เปิด! ’นโยบาย ’ปิยพงษ์‘ อธิบดี ทล. ป้ายแดง ยกระดับความปลอดภัย-เบิกจ่ายงบปี 69 เร่งเครื่องสร้างมอเตอร์เวย์

“ปิยพงษ์” อธิบดี ทล. ป้ายแดง ประกาศ 9 นโยบายหลัก-10 วาระด่วน ชูธง! ยกระดับความปลอดภัย-พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานถนนทั่วไทย ลุยเบิกจ่ายงบปี 69 กว่า 1.31 แสนล้าน พร้อมเร่งเครื่องสร้างมอเตอร์เวย์ 3 สาย “M81-M6-M82” ทยอยเปิดใช้บางส่วน ต.ค.นี้-ปีใหม่ 69 จ่อเปิดประมูล O&M สายบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว พ่วง Rest Area สายเมืองกาญจน์ M81 และ โคราช M6 ภายใน 4 เดือนนี้ ส่วน M8 มูลค่า 5.4 หมื่นล้าน เล็งของบปี 70

นายปิยพงษ์ จิวัฒนกุลไพศาล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยภายหลังเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2568 ว่า ตามที่ตนได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี ทล. คนใหม่นั้น ได้มอบนโยบายการดำเนินงานและบริหารงานของกรมทางหลวงให้กับหน่วยงานในสังกัดทั่วประเทศ รวม 9 ด้าน พร้อมด้วย 10 นโยบายเร่งด่วน โดยมีเป้าหมายหลักในการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมของประเทศให้มีความทันสมัย ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน

ทั้งนี้ ได้มุ่งเน้นในการยกระดับความปลอดภัยและคุณภาพงานทางสู่มาตรฐานสากล พร้อมผลักดันให้โครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ และเร่งเบิกจ่ายงบงบประมาณปี 2569 ที่ได้รับการจัดสรรวงเงิน 131,375.28 ล้านบาท โดยวงเงินดังกล่าว เป็นโครงการขนาดเล็กกว่า 4,000 โครงการ วงเงินรวมกว่า 50,000 ล้านบาท มีเป้าหมายลงนามสัญญาให้ครบภายในไตรมาส 1 ปี 2569 ขณะที่โครงการขนาดใหญ่ 99 โครงการ วงเงินกว่า 75,900 ล้านบาท งบผูกพัน 3-4 ปี (2569-2571) จะเริ่มกระบวนการประกวดราคาตั้งแต่ พ.ย. 2568 นี้เป็นต้นไป

นายปิยพงษ์ กล่าวต่อว่า สำหรับนโยบายการดำเนินงาน 9 ด้าน ประกอบด้วย 1.ยกระดับความปลอดภัยของงานก่อสร้างและบำรุงรักษาเพื่อฟื้นความเชื่อมั่นของประชาชน 2.ยกระดับการจัดการปัญหาอุบัติเหตุทางถนนและความปลอดภัยสาธารณะ 3.ยกระดับคุณภาพงานทางและการให้บริการประชาชน 4.ยกระดับการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ 5.ยกระดับการจัดการทางหลวงที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 6.เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการใช้จ่ายงบประมาณและบริหารจัดการระบบงานในองค์กร 7.ส่งเสริมการใช้นวัตกรรมและยกระดับงานวิจัยพัฒนาแบบมุ่งเป้า 8.พัฒนาและบริหารทรัพยากรบุคคลเพื่อขับเคลื่อนองค์กรและส่งเสริมความก้าวหน้าในอาชีพ และ 9.ขับเคลื่อนงานประชาสัมพันธ์และการสื่อสารต่อสาธารณะในเชิงรุก

ขณะที่นโยบายเร่งด่วน 10 ข้อ คือ 1.เร่งรัดการประกวดราคาและการใช้จ่ายงบประมาณปี 2569 เพื่อช่วยรัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจ 2.เร่งรัดการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) จำนวน 3 สาย เพื่อเปิดบริการตามเป้าหมายที่กำหนด ให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์จากโครงการได้โดยเร็วที่สุด ประกอบด้วย มอเตอร์เวย์หมายเลข 82 (M82) สายบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว ระยะทาง 24.6 กิโลเมตร (กม.) โดยภายในเดือน ต.ค. 2568 จะเปิดให้บริการช่วงทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน-เอกชัย (มหาชัยเมืองใหม่) ระยะทางประมาณ 8.3 กม. และจะเปิดให้บริการตลอดเส้นทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2569

