Green Bond บีทีเอส กรุ๊ปฯ เนื้อหอม ยอดจองล้นเป้า 8 เท่าตัว

“Green Bond” บีทีเอส กรุ๊ปฯ เนื้อหอม หลังผลสำรวจเผยบิ๊กนักลงทุนสนใจหุ้นกู้ ลั่น! ยอดจองล้นเป้ากว่า 8 เท่า เตรียมออกขายมูลค่า 1.3 หมื่นล้าน 24 พ.ค.นี้ ใช้ลงทุนรถไฟฟ้าสีเหลือง-ชมพู

นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการและประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทมีนโยบายและความตั้งใจลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม บริษัทจึงได้ระดมทุนผ่านการออกและเสนอขาย Green bond หรือหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ชนิดไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ มูลค่ารวมไม่เกิน 13,000 ล้านบาท และจะจัดออกหุ้นกู้ในวันที่ 24 พฤษภาคม 2562 นี้ เพื่อใช้ลงทุนในโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) และสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง อันเป็นโครงการสำคัญที่จะส่งเสริมการเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนด้วยพลังงานไฟฟ้า ลดการใช้รถยนต์ และจะช่วยลดการปล่อยมลภาวะในเขตกรุงเทพมหานครได้อย่างมาก

สำหรับการออก Green Bond ในครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ในประเทศมีส่วนร่วมในการสนับสนุนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมผ่านการลงทุนในหุ้นกู้ ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง ได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ที่เคยลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทฯอยู่เดิมแล้วและจากฐานผู้ลงทุนรายใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยแสดงความจำนงในการลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทสูงกว่า 8 เท่า จากแผนที่จะเสนอขายหุ้นกู้เดิมจำนวน 5,000 ล้านบาท  จึงได้เพิ่มขนาดการเสนอขายเป็นจำนวน 13,000 ล้านบาท

“บริษัทขอขอบคุณผู้ลงทุนที่ให้ความสนใจและสนับสนุนนโยบายลงทุนในโครงการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยให้ความสนใจลงทุน Green Bond ในครั้งนี้ และขอขอบคุณสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่สนับสนุนยกเว้นค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องด้วย” นายคีรี กล่าว

ด้านนายเดชา ตุลานันท์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และนายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม หรือ Green Bond ในครั้งนี้ เป็น Green Bond ชุดแรกในประเทศไทยที่เสนอขายให้ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่และเป็น Green Bond ชุดแรกของประเทศไทยที่ออกภายใต้เกณฑ์การเสนอขายหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากสำนักงาน ก.ล.ต. ในการยกเว้นค่าธรรมเนียม filing โดยจัดออกรวมทั้งสิ้น 5 รุ่น คือ รุ่นอายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.51% ต่อปี มูลค่า 1,000 ล้านบาท, รุ่นอายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.63% ต่อปี มูลค่า 1,300 ล้านบาท, รุ่นอายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.15% ต่อปี มูลค่า 3,000 ล้านบาท, รุ่นอายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.57% ต่อปี มูลค่า 2,700 ล้านบาท และ รุ่นอายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.86% ต่อปี มูลค่า 5,000 ล้านบาท รวมมูลค่าหุ้นกู้ทุกรุ่นที่เสนอขายทั้งสิ้น 13,000 ล้านบาท หุ้นกู้ทุกรุ่นชำระดอกเบี้ยทุก 6 เดือน

ทั้งนี้ หุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ที่ระดับ “A แนวโน้มคงที่” จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2562 ซึ่งได้เสนอขายต่อผู้ลงทุนไปเมื่อวันที่ 21 – 23 พฤษภาคม 2562 และจัดออกหุ้นกู้ในวันที่ 24 พฤษภาคม 2562 โดยมีธนาคารกรุงเทพ และธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ นายเดชากล่าวต่อว่า บริษัทมีความคิดก้าวหน้าหลายอย่าง เช่น การออกกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเป็นรายแรก (BTSGIF) รวมถึงการออก Green Bond ในครั้งนี้ และหวังว่าในอนาคต บริษัทก็จะมีธุรกรรมที่พัฒนาตลาดทุนในลักษณะนี้ออกมาอีกในโอกาสต่อไป

อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ดำเนินการให้ Green Bond ของบริษัทเป็นไปตามมาตรฐานสากล คือ International Capital Market Association (ICMA)’s Green Bond Principles และ ASEAN Green Bond Principles โดยมี Sustainalytics ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยอิสระชั้นนำด้าน ESG และ Corporate Governance เป็นผู้ประเมินและออก Second Party Opinion (SPO) ว่าหุ้นกู้เป็นไปตามมาตรฐานสากลดังกล่าว นอกจากนี้ Climate Bonds Initiative หรือ CBI ยังได้รับรองว่าหุ้นกู้เป็นไปตาม Climate Bond Standard ในเกณฑ์ Low Carbon Transport อีกด้วย