มาแล้ว! ‘รถบรรทุก’ ขู่ปิดถนน ด่านควันดำถี่-มาตรฐานอยู่ไหน?

ด่านควันดำถี่-มาตรฐานอยู่ไหน? ‘TTLA’ ร่อนหนังสือถึง สตช.-กทม.ขบ. แก้ปัญหาตั้งด่านควันดำ หลังถี่และซ้ำซ้อนเกินไป ฉุดผู้ประกอบการวิ่งให้บริการรอบเที่ยวลดลง ติงมาตรฐานตรวจเช็ค หวังสร้างความมั่นใจ จี้เร่งแก้ข้อเสนอ พร้อมขู่นำรถบรรทุกปิดถนน หากยังเพิกเฉย
นายชุมพล สายเชื้อ นายกสมาคมขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ไทย (TTLA) เปิดเผยถึงกรณีการตั้งด่านตรวจจับควันดำรถบรรทุกขนส่งสินค้าว่า จากการหารือร่วมกับสมาชิกของสมาคมฯ ที่มีมาก กว่า 400 บริษัทนั้น กรณีดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของผู้ประกอบการ ทั้งในด้านการให้บริการกับลูกค้าที่อาจจะได้รับสินค้าล่าช้า รวมไปถึงทำให้ผู้ประกอบการต่างๆ ไม่สามารถวิ่งให้บริการได้ตามเที่ยวที่กำหนดไว้ เนื่องจากการตั้งด่านของทางเจ้าหน้าที่นั้น มีระยะถี่หรือซ้ำซ้อนจนเกินไป เป็นเหตุให้เกิดการจราจรติดขัดเป็นวงกว้าง ขณะเดียวกัน ไม่มั่นใจถึงกระบวนการตรวจเช็ค อุปกรณ์ต่างๆ มีความถูกต้องตามมาตรฐานหรือไม่
ทั้งนี้ สมาคมฯ จึงได้ทำหนังสือถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ สตช., กรุงเทพมหานคร หรือ กทม., และกรมการขนส่งทางบก หรือ ขบ.เพื่อขอความร่วมมือให้ลดการตั้งด่านตรวจควันดำลง เพื่อไม่ให้ถี่จนเกินไป ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการขนส่งสามารถวิ่งรอบเที่ยวได้มากตามที่กำหนดไว้ โดยในกระบวนการแล้ว ก่อนที่รถที่จะนำออกมาวิ่งให้บริการนั้น ได้มีการตรวจเช็คสภาพรถก่อนต่อใบอนุญาตจาก ขบ.แล้ว หากต้องการจะตรวจเช็คเพิ่มเติม เสนอให้ตรวจปีละ 1-2 ครั้งได้ นอกจากนี้ สมาคมฯ ได้เสนอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จะต้องสร้างความมั่นใจว่า การตรวจควันดำเป็นไปตามมาตรฐานตามที่กำหนดไว้
“ทางสมาคมเราเข้าใจถึงปัญหาการจราจร และปัญหาด้านมลภาวะ การเข้มงวดนั้น ถูกต้องแล้ว และทางเราเห็นด้วยถึงการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ แต่การตั้งด่านควันดำของเจ้าหน้าที่ ถี่เกินไปให้ลดลงหน่อยได้ไหม เพราะส่งผลกระทบด้านการจราจรโดยตรง ซึ่งในเรื่องของควันดำ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะมีการตรวจสภาพรถและเปลี่ยนถ่ายเป็นประจำอยู่แล้ว บางครั้ง เพิ่งออกจากศูนย์ เจอด่าน ก็ตรวจเจอควันดำ จึงไม่แน่ใจว่ามาตรฐานในการตรวจเป็นอย่างไร ที่สำคัญส่งผลกระทบอย่างยิ่งกับผู้ประกอบการที่จะต้องเสียค่าปรับ และวิ่งรอบเที่ยวได้น้อยลงทำให้มีต้นทุนที่เพิ่มขึ้น สะท้อนไปยังต้นทุนด้านโลจิสติกส์ที่อาจจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย” นายชุมพล กล่าว
ด้านนายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก หรือ ขบ. กล่าวว่า ในส่วนของมาตรฐานการตรวจวัดควันดำและการตั้งด่านสุ่มตรวจควันดำนั้น มีค่ามาตรฐานจำกัดเดียวกันทั่วประเทศ ซึ่งทุกหน่วยงานต้องนำไปปฏิบัติ เนื่องจากมีกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม เป็นผู้กำหนดตัวเลขเกณฑ์ตรวจวัด ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยต้องนำไปปฏิบัติด้วยความเป็นมาตรฐานเดียวกัน
ทั้งนี้ ในการตั้งด่านตรวจควันดำนั้น คงต้องบูรณาการควบคู่กันไปทั้ง ขบ.และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งมีการแบ่งประเภทการตรวจสอบอยู่แล้ว กล่าวคือ ขบ.ดูแลการตรวจวัดควันดำของรถโดยสารสาธารณะและรถเชิงพาณิชย์ เช่น รถบรรทุกสินค้า มีเกณฑ์โทษปรับ 5,000 บาท ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเน้นตรวจสอบรถโดยสารส่วนบุคคล มีโทษปรับ 1,000 – 2,000 บาท ซึ่งในบางครั้ง ขบ.ต้องส่งเจ้าหน้าที่ลงไปกำกับดูแลและทำงานร่วมกันในด่านของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
อย่างไรก็ตาม ขบ.ได้ให้ความสำคัญกับปัญหามลพิษและควันดำ จึงได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ ขบ. เข้าไปคุมเข้มการทำงานของสถานตรวจสภาพรถของเอกชนให้มีมาตรฐานที่ตรงกัน นอกจากนี้ ยังได้กำหนดให้รถสาธารณะและรถเชิงพาณิชย์ต้องนำยานพาหนะมาตรวจวัดควันดำที่กรมการขนส่งทางบก ปีละ 2 ครั้ง จากปกติรถทั่วไปตรวจควันดำเพื่อต้อภาษีเพียงปีละครั้งเท่านั้น
รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า กระทรวงคมนาคมได้รับรายงานว่า ผู้ประกอบการขนส่งรถบรรทุก อยู่ระหว่างการหารือถึงมาตรการและแนวทางในการดำเนินการ หากไม่ได้รับความร่วมมือจากทางเจ้าหน้าที่ในการตั้งด่านตรวจควันดำนั้น โดยในเบื้องต้นรายงานแจ้งว่า จะมีการลงพื้นที่บริเวณด่านควันดำ เพื่อดูกระบวนการตรวจเช็คของเจ้าหน้าที่ และเตรียมนำรถบรรทุกปิดถนนด้วย