นายปิยพงษ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนโครงการมอเตอร์เวย์หมายเลข 6 (M6) สายบางปะอิน-นครราชสีมา ระยะทาง 196 กม. ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 กำลังเร่งรัดการก่อสร้างเพื่อให้สามารถเปิดให้บริการตลอดทั้งเส้นทาง  แบ่งเป็น เปิดให้บริการฝั่งเดียว ช่วงบางปะอิน-ปากช่อง ระยะทาง 110 กม. จากนั้นช่วงปากช่อง-นครราชสีมา ระยะทาง 86 กม. จะเปิดให้บริการทั้ง 2 ฝั่งที่เปิดให้บริการแล้วในตอนนี้ และคาดว่า จะเปิดให้บริการแบบเต็มรูปแบบ คือ เก็บค่าผ่านทาง เปิดให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง (ชม.) และสามารถใช้ความเร็วได้ 120 กม./ชม. ในช่วงปลายปี 2569 รวมถึงมอเตอร์เวย์หมายเลข 81 (M81) สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ระยะทาง 96 กม. จะเริ่มเปิดทดลองให้บริการทุกวัน จากเดิมเปิดให้บริการเฉพาะวันศุกร์-จันทร์ จำนวน 7 ด่าน ยกเว้นด่านศีรษะทอง ภายใน ต.ค. 2568 ก่อนจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในช่วง ม.ค. 2569 ต่อไป

3.ยกระดับความปลอดภัยงานก่อสร้าง วิเคราะห์-ป้องกัน-ควบคุมความเสียงในงานก่อสร้างอย่างเป็นระบบ ด้วย JSA (Job Safety Analysis) พร้อมติดตามและตรวจสอบให้ได้มาตรฐานความปลอดภัย เพื่อฟื้นความเชื่อมั่นของประชาชน 4.ยกระดับความปลอดภัยบนทางหลวง ใส่ใจคนทุกกลุ่ม โดยปรับปรุงทางข้ามและทางเดินบริเวณทางแยกในเขตเมืองที่เป็นมิตรกับคนเดินเท้า และจัดทำช่องทางรถจักรยานยนต์บนสะพานที่เป็นพื้นพื้นที่จุดเสี่ยง 5.ขันน็อตงานบำรุงทางและสะพานที่เป็นพื้นฐาน เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ ไร้หลุมบ่อ เส้นชัด ป้ายไม่ถูกบัง ป้ายไม่ขัดแย้ง อุปกรณ์ไม่ชำรุด ไฟติด หญ้าไม่รก ดูแลสองข้างทางให้สะอาดเรียบร้อย

นายปิยพงษ์ กล่าวต่ออีกว่า 6.เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วมอย่างทันท่วงที บูรณาการร่วมในการอำนวยความสะดวกการจราจร และเร่งฟื้นฟูเส้นทางหลังน้ำท่วม เพื่อประชาชนมีความปลอดภัยและลดความเสียหายต่อเศรษฐกิจ 7.อัพเกรดระบบช่องเก็บค่าผ่านทางแบบไม่มีไม้กั้น (M-Flow) ให้ใช้งานง่ายขึ้น เพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการ และเพิ่มความคล่องตัวจราจรบริเวณด่านเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง 8.เร่งรัดเปิดประมูลคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน (PPP) งานติดตั้งระบบ และการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) ของมอเตอร์เวย์ M82 และการลงทุนพัฒนาที่พักริมทาง (Rest Area) บนมอเตอร์เวย์ M6 และ M81 รวม 4 สัญญา คาดว่า จะสามารถออกประกาศเชิญชวนได้ภายใน 4 เดือนนี้

9.ขับเคลื่อนโครงการมอเตอร์เวย์สายใหม่ หมายเลข 8 (M8) สายนครปฐม-ปากท่อ-ชะอำ ระยะที่ 1 ช่วงนครปฐม-ปากท่อ ระยะทาง 61 กม. วงเงินรวมประมาณ 54,400 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าก่อสร้างงานโยธา 40,000 ล้านบาท และค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 14,400 ล้านบาท โดยในปีงบประมาณ 2569 ได้เสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินแล้วประมาณ 2,000 ล้านบาท ขณะนี้ การนำเสนอขออนุมัติโครงการฯ ต่อคณะรัฐมนตรี อยู่ระหว่างรอการพิจารณาจากบอร์ดสภาพัฒน์ฯ และคาดว่า จะเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณปี 2570 ต่อไป ทั้งนี้ มีแผนจะใช้เงินกองทุนมอเตอร์เวย์ประมาณ 10,000 ล้านบาท และขอรับงบประมาณ 30,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าว ถือเป็นโครงการเร่งด่วนลำดับความสำคัญสูงสุด ซึ่งเมื่อโครงการแล้วเสร็จ จะเป็นเส้นทางลัดลงสู่ภาคใต้ และ 10.เสริมทักษะบุคลากรให้มีสมรรถนะ สอดคล้องกับหน้าที่ พัฒนาและปรับเกลี่ยกำลังคน เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนการดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง