กลุ่มบริษัทเอไอเอเผยผลประกอบการQ1 เบี้ยรับรวม (TWPI) เติบโตเพิ่มขึ้น 5%

นายหลี่ หยวน ชยอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทเอไอเอ กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 สายพันธุ์โอไมครอนได้ส่งผลกระทบต่อ ยอดขายจากธุรกิจใหม่เป็นระยะเวลาสั้นๆ ในไตรมาสแรกของปี 2565 โดยมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) มีรายได้อยู่ที่ 853 ล้านเหรียญสหรัฐลดลง 18% อย่างไรก็ดี ธุรกิจของเราสามารถกลับมาได้อีกครั้งหลังจากที่ยอดผู้ติดเชื้อแตะจุดสูงสุดไปแล้วและสถานการณ์ดังกล่าวได้เริ่มคลี่คลายลง ขณะที่ การลงทุน บริษัทให้ความสำคัญเรื่องเทคโนโลยี ดิจิทัล และการวิเคราะห์ ซึ่งทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ และช่วยลดผลกระทบกับยอดขาย โดยธุรกิจนอกเหนือจากจีนแผ่นดินใหญ่ และฮ่องกง สามารถสร้างมูลค่าธุรกิจใหม่ในไตรมาสที่1 ได้ถึง 50%

สำหรับ ผลประกอบการไตรมาสแรก เอไอเอ ประเทศจีน ยังคงเป็นตลาดที่สร้างรายได้ที่มากที่สุด ขณะที่มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) ลดลง แต่เนื่องจากมียอดขายของผลิตภัณฑ์ออมเงินระยะยาวจึงยังคงช่วยสร้างความสมดุลให้กับการจัดรวมผลิตภัณฑ์ต่างๆ ขณะที่ยอดเบี้ยประกันภัยรับปีแรก (ANP) มีอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน เอไอเอ ประเทศจีน เราริเริ่มที่จะรับสมัครบุคลากรเพิ่มขึ้นเป็นเลขสองหลัก เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2564 เพื่อเสริมสร้างให้การสรรหาบุคลากรเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และเรายังคงเดินหน้าขยายตลาดตามภูมิประเทศไปยังพื้นที่ใหม่ๆ ด้วยการเปิดสาขาใหม่ในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย โดยเริ่มขายได้ในไตรมาสแรกของปี 2565 และทำให้ยอดมูลค่าธุรกิจใหม่เติบโตอย่างมาก ขณะที่ ผลการดำเนินงานในส่วนที่อยู่นอกประเทศจีนแผ่นดินใหญ่มีผลประกอบการโดยรวมที่ฟื้นตัวขึ้น ด้วยมูลค่าธุรกิจใหม่ที่ลดลงเพียง 8% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เอไอเอ ฮ่องกง ได้รายงานตัวเลขมูลค่าธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้น โดยมีปัจจัยการเติบโตจากช่องทางพรีเมียร์ เอเจนซี่ และพันธมิตรทางธุรกิจของเรา และในขณะที่การเดินทางระหว่างประเทศของฮ่องกงยังอยู่ภายใต้ข้อจำกัด เราก็ยังสามารถบรรลุยอดขายด้วยมูลค่าธุรกิจใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก จากการขายให้กับผู้เดินทางชาวจีนแผ่นดินใหญ่ผ่านสาขามาเก๊า

