World Bank นั้น จะกู้ในสัดส่วน 70% ของวงเงินรวมทั้ง 2 โครงการ หรือกู้ประมาณ 4,550 ล้านบาท จากทั้งหมด 6,500 ล้านบาท และที่เหลืออีก 30% จะใช้งบประมาณแผ่นดิน อย่างไรก็ตาม เมื่อทั้ง 2 โครงการแล้วเสร็จ จะช่วยลดระยะเวลาเดินทาง เพิ่มความปลอดภัย และกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากของภาคใต้ให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด พร้อมสนับสนุนการท่องเที่ยว และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
นายพิพัฒน์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ในปีงบประมาณ 2569 ทช. ได้รับการจัดสรรงบประมาณ วงเงินกว่า 53,000 ล้านบาท จึงได้กำชับให้ ทช. เตรียมความพร้อม และจัดซื้อจัดจ้างให้ได้มากที่สุด โดยตั้งเป้าเบิกจ่ายงบประมาณได้ไม่น้อยกว่า 50% ภายใน 4 เดือนนี้ หรือภายใน ม.ค. 2569 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ นำไปสู่การสร้างงานให้กับประชาชนมากที่สุด ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2569 ทช. มีโครงการขนาดใหญ่ 4 โครงการ วงเงินรวม 2,810 ล้านบาท ที่ต้องเร่งดำเนินการ ประกอบด้วย 1.โครงการถนนสายแยก ชม. 3029 แยก ทล. 1006 อ.เมืองเชียงใหม่ สันกำแพง จ.เชียงใหม่ (ตอนที่ 2) เลี่ยงเมืองตันเปา วงเงิน 720 ล้านบาท
2.โครงการถนนสายแยก ชม. 3029 แยก ทล. 1006 อ.เมืองเชียงใหม่ สันกำแพง จ.เชียงใหม่ (ตอนที่ 3) เลี่ยงเมืองตันเปา วงเงิน 780 ล้านบาท 3.โครงการถนนสายแยก ทล. 34 (กม.ที่ 26) เชื่อมกับทางหลวงชนบท สาย ฉช. 3001 จ.สมุทรปราการ (ตอนที่ 2) ช่วงที่ 1 วงเงิน 700 ล้านบาท และ 4.โครงการสะพานข้ามทางรถไฟ บนถนนสายเชื่อมศูนย์ซ่อมอากาศยาน ศูนย์กลางการค้าส่งชายแดน บริเวณสะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม วงเงิน 610 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน สถานการณ์อุทกภัย (น้ำท่วม) ที่ส่งผลกระทบต่อเส้นทางหลวงชนบทใน 22 จังหวัดทั่วประเทศ โดยมีสายทางได้รับความเสียหาย 59 สายทาง ขณะนี้สามารถเปิดสัญจรได้แล้ว 40 สายทาง และอยู่ระหว่างซ่อมแซมอีก 19 สายทาง พร้อมสั่งการให้ ทช. เร่งติดตั้งสะพานเบลีย์ชั่วคราว เปิดทางสัญจรให้ประชาชนโดยเร็ว รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่ประจำจุดเสี่ยง ติดตั้งป้ายเตือน และให้ข้อมูลเส้นทางเลี่ยงเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน โดยทุกถนนที่เสียหายต้องซ่อมกลับมาใช้งานได้เต็มรูปแบบโดยเร็วที่สุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
ด้านนายพิชิต หุ่นศิริ รักษาราชการแทนอธิบดี ทช. กช่าวว่า ปัจจุบัน ทช. ดูแลโครงข่ายถนนทั่วประเทศกว่า 51,000 กม. ครอบคลุมพื้นที่ 77 จังหวัด โดยในปีงบประมาณ 2569 ได้รับงบประมาณกว่า 53,000 ล้านบาท เพื่อใช้ดำเนินโครงการสำคัญทั้งการก่อสร้างถนน สะพาน และระบบอำนวยความปลอดภัยทางถนน เช่น ถนนเชื่อมเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ถนนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและการค้าในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ และโครงการทางต่างระดับจุดตัดสำคัญทั่วประเทศ พร้อมเดินหน้าปฏิบัติภารกิจภายใต้นโยบาย “ทางหลวงชนบทเพื่อประชาชน” อย่างเต็มกำลังเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยในทุกภูมิภาค