“ศักดิ์สยาม” ลงพื้นที่สแกนความคืบหน้าโครงการคมนาคม “บก–ราง–น้ำ” ในพื้นที่ จ.สระบุรี พร้อมอัปเดตโปรเจกต์ไฮสปีดไทย–จีน ระยะทาง 253 กม. คาดเปิดให้บริการปี 70 ส่วนทางคู่จิระ–อุบลฯ จ่อเสนอ ครม.ไฟเขียวภายในปี 66
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการสำคัญเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาด้านคมนาคมในพื้นที่ จ.สระบุรี พร้อมติดตามการก่อสร้างอุโมงค์ 1 โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา–ชุมทางถนนจิระว่า สำหรับโครงการสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาด้านคมนาคมในพื้นที่ จ.สระบุรี ครอบคลุมทุกมิติทั้งทางถนน ทางราง และทางน้ำ โดยมิติการพัฒนาทางถนนนั้น ได้ดำเนินการพัฒนาโครงข่ายทางหลวง ประกอบด้วย
โครงการทางหลวงที่ดำเนินการแล้วเสร็จและเปิดให้บริการแล้ว ได้แก่ 1.สะพานกลับรถ หนองแค–สระบุรี (ขาออก) เปิดให้บริการ พ.ค. 2563, 2.สะพานกลับรถบน ทล.1 กม. ที่ 90+000และ 104+200 (ขาเข้า) เปิดให้บริการ ก.ย. 2564, 3.ทล.33 สาย อ.บางปะหัน–อ.นครหลวง–อ.ภาชี–หินกอง (329 เดิม) ตอน บ.ภาชี–บ.หินกอง ตอน 2 เปิดให้บริการเมื่อ พ.ย. 2563, 4.สะพานข้ามจุดตัดทางรถไฟ ทล.3188 ทางเข้าเมืองแก่งคอย เปิดให้บริการ ก.ย. 2563 และ5.ทล.3222 สาย อ.แก่งคอย–อ.บ้านนา ตอน ต.ชาผักแพว–ต.ชะอม เปิดให้บริการเมื่อ ก.ค. 2565
ส่วนโครงการทางหลวงที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง ระยะทางรวม 196 กิโลเมตร (กม.) งบประมาณก่อสร้าง79,271.31 ล้านบาท ได้แก่ 1.โครงการสะพานข้ามทางแยกจุดตัด ทล.362 กับ ทล.3041 ถนนวงแหวนรอบ เมืองสระบุรีด้านตะวันตก (แยกเลี่ยงเมืองเสาไห้) มีความก้าวหน้า 74.70% คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2566, 2.โครงการก่อสร้างสะพานข้ามจุดตัดทางรถไฟ ทล.3188 สาย ขอนหอม–บ้านเหนือ (ทางเข้าเมืองแก่งคอย) มีความก้าวหน้า 50.26% คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2567, 3.โครงการก่อสร้างสะพานข้ามจุดตัดทางรถไฟ ทล.3224 สายบ้านป่า–ท่าคร้อ มีความก้าวหน้า 40.12% คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2567 และ 4.โครงการมอเตอร์เวย์ M6 สายบางปะอิน–นครราชสีมา มีความก้าวหน้า 88.00% คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2567
สำหรับโครงข่ายทางหลวงที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับงบประมาณปี 2566 ระยะทางรวม3.133 กม. งบประมาณก่อสร้าง 141.29 ล้านบาท ได้แก่ 1.โครงการก่อสร้างทางหลวงผ่านย่านชุมชน ทล.3188 ตอนท่าเยี่ยม–ขอนหอม ช่วง กม. ที่ 2+135-2+735 มีความก้าวหน้า 3.009% 2.โครงการพัฒนาสะพานและระบบระบายน้ำบน ทล.2 ตอน สระบุรี–ตาลเดี่ยว ช่วง กม. ที่ 5+957-7+415 มีความก้าวหน้า 8.895%
3.โครงการก่อสร้างเพิ่มประสิทธิภาพ ทล.2 ตอน ตาลเดี่ยว–ซับบอน ช่วง กม. ที่ 9+560-10+125 มีความก้าวหน้า5.398% และ 4.โครงการก่อสร้างเพิ่มประสิทธิภาพ ทล.3520 ตอน ไผ่ต่ำ–หนองแค ช่วง กม. ที่ 2+055-2+565 มีความก้าวหน้า 6.707% นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมมีแผนพัฒนาโครงข่ายทางหลวงในอนาคตในพื้นที่ จ.สระบุรีจำนวน 5 โครงการ ระยะทางรวม 4.700 กม. งบประมาณก่อสร้าง 1,890 ล้านบาท
