ครม.เห็นชอบหลักการ ‘พ.ร.บ.รางฯ’ คาดมีผลบังคับใช้ ต.ค.นี้ พร้อมตั้ง ‘นายกฯ’ นั่งประธานคณะ กก.นโยบายขนส่งทางราง
ครม. เห็นชอบหลักการร่าง “พ.ร.บ.ขนส่งทางราง” ตั้ง “นายกฯ” นั่งประธานคณะ กก.นโยบายการขนส่งทางราง เร่งเสนอกฤษฎีกาพิจารณา ก่อนชง ครม. ไฟเขียวร่างภายใน ส.ค.นี้ ให้อำนาจ “กรมรางฯ” กำกับดูแล–นโยบาย กำหนดค่าโดยสารเป็นธรรม พร้อมพัฒนาโครงข่ายทางรางทั่วไทย เชื่อมต่อการขนส่งรูปแบบอื่น อำนวยความสะดวกประชาชน คาดมีผลบังคับใช้ภายใน ต.ค. 64
รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า วันนี้ (19 พ.ค. 2564) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบในหลักการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การขนส่งทางราง พ.ศ. … ตามที่กระทรวงคมนาคมนำเสนอ สำหรับกรอบระยะเวลาในการดำเนินการหลังจากนี้นั้น กระทรวงคมนาคม โดยกรมการขนส่งทางราง (ขร.) จะส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ฯ และสรุปผลการตรวจพิจารณา
จากนั้น จะเสนอให้หน่วยงานแจ้งยืนยัน ก่อนส่งไปยัง ครม. พิจารณาเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ฯ ภายใน ส.ค. 2564 ก่อนที่กระทรวงคมนาคม จะส่งร่าง พ.ร.บ.ฯ ไปยังรัฐสภา (สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พิจารณา 3 วาระ และสมาชิกวุฒิสภาพิจารณา 3 วาระ) ในช่วง ส.ค.-ก.ย. 2564 และคาดว่า จะประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายได้ภายใน ต.ค. 2564
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ ขร.ได้นำร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว กลับมาพิจารณาทบทวนปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์และนโยบายของกระทรวงคมนาคมปี 2560-2564 และให้มีความทันสมัยสอดคล้องกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเพิ่มเติมร่างบทบัญญัติ เช่น การจัดสรรความจุ, ตารางเวลาเดินรถและเส้นทาง, การสอบสวนอุบัติเหตุ และการจดทะเบียนรถขนส่งทางราง เป็นต้น และดำเนินการรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ขณะที่ สาระสำคัญของ ร่าง พ.ร.บ.การขนส่งทางราง พ.ศ. …. นั้น มีสาระสำคัญเกี่ยวกับภารกิจของกรมการขนส่งทางรางในการกำกับดูแล เสนอแนะนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนการพัฒนาด้านการขนส่งทางราง พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรางให้มีโครงข่ายที่สมบูรณ์ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ เชื่อมต่อกับการขนส่งระบบอื่น และประเทศเพื่อนบ้านการกำกับดูแลมาตรฐานด้านความปลอดภัย การบำรุงทาง และการประกอบกิจการ เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวก รวดเร็ว ประหยัด และปลอดภัยภัยในการเดินทาง
รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุอีกว่า ร่าง พ.ร.บ.ฯ ดังกล่าว จะมีรายละเอียดที่สำคัญ เช่น การกำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายการขนส่งทางราง โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ มีอำนาจหน้าที่ในการให้ความเห็นชอบแผนการพัฒนาการขนส่งทางรางและโครงการของหน่วยงานรัฐ, เสนอแนวทางในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นที่ได้รับประโยชน์จากการขนส่งทางราง
นอกจากนี้ ยังรวมถึงการพัฒนาพื้นที่รอบสถานี, การเชื่อมต่อการขนส่งทางรางกับการขนส่งทางอากาศ การขนส่งทางน้ำ สถานีขนส่งทางบก ศูนย์กระจายสินค้า ที่พักสินค้า ท่าเรือบก นิคมอุตสาหกรรม รวมทั้งการกำหนดอัตราขั้นสูงของค่าโดยสาร ค่าขนส่ง ค่าใช้ประโยชน์จากราง และค่าธรรมเนียมอื่น และการกำหนดประเภทของบุคคลที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องชำระค่าโดยสาร
อีกทั้ง ยังกำหนดเรื่องการคุ้มครองผู้โดยสาร ประกอบด้วย ผู้ได้รับใบอนุญาตจะเรียกเก็บค่าโดยสาร ค่าขนส่ง ค่าใช้ประโยชน์จากราง และทรัพย์สินที่จำเป็นในการประกอบกิจการขนส่งทางราง และค่าธรรมเนียมอื่นเกินกว่าอัตราที่คณะกรรมการประกาศกำหนดไม่ได้, ผู้ได้รับใบอนุญาตต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้โดยสารเมื่อการเดินรถขนส่งทางรางมีเหตุล่าช้าหรือถูกยกเลิก ขณะที่ ผู้ได้รับใบอนุญาตต้องจัดให้มีการประกันความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ชีวิตและร่างกายของผู้โดยสารและผู้ใช้บริการ
ขณะเดียวกัน ผู้ได้รับใบอนุญาตมีหน้าที่จัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการ โดยเฉพาะผู้ทุพพลภาพ ผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ และเด็ก ให้มีความเหมาะสมแก่การใช้บริการขนส่งทางราง และในกรณีที่ผู้โดยสารผู้ใช้บริการ หรือบุคคลอื่น ได้รับความเดือดร้อนจากการประกอบกิจการขนส่งทางรางให้มีสิทธิร้องเรียนต่ออธิบดี และต้องสอบสวนข้อเท็จจริงและมีคำสั่งโดยเร็วไม่เกิน 60 วัน นับตั้งแต่ได้รับเรื่องร้องเรียน