‘คมนาคม’ สั่งปรับปรุงรถสองแถว-กะป๊อ พร้อมออกเกณฑ์ผู้ประกอบการรถเมล์ขอไลเซ่นต์

“ขนส่งทางบกกลาง” สั่ง ขบ. ทำแผนปรับปรุงรถสองแถว-รถกะป๊อ หลังปัจจุบันสภาพถนนขยายช่องจราจรใหญ่ขึ้น หวังลดความเสี่ยงอุบัติเหตุบนท้องถนน ขณะเดียวกันออกเกณฑ์ผู้ประกอบการขอใบอนุญาตรถเมล์

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการฯเมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา มีมติให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ไปจัดทำแผนปรับปรุงรถหมวด 4 โดยเฉพาะการให้บริการในซอย ได้แก่ รถสองแถว และรถกะป๊อ เนื่องจากสภาพถนนในซอยหลายแห่งมีการขยายช่องจราจร จาก 2 ช่องจราจรไปกลับเป็น 6 ช่องจราจรไปกลับ เช่น ซอยเอกมัย ซอยอ่อนนุช เป็นต้น รวมถึงในปัจจุบันได้เชื่อมต่อหรือเป็นฟีดเดอร์เชื่อมกับสถานีรถไฟฟ้า เช่น สถานีบางหว้าในพื้นที่บางแค หรือพื้นที่คลองทวีวัฒนา เป็นต้น และในอนาคตรถหมวด 4 จะเป็นระบบขนส่งที่จะต้องเชื่อมกับสถานีรถไฟฟ้าที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกหลายเส้นทาง

ทั้งนี้ จากสภาพของถนนในปัจจุบันนั้น รถหมวด 4 ได้วิ่งออกมาบนถนนใหญ่ ส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อความปลอดภัยและการทับซ้อนเส้นทาง รวมถึงสภาพตัวรถใม่ได้มาตรฐาน ดังนั้นที่ประชุมจึงมอบให้กรมการขนส่งทางบก หรือ ขบ.ไปทำกรอบการปฏิรูปรถในซอย ให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ในแต่ละซอยมากที่สุด เช่น การเปลี่ยนรถสองแถวหรือรถกะป๊อในซอยใหญ่เป็นรถโดยสารขนาดเล็ก (มินิบัส) หรือ รถโดยการปรับอากาศ (รถแอร์) และจัดหาที่จอดเพื่อไม่ให้กีดขวางการจราจร โดยกำหนดให้ ขบ.ใช้ระยะเวลาจัดทำเป็นแผนแม่บท 6-8 เดือนก่อนนำเสนอให้คณะกรรมการฯ พิจารณาอนุมัติต่อไป ขณะเดียวกัน ที่ประชุมได้เห็นชอบให้ศึกษาปรับปรุงเส้นทางรถโดยสารประจำทาง ซึ่งประกอบด้วยเส้นทางสายหลัก และเส้นทางสายย่อย ใน 3 เส้นทาง ได้แก่ 1.เส้นทางสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์-คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี 2.เส้นทางบางแค-โรงเรียนศึกษานารี และ 3. เส้นทางบางแค-มหาวิทยามหิดลศาลายา

นายจิรุตม์ กล่าวต่ออีกว่า ที่ประชุมยังหารือกรอบเวลาการขอรับใบอนุญาตเดินรถโดยสารประจำทาง หรือรถเมล์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในเส้นทางเดินรถเดิม 208 เส้นทาง โดยยกเลิกใบอนุญาตที่มีอยู่เดิม และเซ็ตซีโร่ (Set Zero) ใหม่ทั้งหมด ตามแผนการปฏิรูปรถเมล์ ขณะนี้ยังไม่มีกำหนดเวลาที่ชัดเจนว่าจะเปิดให้ขอรับใบอนุญาตเดินรถใหม่เมื่อไหร่ ดังนั้นที่ประชุมจึงมอบหมาย ขบ. ไปรวมรวมข้อมูลและกฎหมายที่เกี่ยวข้องและกำหนดระยะเวลาการขอรับใบอนุญาตใหม่มาเสนอให้คณะกรรมการฯพิจารณา โดยไม่จำเป็นต้องใช้อำนาจตามมาตรา 44

อย่างไรก็ตาม ได้เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการเดิมมาขอรับใบอนุญาตใหม่ โดยกำหนดเงื่อนไขว่า ภายใน 2 ปีผู้ประกอบการจะต้องนำรถใหม่ พร้อมติดตั้งกล้อง CCTV ระบบจีพีเอส GPS และระบบความปลอดภัยอื่นๆมาให้บริการ ในสัดส่วน 70% ของจำนวนรถทั้งหมดในเส้นทางนั้นแต่หากภายใน 2 ปีไม่สามารถดำเนินการได้ขบ.จะเพิกถอนใบอนุญาต ทั้งนี้คาดว่าจะเริ่มเห็นการปฏิรูปรถเมล์ที่เป็นรูปธรรมในช่วงเดือน มี.ค.นี้

รายงานข่าวจากกรมการขนส่งทางบก หรือ ขบ. ระบุว่า จากข้อมูลสะสม ณ วันที่ 31 ม.ค. 2562 มีจำนวนรถยนต์สี่ล้อเล็กรับจ้าง (รย.7) หรือรถสองแถวและรถกะป๊อในเขตกรุงเทพฯ ที่จดทะเบียนกับ ขบ. โดยรถสองแถว หมวด 4 ตาม พ.ร.บ. ขนส่งฯ มี 138 เส้นทาง จำนวน 3,764 คัน และรถกะป๊อ ตาม พ.ร.บ.รถยนต์ มี 132 เส้นทาง จำนวน 1,512 คัน