โดยสรุปแล้ว อัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่ลดลง 7.6 จุด อยู่ที่ร้อยละ 54.4 โดยมีปัจจัยหลักจากการเปลี่ยนแปลงในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ที่ปรับสมดุลการขายผลิตภัณฑ์มากขึ้น ตลอดจนค่าใช้จ่ายในการซื้อที่เพิ่มขึ้นซึ่งเป็นผลมาจากยอดขายของกลุ่มที่ลดลง สมมติฐานผลตอบแทนจากการลงทุนระยะยาวที่ใช้ในการคำนวณมูลค่าธุรกิจใหม่ยังคงเดิมจากที่เคยแสดงในรายงานประจำปี 2564 สำหรับอัตรากำไรที่รายงานตามมูลค่าปัจจุบันของเบี้ยประกันภัยธุรกิจใหม่ (PVNBP) ยังคงอยู่ที่ร้อยละ 10 ส่วนเบี้ยประกันภัยรับปีแรก (ANP) ลดลงร้อยละ 7 อยู่ที่ 1,567 ล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่เบี้ยประกันภัยรับรวม (TWPI) เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 อยู่ที่ 9,948 ล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วงเวลาเดียวกัน

เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2565 องค์การประกันภัยแห่งฮ่องกงอนุมัติให้เอไอเอนำหลักเกณฑ์การดำรงเงินกองทุนตามระดับความเสี่ยงของฮ่องกง (HKRBC) มาใช้เป็นกลุ่มแรก ๆ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ซึ่งเราก็ได้คำนวณมูลค่าธุรกิจใหม่ สำหรับไตรมาสแรกของปี 2565 ภายใต้หลักเกณฑ์ HKRBC และหลักเกณฑ์ใหม่ของ China Risk-Oriented Solvency System phase 2 (C-ROSS II) โดยหลักเกณฑ์ใหม่ไม่ส่งผลกระทบที่มีสาระสำคัญ

สำหรับ ภาพรวมโอกาสในระยะยาวธุรกิจของเอไอเอนั้นยอดเยี่ยมมาก เนื่องจากเรามีความได้เปรียบทางการแข่งขันอย่างมาก การกระจายความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ และตัวขับเคลื่อนการเติบโตเชิงโครงสร้างที่ทรงพลังสำหรับการประกันชีวิตและสุขภาพในเอเชีย การเพิ่มขึ้นของรายได้ การแทรกแซงจากบริษัทประกันเอกชนอยู่ในระดับต่ำ และการคุ้มครองสวัสดิการสังคมที่จำกัด ยังคงขับเคลื่อนความต้องการผลิตภัณฑ์ประกันภัยของเอไอเอในตลาดของเรา

การเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกยังคงดำเนินต่อไปในช่วงไตรมาสแรกของปี 2565 แม้ว่าการหยุดชะงักด้านอุปทาน การขาดแคลนแรงงานและราคาพลังงานที่สูงจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อของผู้บริโภคและอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในปัจจุบันยังคงสร้างความผันผวนในตลาดทุนโลกอีกด้วย ในขณะที่เราคาดการณ์ว่าเชื้อโควิด 19 สายพันธุ์ใหม่จะยังคงปรากฏอยู่ แต่เรามองโลกในแง่ดีอย่างระมัดระวังว่าความสำเร็จของโปรแกรมการฉีดวัคซีนและการรักษาแบบใหม่จะสามารถลดความรุนแรงของการเจ็บป่วยลงอีก

เรามั่นใจว่าการดำเนินการตามลำดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์อย่างต่อเนื่องจะสร้างประวัติการเติบโตที่แข็งแกร่งให้กับเราและสามารถสร้างมูลค่าที่ยั่งยืนได้ในระยะยาวสำหรับผู้ถือหุ้น

ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เอไอเอได้รับเบี้ยประกันภัยส่วนใหญ่ในสกุลเงินท้องถิ่นและเราจับคู่สินทรัพย์และหนี้สินท้องถิ่นของเราอย่างใกล้ชิดเพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เมื่อรายงานตัวเลขรวมของกลุ่ม จะมีผลการแปลงสกุลเงินเมื่อเรารายงานเป็นเหรียญสหรัฐ เราได้รายงานอัตราการเติบโตและใช้อัตราแลกเปลี่ยนคงที่ เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่น เนื่องจากข้อมูลนี้ให้ภาพที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของธุรกิจ