กทพ. ซาวด์เสียงเอกชน ชวนลงทุนพัฒนาที่พักริมทาง ข้าง มธ. รังสิต มูลค่า 5.1 พันล้าน คาดเปิดใช้ปี 71

กทพ.จัดฟังเสียงภาคเอกชน ผุดพัฒนาที่พักริมทาง 2 แห่ง ข้าง มธ. ศูนย์รังสิต รวม 140 ไร่ มูลค่า 5.1 พันล้าน เปิดทางดึงนักลงทุนไทยต่างชาติ ร่วมพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ เล็งเสนอ ครม. กลางปี 67 ตอกเสาเข็มต้นปี 68 เปิดให้บริการปี 71

นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า กทพ.ได้จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของภาคเอกชน (Market Sounding) สำหรับการให้เอกชนร่วมลงทุนโครงการพัฒนาและบริหารจัดการที่พักริมทางในเขตทางพิเศษบริเวณบางโปรง และโครงการพัฒนาและบริหารจัดการที่พักริมทางในเขตทางพิเศษ และจอดแล้วจร (Park and Ride) บริเวณข้างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ศูนย์รังสิต

ทั้งนี้ ได้เชิญผู้ประกอบการนักลงทุน สถาบันการเงิน ภาคเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ เข้าร่วมการประชุมโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอรายละเอียดของโครงการและนำข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์จากภาคเอกชนมาพิจารณาประกอบการศึกษาและวิเคราะห์โครงการ ตามขั้นตอนการเสนอโครงการตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน .. 2562 ต่อไป 

นายสุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า สำหรับโครงการการพัฒนาและบริหารจัดการที่พักริมทางในเขตทางพิเศษบริเวณบางโปรงมีพื้นที่ 60 ไร่ ตั้งอยู่บริเวณ กม. 17 + 300 ของทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลีสุขสวัสดิ์) โดยโครงการมีมูลค่าลงทุนรวมประมาณ 2,324 ล้านบาท ค่าก่อสร้าง 627 ล้านบาท และค่าบริหารจัดการและบำรุงรักษาตลอดอายุโครงการ 1,697 ล้านบาท ซึ่งทางพิเศษบางโปรงนั้น มีปริมาณการจราจรสูงและมีการควบคุมการเข้าออกอย่างสมบูรณ์ (Fully Controlled Access) เป็นที่พักริมทางที่มีสิ่งอำนวย ความสะดวกต่างๆ เช่น พื้นที่จอดรถ สถานีบริการน้ำมัน ร้านค้า ห้องน้ำ บริการข้อมูลการเดินทาง เป็นต้น

ขณะที่ โครงการพัฒนาและบริหารจัดการที่พักริมทางในเขตทางพิเศษ และ Park and Ride บริเวณข้างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต มีพื้นที่ 80 ไร่ โครงการมีมูลค่าลงทุนรวมประมาณ 2,780 ล้านบาท ค่าก่อสร้าง 706 ล้านบาทและค่าบริหารจัดการและบำรุงรักษาตลอดอายุโครงการ 2,074 ล้านบาท โครงการอยู่บริเวณข้างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต ตั้งอยู่ในพื้นที่ศูนย์กลางของการเชื่อมโยงในระดับภูมิภาค ใกล้เคียงชุมชนการศึกษาขนาดใหญ่และหน่วยงานต่างๆ ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เป็นที่พักริมทางและพื้นที่จอดแล้วจร (Park  &  Ride) อยู่ในพื้นที่เดียวกัน

กทพ.ได้คิกออฟ พื้นที่ที่มีศักยภาพในการนำมาพัฒนาเชิงพาณิชย์ 4,250 ไร่ ซึ่งจะเป็นโอกาสของการหารายได้นอกเหนือธุรกิจหลัก (Non core) ส่งผลให้ กทพ.เล็งเห็นโอกาส และเตรียมนำร่อง 2 พื้นที่แปลงศักยภาพมาเปิดประมูลจัดหาเอกชนร่วมลงทุนในรูปแบบ PPP Net cost โครงการมีอัตราผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (EIRR) 10% โครงการดังกล่าวนี้จะมีอายุสัญญาร่วมทุน 33 ปี แบ่งเป็น ก่อสร้าง 3 ปี และบริหารโครงการ 30 ปีนายสุรเชษฐ์ กล่าว

นาสุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ลักษณะการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) ในรูปแบบ PPP Net Cost โดยภาครัฐรับผิดชอบการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน และภาคเอกชนรับผิดชอบงานส่วนที่เหลือทั้งหมด ส่วนแนวทางการก่อสร้างจะแยกเป็นสัญญา ปัจจุบัน กทพ. อยู่ระหว่างดำเนินการในขั้นตอนการจัดทำรายงานการศึกษาและวิเคราะห์โครงการ ซึ่งจะนำเสนอกระทรวงคมนาคม เพื่อขออนุมัติดำเนินโครงการภายในปี 2566 โดยจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาและเริ่มกระบวนการคัดเลือกเอกชนเพื่อร่วมลงทุนในกลางปี 2567 เริ่มก่อสร้างต้นปี 2568 คาดเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในปี 2571