‘ศักดิ์สยาม’ ถกที่ประชุม กบร. วาง 4 นโยบาย พร้อมรับ ‘ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์’ 1 ก.ค.นี้

ศักดิ์สยามนั่งหัวโต๊ะ ประชุม กบร. สอบทานมาตรการด้านการบิน รับการเปิดประเทศ นำร่องภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” 1 ..นี้ ก่อนขยายไปอีก 9 จังหวัด พร้อมคลอด 4 นโยบายสำคัญ คาด ..64 อุตฯการบินของไทยฟื้นฟู มีผู้โดยสารไฟล์ทอินเตอร์ 1.4 ล้านคน เผยยอดจองสล็อตตารางบินฤดูร้อนสู่ภูเก็ต 134 ไฟลท์ตารางบินฤดูหนาวจองแล้ว 320 ไฟลท์ ชี้ผู้โดยสารกลับมาปกติภายในปี 68

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นฐานะประธานกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) ครั้งที่ 6/2564 วันนี้ (21 มิ.. 2564) ว่า ที่ประชุม กบร. ได้ร่วมกันสอบทานมาตรการด้านการบิน เพื่อเตรียมพร้อมรองรับการเปิดประเทศ นำร่องจังหวัดภูเก็ตใน .. 2564 เป็นที่แรก (ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์) โดยหากสำเร็จจะขยายไปอีก 9 จังหวัดและเปิดทั้งประเทศในอีก 120 วันข้างหน้า ซึ่งคาดว่าอุตสาหกรรมการบินของไทยจะฟื้นฟูและมีจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศใน .. 2564 ประมาณ 1,400,000 คน เพิ่มขึ้นจาก .. 2564 ประมาณ 10 เท่า(ข้อมูลจากระบบฐานข้อมูลการบินนานาชาติ OAG)

แฟ้มภาพ

ทั้งนี้ กบร. ได้ให้นโยบายเร่งศึกษาการนำเทคโนโลยีมาช่วยพัฒนาการจัดการสนามบินภายในประเทศ และให้กระทรวงคมนาคมเชิญหน่วยงานที่ดูแลสนามบินร่วมหารือเดินหน้า เพื่อพัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูลผู้โดยสารและการให้บริการที่รวดเร็วขึ้น ลดการสัมผัส และเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้เดินทางจากทั่วโลก 

สำหรับภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เป็นโครงการที่เกิดขึ้นจากข้อสั่งการของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม จากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ เข้ามาพักอาศัยโดยไม่ต้องกักตัวอยู่ในจังหวัดภูเก็ตอย่างน้อย 14 วัน และสามารถไปเที่ยวพื้นที่อื่นต่อได้ โดยหวังว่าจะช่วยฟื้นฟูการท่องเที่ยวของไทย ซึ่งพลเอกประยุทธ์ คาดว่าจะสามารถเริ่มได้ตามแผนในวันที่ 1 .. 2564 และหากสำเร็จจะขยายเป้าหมายไปในอีก 9 จังหวัด ประกอบกับเมื่อวันที่ 16 มิ.. ที่ผ่านมา พลเอกประยุทธ์ ยังได้ประกาศเป้าหมายการเปิดประเทศไทยทั้งประเทศภายใน 120 วัน

*** กำหนด 4 นโยบายรับภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ***

นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า ที่ประชุม กบร. ยังมีมติกำหนดนโยบายที่สำคัญ 4 เรื่อง เพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายการฟื้นฟูการท่องเที่ยวซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศและเพื่อให้เกิดการฟื้นฟูอุตสาหกรรมการบินของไทยซึ่งเป็นการคมนาคมหลักที่จะนำนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศ ประกอบด้วย 1.ศักยภาพในการรองรับผู้โดยสารเที่ยวบินระหว่างประเทศ โดยได้สั่งการให้จัดสรรเวลาการบิน (Slot) อย่างเหมาะสม ซึ่งขณะนี้มีเที่ยวบินทั้งในและระหว่างประเทศอยู่ในกำหนดการบินประจำฤดูร้อน 2564 (วันที่ 1 .. – 30 .. 2654) และในกำหนดการบินประจำฤดูหนาว2564/2565 (วันที่ 31 .. 2564 – 26 มี.. 2565) เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ เบื้องต้นสำหรับสนามบินภูเก็ตในกำหนดการบินประจำฤดูร้อน 2564 มีเที่ยวบินจัดสรรแล้วประมาณ 134 เที่ยวบินต่อวัน จากขีดความสามารถในการรองรับ 480 เที่ยวบินต่อวัน คิดเป็น 28% โดยคาดว่าจะขออนุญาตเพิ่มขึ้นเมื่อเริ่มเปิดประเทศ สำหรับในกำหนดการบินประจำฤดูหนาว 2564/2565 มีจำนวนเที่ยวบินที่จัดสรรไปยังสนามบินภูเก็ตแล้วประมาณ 320 เที่ยวบินต่อวัน จากขีดความสามารถในการรองรับ 360 เที่ยวบินต่อวัน คิดเป็น 89% ซึ่งเที่ยวบินระหว่างประเทศที่ได้รับการจัดสรรขณะนี้ส่วนใหญ่มาจากประเทศแถบเอเชียแปซิฟิกและยุโรป (ข้อมูล Slot วันที่ 11 มิ.. 2564 ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงภายหลัง)

