‘กรมรางฯ’ ประชุมร่วม ‘ญี่ปุ่น’ ถก 5 ประเด็นไฮสปีดเทรน ‘กรุงเทพฯ-เชียงใหม่’ วางไทม์ไลน์ปี 65 ลุยศึกษาความเหมาะสม ศก.-การเงิน

กรมรางฯถกร่วมญี่ปุ่นหารือ 5 ประเด็น ด้านเทคนิคไฮสปีดเทรน ช่วง กรุงเทพฯเชียงใหม่จ่อปรับลดจำนวนตู้รถไฟเหลือ 8 ตู้/ขบวน หวังหั่นต้นทุนโครงการฯ แนะเพิ่มความถี่ รองรับความต้องการผู้โดยสาร พร้อมโชว์โมเดลพัฒนาพื้นที่รอบสถานีซากุดะอิระวางไทม์ไลน์ปี 65 ศึกษาความเหมาะสม ศก.-การเงิน

นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมหารือด้านเทคนิคโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพฯเชียงใหม่ โดยมีผู้แทนการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และผู้แทนจากฝ่ายญี่ปุ่น ประกอบด้วย ผู้แทนจาก กระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐานการขนส่งและการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น (MLIT) Japan Railway Construction, Transport and Technology Agency (JRTT) องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) และสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยว่า

ในการประชุมครั้งนี้ ได้มีประเด็นการหารือ 5 ประเด็น ประกอบด้วย 1.ผลการดำเนินงานการประมาณการความต้องการเดินทาง โดยฝ่ายญี่ปุ่นได้ดำเนินการศึกษา และลงพื้นที่สำรวจภาคสนาม เพื่อเก็บแบบสำรวจความต้องการเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูง และข้อมูลปริมาณการความต้องการเดินทางในการศึกษาเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพฯเชียงใหม่

2.การปรับลดจำนวนตู้รถไฟ ฝ่ายญี่ปุ่นได้พิจารณาปรับลดจำนวนตู้รถไฟการลดจำนวนตู้รถไฟ เพื่อให้เกิดการลดต้นทุนโครงการ และยังสามารถรองรับปริมาณความต้องการเดินทางในเวลาเร่งด่วนของประชาชนได้ โดยฝ่ายญี่ปุ่นได้เสนอจำนวนตู้รถไฟจาก 12 ตู้ต่อขบวน เหลือ 8 ตู้ต่อขบวน โดยเพิ่มความถี่ของขบวนรถไฟจาก 2 ขบวนต่อชั่วโมงเป็น 3 ขบวนต่อชั่วโมง ในช่วงเวลาเร่งด่วน

3.การศึกษาแนวเส้นทาง ฝ่ายญี่ปุ่นได้ศึกษาแนวเส้นทางที่สามารถเปลี่ยนถ่ายผู้โดยสารได้สะดวก เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการคมนาคมขนส่ง และการท่องเที่ยว ตลอดจนการส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ

4.ต้นทุนโครงการ ฝ่ายญี่ปุ่นได้ดำเนินการศึกษาเพื่อพิจารณาความเป็นไปได้ในการหาแนวทาง เพื่อลดต้นทุนโครงการให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น

5.การพัฒนาพื้นที่รอบสถานีรถไฟความเร็วสูง ฝ่ายญี่ปุ่นได้นำเสนอกรณีศึกษาการพัฒนาสถานีซากุดะอิระ ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสถานีที่รถไฟความเร็วสูงผ่าน โดยบริเวณสถานีมีการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ นำมาซึ่งการพัฒนาเพื่อส่งเสริมการคมนาคมขนส่งและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยโครงการพัฒนาดังกล่าวได้เริ่มดำเนินการระหว่างปี .. 1994-2002 ซึ่งใช้งบประมาณในการดำเนินการ 2.52 หมื่นล้านบาท

ขณะเดียวกัน ฝ่ายไทยได้ขอบคุณฝ่ายญี่ปุ่นที่ได้ศึกษา และนำความเห็นของฝ่ายไทยไปปรับปรุงการศึกษาในปีที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ ฝ่ายญี่ปุ่นจะดำเนินการศึกษาความเหมาะสมด้านเศรษฐกิจ และการเงินในปีงบประมาณ 2565 ต่อไป