‘พิพัฒน์’ ผุดไอเดีย ‘ค่ารถเมล์แอร์ไฟฟ้า ขสมก.’ คันใหม่ 8 บาทตลอดสาย เริ่ม ก.ย. 69 ส่วนรถแอร์ปัจจุบัน เล็งลดราคาภายในปีนี้

“พิพัฒน์” ผุดไอเดีย นั่งรถเมล์แอร์ไฟฟ้า ขสมก. คันใหม่ ราคาเดียว 8 บาทตลอดสาย เริ่ม ก.ย. 69 ด้าน ขสมก. เร่งเครื่องเช่า 1,520 คัน มูลค่า 1.53 หมื่นล้าน พร้อมเล็งลดราคารถเมล์แอร์วิ่งให้บริการปัจจุบัน 1,363 คัน คาดเริ่มดำเนินการภายในสิ้นปีนี้

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีวันคล้ายวันก่อตั้งครบรอบ 49 ปี องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) วันนี้ (26 ก.ย. 2568) ว่า ปัจจุบัน ขสมก. ให้บริการรถรวม 2,883 คัน แบ่งเป็น รถเมล์ปรับอากาศ (รถเมล์แอร์) จำนวน 1,363 คัน และรถเมล์ธรรมดา (รถเมล์ร้อน) จำนวน 1,520 คัน ซึ่งในอนาคต ขสมก. จะปรับเปลี่ยนมาให้บริการด้วยรถโดยสารประจำทางปรับอากาศพลังงานไฟฟ้า (EV) ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน โดยในขณะนี้ ขสมก. อยู่ระหว่างการดำเนินโครงการเช่ารถโดยสารประจำทางปรับอากาศ EV จำนวน 1,520 คัน เพื่อทดแทนรถเมล์ร้อนเดิมที่มีอายุการใช้งานมากว่า 30 ปี วงเงิน 15,355 ล้านบาท

ทั้งนี้ เบื้องต้น ขสมก. จะทยอยรับรถ 3 ระยะ คาดว่า จะทยอยรับมอบรถ ระยะที่ 1 (เฟส 1) ในช่วง ก.ย. 2569 จำนวน 500 คัน, เฟสที่ 2 จำนวน 500 คันภายใน ธ.ค. 2569 และเฟสที่ 3 จำนวน 520 คัน ภายใน มี.ค. 2570 มีระยะเวลาสัมปทาน 7 ปี คาดว่า จะรองรับผู้โดยสารเฉลี่ย 5–6 แสนคนต่อวัน ซึ่งการดำเนินโครงการเช่ารถเมล์ไฟฟ้าดังกล่าว จะช่วยลดต้นทุนเชื้อเพลิง 2,090 ล้านบาทต่อปี และต้นทุนค่าซ่อมบำรุง 1,800 ล้านบาทต่อปี รวมช่วยลดต้นทุนกว่า 3,890 – 4,000 ล้านบาทต่อปี จากปัจจุบัน ขสมก. มีต้นทุนรวมกว่า 8,200 ล้านบาท (รวมต้นทุนด้านบุคลากร 4,400 ล้านบาท)

สำหรับต้นทุนที่ลดลงดังกล่าวนั้น จึงมีนโยบายนำมาใช้ในการปรับลดค่าโดยสารในการใช้บริการรถเมล์ไฟฟ้าที่จะรับมอบใหม่ จำนวน 1,520 บาท เหลือราคา 8 บาทตลอดสาย ซึ่งเท่ากับราคาของรถเมล์ร้อนในตอนนี้ เช่นเดียวกับรถเมล์แอร์ที่วิ่งให้บริการอยู่ในปัจจุบันจำนวน 1,363 คันที่มีราคาอยู่ที่ 12-25 บาทต่อเที่ยว ก็จะปรับลดราคาลงด้วย รวมไปถึงรถโดยสารของภาคเอกชน ซึ่งจะต้องไปศึกษาแนวทางต่อไป อย่างไรก็ตาม คาดว่า จะเห็นความชัดเจนภายหลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 29-30 ก.ย. 2568 และจะเริ่มดำเนินการได้ภายในปี 2568 โดยแนวทางปรับลดค่าโดยสารรถเมล์ ขสมก.นั้น ถือเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายรัฐบาลที่ต้องการทำแพ็คเกจลดค่าครองชีพของประชาชนในการใช้บริการขนส่งสาธารณะ ซึ่งภายหลังรัฐบาลแถลงนโยบายในสิ้นเดือนนี้ แพ็คเกจดังกล่าวก็จะทยอยเริ่มทำทันที

ด้านนายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการ ขสมก. กล่าวว่า ขสมก. คาดว่าการนำรถเมล์ไฟฟ้าเข้ามาเสริมบริการนั้น จะทำให้ ขสมก.ลดต้นทุนอย่างต่อเนื่อง และจะทำให้ EBITDA เป็น 0 ในปี 2575 และหลังจากนั้น จะเริ่มทำกำไรเพื่อไปหักขาดทุนสะสมที่ปัจจุบันมีอยู่มากกว่า 1.5 แสนล้านบาท นอกจากนี้ ยังทำให้ ขสมก. ลดการพึ่งพาขอรับเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ (PSO) จากรัฐบาล