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ส่วนการพัฒนาทางหลวงชนบท จ.สระบุรี ประกอบด้วย โครงการที่อยู่ระหว่างการดำเนินการและได้รับงบประมาณปี 2566 จำนวน 31 โครงการ งบประมาณก่อสร้าง 449.9266 ล้านบาท แบ่งเป็น งานก่อสร้างทางและสะพาน จำนวน 9 โครงการ งานบำรุงรักษาทางและสะพาน จำนวน 11 โครงการ และงานอำนวยความปลอดภัย จำนวน 11 โครงการ อาทิ โครงการบำรุงถนนสาย สบ.4005 แยก ทล. 2247-บ้านวังม่วง อ.มวกเหล็ก และวังม่วง จ.สระบุรี ขณะนี้อยู่ระหว่างลงนามในสัญญา
อีกทั้งโครงการที่อยู่ระหว่างเตรียมของบประมาณปี 2567 จำนวน 67 โครงการ วงเงินทั้งสิ้น 818.8330 ล้านบาทแบ่งเป็น งานก่อสร้างทางและสะพาน จำนวน 11 โครงการ งานบำรุงรักษาทางและสะพาน จำนวน 29 โครงการ และงานอำนวยความปลอดภัย จำนวน 27 โครงการ อาทิ โครงการจ้างที่ปรึกษาศึกษาความเหมาะสม ถนนสาย ข2 และง3 ผังเมืองรวมเมืองสระบุรี อ.เมือง จ.สระบุรี
ขณะที่ แผนแม่บทการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองและระบบราง MR-MAP ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการออกแบบเส้นทางเบื้องต้น ได้แก่ MR2 (ช่วงชลบุรี–นครราชสีมา) MR5 (ช่วงนครราชสีมา–อุบลราชธานี) และMR8 (ช่วงชุมพร–ระนอง) โดยจะเริ่มก่อสร้างเส้นแรกได้ในช่วงปี 2566 และเปิดให้บริการได้ในปี 2568 โดยมีเส้นทางที่ผ่านพื้นที่ จ.สระบุรี MR2 กรุงเทพฯ/ชลบุรี (แหลมฉบัง)-หนองคาย (ด่านหนองคาย)
นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า มิติการพัฒนาทางรางนั้น อาทิ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา – ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กม. 19 สถานี วงเงินลงทุน 27,453.80 ล้านบาท โดยก่อสร้างทางรถไฟใหม่ 1 ทาง ขนานกับทางรถไฟเดิม มีย่านกองเก็บสินค้า (CY) จำนวน 1 แห่ง ที่สถานีกุดจิก ศูนย์ควบคุมการเดินรถ จำนวน 1 แห่ง ที่สถานีนครราชสีมา และการก่อสร้างอุโมงค์รถไฟ 3 แห่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดว่าจะก่อสร้างสัญญาที่ 1 และ 3 แล้วเสร็จในปี 2566 และสัญญาที่ 2 อยู่ระหว่างเปรียบเทียบแนวเส้นทางของโครงการรถไฟทางคู่กับแนวเส้นทาง MR-MAP ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม
รวมถึงโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ–อุบลราชธานี ระยะทาง 308 กม. 35 สถานี วงเงินลงทุน36,683 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูลเพื่อเสนอขออนุมัติโครงการต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในปี 2566 และโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย–จีน ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ–นครราชสีมา ระยะทาง 253 กม. วงเงินลงทุน179,413 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง มีกำหนดเปิดให้บริการปี 2570
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่ออีกว่า ส่วนมิติการพัฒนาทางน้ำ อาทิ โครงการขุดลอกแม่น้ำป่าสัก ต.นาโฉง อ.เมืองจ.สระบุรี อยู่ระหว่างดำเนินงานปีงบประมาณ 2566, การติดตามเรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์ โดยออกสำรวจบริเวณตลิ่งริมแม่น้ำป่าสักที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม การระบายน้ำทำให้ดินสไลด์ และทรุดตัว พร้อมทั้งรายงานพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการพิจารณาสร้างเขื่อนป้องกันน้ำเซาะ