เปิดหวูด! รถไฟทางคู่ ‘ลพบุรี–ปากน้ำโพ’ ยกระดับระบบรางไทย ลุ้นอนาคตกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เหลือ 7 ชม.ครึ่ง

เปิดแล้ว! รถไฟทางคู่ “ลพบุรี-ปากน้ำโพ” ระยะทาง 148 กม. เตรียมให้บริการอย่างเป็นทางการ-ใช้ตารางเวลาใหม่ 5 ขบวน 30 พ.ค.นี้ ปักหมุดวิ่งเข้า “สถานีลพบุรี 2” พร้อมใช้ระบบอาณัติสัญญาณ E-Token แห่งแรกในโลก ดีเดย์ 5 ธ.ค. 68 โชว์ความว้าว “ทางยกระดับยาวสุดในไทย” เผยช่วยลดเวลากว่า 1 ชม. ชี้อนาคตหากเสร็จทั้งเส้นทางสายเหนือครบ 2 เฟส เดินทางจากกรุงเทพฯ ถึงเชียงใหม่ เหลือ 7 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจความพร้อมรถไฟทางคู่สายเหนือ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ วันนี้ (26 พ.ค. 2568) ว่า วันนี้ รฟท. ได้เปิดให้บริการรถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กิโลเมตร (กม.) และจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ โดยจะใช้เวลาเดินรถไฟสายเหนือใหม่ รวมจำนวน 5 ขบวน ตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป เพื่อให้สอดคล้องกับการเปิดให้บริการเส้นทางรถไฟทางคู่ช่วงดังกล่าว

ทั้งนี้ ในระยะแรกจะวิ่งให้บริการในเส้นทางเดิม ผ่านสถานีลพบุรี 1 ส่วนการวิ่งเข้าสถานีลพบุรี 2 ที่ขนานไปกับทางหลวงหมายเลข 366 คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการขบวนรถไฟเชิงพาณิชย์ ได้แก่ รถเร็ว, รถด่วน, และรถด่วนพิเศษ รวมวันละ 22 ขบวน ได้ในวันที่ 5 ธ.ค. 2568 สอดรับกับการใช้ระบบทางสะดวกอิเล็กทรอนิกส์ (E-token) ซึ่งเป็นแห่งแรกในโลกที่ใช้ในการเดินรถระหว่างที่มีการติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณด้วย อย่างไรก็ตาม เมื่อเปิดให้บริการไปยังสถานีลพบุรี 2 แล้วนั้น รฟท. จะประสานกับจังหวัด เพื่อจัดรถเชื่อมต่อ (Feeder) จากสถานีลพบุรี 1 มายังสถานีลพบุรี 2 ระยะทางประมาณ 10 กม. เพื่อรองรับการให้บริการของผู้โดยสาร ขณะที่ สถานีลพบุรี 1 นั้น ในอนาคตก็จะยังคงให้บริการขบวนรถไฟท้องถิ่น

สำหรับการปรับเปลี่ยนเวลาเดินรถไฟสายเหนือนั้น จำนวน 5 ขบวน ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค. 2568 ดังนี้ 1.ขบวนรถเร็วที่ 102 เส้นทางเชียงใหม่-สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ 2.ขบวนรถธรรมดาที่ 207 เส้นทางกรุงเทพ (หัวลำโพง)-นครสวรรค์ 3.ขบวนรถธรรมดาที่ 210 เส้นทางบ้านตาคลี-กรุงเทพ (หัวลำโพง) 4.ขบวนรถธรรมดาที่ 211 เส้นทางกรุงเทพ (หัวลำโพง)-ตะพานหิน และ 5.ขบวนรถท้องถิ่นที่ 408 เส้นทางเชียงใหม่-นครสวรรค์

นายวีริศ กล่าวต่อว่า เมื่อเปิดให้บริการรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ จะช่วยลดระยะเวลาการเดินทางได้ถึงประมาณ 50 นาที-1 ชั่วโมง จากเดิมที่ใช้เวลาเกือบ 4-5 ชั่วโมง ส่วนขบวนรถเร็วจะลดระยะเวลาได้ประมาณ 15-20 นาที เนื่องจากเส้นทางคู่ยังไม่สมบูรณ์เต็มที่ในเฟสแรก ขณะเดียวกัน ถ้าโครงการรถไฟทางคู่สายเหนือ เฟส 2 แล้วเสร็จ จะช่วยลดระยะเวลาการเดินทางจากกรุงเทพฯ ถึงเชียงใหม่ กว่า 2 ชั่วโมง 20 นาที หรือจากระยะเวลาเดินทาง 14 ชั่วโมง 20 นาที เหลือเพียง 12 ชั่วโมง นอกจากนี้ หากใช้รถไฟที่สภาพดีและสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ จะทำให้การเดินทางจากกรุงเทพฯ ถึงเชียงใหม่ ลดลงเหลือเพียงประมาณ 7 ชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้น

สำหรับโครงการรถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ เริ่มตั้งแต่สถานีบ้านกลับ จังหวัดสระบุรี ไปสิ้นสุดที่สถานีปากน้ำโพ จังหวัดนครสวรรค์ ครอบคลุมสถานีให้บริการทั้งหมด 19 แห่ง และที่หยุดรถอีก 5 แห่ง รวมถึงศูนย์ควบคุมการเดินรถ (Central Traffic Control) แห่งใหม่ ณ สถานีนครสวรรค์ และย่านกองเก็บและขนถ่ายตู้สินค้า (CY) อีก 1 แห่ง ณ สถานีเขาทอง ซึ่งสามารถรองรับทั้งผู้โดยสารและสินค้า อีกทั้ง ระหว่างสถานีบ้านกลับ จังหวัดสระบุรี ถึงสถานีโคกกระเทียม จังหวัดลพบุรี ยังมีไฮไลท์สำคัญของโครงการ คือ ทางรถไฟยกระดับยาวที่สุดในประเทศไทย ระยะทางกว่า 19 กิโลเมตร ความสูงเฉลี่ย 10–20 เมตร

ส่วนการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ แบ่งออกเป็น 3 สัญญาหลัก ได้แก่ สัญญาที่ 1 ช่วงบ้านกลับ-โคกกระเทียม ระยะทาง 32 กม. มีโครงสร้างทางยกระดับ 19 กม. และระดับพื้น 13 กม. พร้อมสถานีลพบุรี 2 ที่ขนานไปกับทางหลวงหมายเลข 366, สัญญาที่ 2 ช่วงท่าแค-ปากน้ำโพ ระยะทาง 116 กม. เป็นทางระดับพื้นทั้งหมด มีสถานีใหม่ 6 แห่ง และสถานีที่ก่อสร้างทดแทน 11 แห่ง และสัญญาที่ 3 ระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม

นอกจากนี้ โครงการรถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ยังเชื่อมต่อไปยังโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 ในช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย และช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขออนุมัติโครงการ ทั้งนี้ หากโครงการต่างๆ ดำเนินการแล้วเสร็จ จะทำให้ขบวนรถตรงต่อเวลามากขึ้นและสามารถลดระยะเวลาในการเดินทางลง เนื่องจากไม่ต้องหยุดรอหลีกทาง ช่วยเติมเต็มโครงข่ายระบบรางของประเทศให้ครอบคลุมและเชื่อมโยงทุกภูมิภาคเข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน แต่ยังเชื่อมโยงพื้นที่เศรษฐกิจตามแนวเส้นทาง ทั้งการขนส่งสินค้าและการท่องเที่ยว ให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว