“พิพัฒน์” ลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าเหตุถนนสามเสนทรุด คาดเตรียมถมทราย 30 ก.ย.นี้ ดีเดย์! คืนสภาพจราจรภายในวันที่ 8 ต.ค. 68 เผยที่ผ่านมา ดำเนินงานตามแผน ยังไม่พบอุปสรรค ระบุฝนตกเล็กน้อย ไม่กระทบภาพรวม ด้านผู้รับจ้าง ลุยประสานประชาชนได้รับผลกระทบ เร่งจัดหาที่พักระหว่างซ่อม
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าการแก้ไขซ่อมแซมถนนสามเสนทรุดตัว บริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 24 ก.ย. ที่ผ่านมา ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน – ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) วันนี้ (28 ก.ย. 2568) ว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีความห่วงใยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าด้วยตนเองอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ได้กำชับให้ทุกฝ่ายบูรณาการความร่วมมือในการแก้ไขซ่อมแซมถนนทรุด เพื่อให้สามารถคืนสภาพการจราจรบริเวณดังกล่าวตามมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด ให้ทันตามกำหนดระยะเวลา 14 วัน (ภายในวันที่ 8 ต.ค. 2568)
ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ พบว่า การดำเนินงานต่างๆ มีความคืบหน้าเป็นไปตามแผนงาน โดยทุกฝ่ายทั้ง รฟม. ผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธา กรุงเทพมหานคร รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังคงเร่งดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง มีการมอนิเตอร์ตลอด 24 ชั่วโมง และได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ซึ่งการดำเนินงานที่ผ่านมายังไม่พบอุปสรรค ยังเป็นไปตามแผนงาน แต่อาจมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบบ้างในแต่ละวัน เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ ซึ่งปัจจุบัน ผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธาฯ ได้เทคอนกรีตถมในหลุมแล้วเสร็จตั้งแต่เมื่อช่วงค่ำ ของวันที่ 27 ก.ย. ที่ผ่านมา ขณะนี้ รอคอนกรีตเซ็ตตัว จากนั้นจึงเสริมความแข็งแรงด้านข้างด้วยคอนกรีตพ่น เพื่อไม่ให้เกิดดินสไลด์ตัว และในวันที่ 30 ก.ย. 2568 เป็นต้นไปจะถมทรายกลับ
สำหรับ สน.สามเสน จากการติดตั้งเครื่องมือตรวจวัดตัวอาคารยังไม่พบการเคลื่อนตัวผิดปกติปัจจุบันมีการพ่นคอนกรีตเหลวเสริมความแข็งแรงของดินให้มีเสถียรภาพยิ่งขึ้น ลดการพังทลาย
จากนั้น จะเสริมความแข็งแรงของโครงสร้างฐานรากของตัวอาคารต่อไป โดยที่ผ่านมามีการเทปูนไปทั้งสิ้นประมาณ 1200 คิว
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมาจะมีฝนตกเล็กน้อย แต่ไม่มีผลกระทบต่อแผนงานในภาพรวม ทั้งนี้ ได้มีการจัดเตรียมเครื่องสูบน้ำ และวางกระสอบทรายกั้น ในกรณีที่มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง สำหรับการยกวัสดุสิ่งของ เช่น เสาไฟฟ้า หม้อแปลงไฟฟ้า ท่อน้ำประปา และ เศษวัสดุอื่นๆ ที่อยู่ภายในหลุม ได้ทยอยนำขึ้นมาบางส่วนก่อน ซึ่งต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวัง และต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคน ในส่วนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบด้านที่อยู่อาศัย ทางผู้รับจ้างงานโยธารายงานว่า สามารถติดต่อผู้ได้ผลกระทบแล้วและได้จัดหาที่พักให้ระหว่างการซ่อมแซมต่อไป