รฟท. เดินเครื่อง PPP ขนส่งสินค้า ‘หนองคาย-แหลมฉบัง’ 2.59 หมื่นล้าน คาดเปิดให้บริการปี 71 เพิ่มบทบาทภาคเอกชน

บอร์ด รฟท.” ตีกลับโครงการเพิ่มบทบาทภาคเอกชนเดินรถขนส่งสินค้า เส้นทางหนองคายแหลมฉบังระยะทาง600 กม. มูลค่า 2.59 หมื่นล้าน รองรับปริมาณสินค้าจากจีน ร่วมทุน PPP Net Cost 50 ปี สั่งเปรียบเทียบ & ทบทวนใช้ระบบไฟฟ้าเทคโนโลยีทางเลือกอื่น เร่งชงบอร์ดเคาะอีกครั้ง เม..นี้ คาดเสนอ ครม.ไฟเขียวโครงการฯ ปี 68 แล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการปี 71

นายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง รองผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยผลประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. เมื่อวันที่ 23 มี.. 2566 ที่ผ่านมา โดยมีนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เป็นประธานฯ ว่า ที่ประชุมบอร์ดฯ ได้สั่งการให้ รฟท. กลับไปทบทวนรายงานการศึกษาและวิเคราะห์โครงการเพิ่มบทบาทภาคเอกชนในการเดินรถขนส่งสินค้า เส้นทางหนองคายแหลมฉบัง ระยะทางประมาณ 600 กิโลเมตร (กม.) มูลค่าการลงทุน25,925 ล้านบาท โดยดำเนินการตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน ..2562

ทั้งนี้ บอร์ด รฟท. มอบหมายให้ รฟท.โดยบริษัทที่ปรึกษาฯ ไปดำเนินการพิจารณาเพิ่มเติมเกี่ยวกับลงทุนระบบการจ่ายพลังงานไฟฟ้าให้กับรถไฟ (Electrification) ซึ่งจะต้องติดตั้งเหนือหัวรถจักร เปรียบเทียบกับเทคโนโลยีพลังงานทางเลือกอื่นๆ เพื่อให้คุ้มค่าสูงสุด โดยให้นำกลับมาเสนอให้ที่ประชุมบอร์ดพิจารณาอีกครั้งในการประชุมครั้งต่อไปหรือในเดือน เม.. 2566

ในส่วนของกรอบระยะเวลาของการดำเนินโครงการนั้น คาดว่า จะเสนอไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติรูปแบบการลงทุนในปี 2567 ก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกเอกชน และเสนอ ครม. อนุมัติโครงการฯ ในปี 2568 จากนั้นจะดำเนินการออกแบบและติดตั้งระบบ Electrification และจัดหาขบวนรถ โดยจะใช้ระยะเวลาประมาณ 3 ปีอย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าจะแล้วเสร็จ พร้อมเปิดให้บริการในปี 2571

นายอนันต์ กล่าวต่อว่า การลงทุนโครงการฯ จะเป็นการร่วมลงทุนในรูปแบบ PPP Net Cost แบ่งเป็น 1.การลงทุนระบบ Electrification ดำเนินการติดตั้งและบำรุงรักษาระบบ โดยเอกชน, รฟท. ชดเชยค่าติดตั้งระบบ Electrification จากเงินผลประโยชน์ตอบแทนจากเอกชนในการใช้ระบบ Electrification มูลค่าการลงทุนประมาณ 20,890 ล้านบาท

2.การลงทุนขบวนรถสินค้า และให้บริการเดินรถ ลงทุนโดยเอกชน การลงทุนระยะแรก 5,035 ล้านบาท ประกอบด้วยรถจักร 14 คัน, รถบรรทุกสินค้า 420 คัน, โรงซ่อมบำรุง และระบบจัดการขนส่งสินค้า และ 3.การลงทุนเพิ่มโดยเอกชน ในระยะดำเนินการให้บริการประมาณ 14,990 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการลงทุนจัดซื้อรถจักร และรถบรรทุกสินค้าให้เพียงพอกับปริมาณสินค้า ตลอดระยะเวลาร่วมทุน 50 ปี โดยคาดการณ์ว่า จะใช้รถจักรอีก 48 คัน และรถบรรทุกสินค้า 1,620 คัน

สำหรับการเดินรถขนส่งสินค้าในเส้นทางหนองคายแหลมฉบังนั้น มีจุดเริ่มต้นจากหนองคาย เดินขบวนรถไปยังเส้นทางแก่งคอยคลองสิบเก้า และเข้าสู่แหลมฉบัง ระยะทางรวมประมาณ 600 กม. ซึ่งการดำเนินการโครงการนี้เนื่องจากในปัจจุบันยังมีความจุทาง (Slot) คงเหลืออยู่ นอกเหนือจากการให้บริการของ รฟท. ที่ใช้เดินรถได้ตามปกติประกอบกับมีปริมาณสินค้าที่เพียงพอต่อการขนส่ง อีกทั้งรองรับแผนการเดินรถเพิ่มของ รฟท. และเอกชนควบคู่กันไปรวมถึงรองรับการขนส่งสินค้าเพิ่มเติมในเส้นทางไทยสปป.ลาวจีนด้วย