*** .. 64 ผู้โดยสารไฟลท์อินเตอร์ แตะ 1.4 ล้านคน ***

สำหรับใน .. 2564 คาดว่าจำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศทั้งประเทศ จะเพิ่มจาก 5,698 เที่ยวบิน (.. 2564) เป็น13,354 เที่ยวบิน ส่วนจำนวนผู้โดยสารคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 79,226 คน (.. 2564) เป็น 146,448 คน และคาดว่าใน.. 2564 ประเทศไทยจะมีผู้โดยสารเที่ยวบินระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 1,469,805 คน หรือเพิ่มขึ้น 10 เท่า จากใน.. 2564 กบร. จึงได้เน้นย้ำให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ตรวจสอบความพร้อมด้านการบินให้ครอบคลุมทุกมิติก่อนเปิดประเทศ เพื่อเตรียมการให้เป็นไปอย่างราบรื่น หลังจากที่ผ่านมาจำนวนเที่ยวบินอยู่ในระดับต่ำมาเป็นเวลานาน

ทั้งนี้ เป้าหมายการฟื้นฟูระยะยาวของอุตสาหกรรมการบินไทย สถิติเดิมของผู้โดยสารระหว่างประเทศในช่วงปี 2562 ก่อนการระบาดของโควิด-19 มีจำนวนประมาณ 89 ล้านคน แต่ในปี 2563 ลดลงเหลือเพียงประมาณ 16 ล้านคน ลดลง81.7% ซึ่งหากการเปิดประเทศเป็นไปตามเป้าหมายและอุตสาหกรรมการบินมีการฟื้นตัว ในระยะยาวคาดว่า ไทยจะกลับมามีผู้โดยสารระหว่างประเทศในจำนวนที่ใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดสถานการณ์การระบาดได้ก่อนปี 2568

*** “สนามบินสายการบินเครื่องบินนักบินพร้อม! ***

 2.การเตรียมความพร้อมด้านความปลอดภัยของสนามบิน, สายการบิน, เครื่องบิน และนักบิน โดยตามปกติแล้วกพท.มีแผนในการตรวจสอบด้านความปลอดภัยตามวงรอบในทุกประเภทของผู้ให้บริการอย่างต่อเนื่อง แต่เพื่อการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ รองรับการกลับมาเปิดประเทศอีกครั้งตามแนวทางที่ กบร. ได้ให้ไว้ กพท. จึงมีทั้งวิธีการออกตรวจแบบเดิม (Onsite audit) และปรับวิธีการตรวจเป็นแบบระยะไกล (Remote audit) เพื่อให้เหมาะสมตามสถานการณ์การระบาดของโควิด-19

ในส่วนของสนามบิน โดยกรมท่าอากาศยาน บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท., การท่าอากาศยานอู่ตะเภาและบริษัทการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ต้องส่งรายการตรวจสอบและหลักฐานการดำเนินงานของสนามบินภายใน มิ..นี้ เพื่อประเมินความพร้อมด้านมาตรฐานความปลอดภัยก่อนเปิดให้บริการ ซึ่งเป็นรายงานฉบับปรับปรุงโดยเฉพาะเพื่อรองรับสถานการณ์โควิด-19 โดย กพท. จะตรวจสอบรายงานและหลักฐานที่ส่งมาให้  หากพบประเด็นความไม่พร้อมจากสนามบินนั้นๆ สนามบินจะต้องเร่งแก้ไขก่อนที่จะสามารถเริ่มกลับมาให้บริการระหว่างประเทศได้อย่างเต็มรูปแบบ

ด้านสายการบินของไทยและเครื่องบิน ต้องได้รับการตรวจสอบการปฏิบัติงานในฐานะผู้ได้รับใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศ ตรวจสอบแผนการบำรุงรักษาและสภาพเครื่องบิน ซึ่งที่ผ่านมา กพท. ตรวจตามแผนและวงรอบที่กำหนดอย่างต่อเนื่อง ทั้งวิธีการตรวจแบบ Onsite และ Remote แต่เพื่อทดสอบความพร้อมเป็นกรณีพิเศษ สายการบินจะต้องได้รับการตรวจสอบการปฏิบัติงานตามแบบฟอร์มที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะสำหรับสถานการณ์โควิด-19

ในส่วนของเครื่องบินหากจอดเป็นระยะเวลานานต้องตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้พร้อมนำกลับมาให้บริการผู้โดยสารอย่างปลอดภัย เช่น เครื่องบินของการบินไทยจะต้องได้รับการตรวจสอบก่อนนำกลับไปให้บริการระหว่างประเทศใน ..นี้ เป็นสายการบินแรก ส่วนเครื่องบินของสายการบินอื่นๆ หากมีความพร้อมสามารถขอเข้ารับการตรวจได้เช่นกัน สำหรับนักบิน และพนักงานควบคุมการจราจรทางอากาศ แม้เที่ยวบินระหว่างประเทศจะลดลง แต่ที่ผ่านมาได้กำหนดให้ปฏิบัติงานในห้องจำลองอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาชั่วโมงและเตรียมพร้อมการกลับมาปฏิบัติหน้าที่อยู่เสมอ

*** คุมเข้มมาตรการสกัดแพร่ระบาดโควิด-19 ***

3.การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคของผู้โดยสารและบุคลากรทางการบิน โดยได้จัดให้บุคลากรด้านการบินที่ปฏิบัติหน้าที่ในด่านหน้า ฉีดวัคซีนเข็มแรกเสร็จสิ้นไปแล้วตั้งแต่วันที่ 6 มิ.. 2564 ส่วนบุคลากรในอุตสาหกรรมการบินโดยรวม ขณะนี้ฉีดวัคซีนเข็มแรกไปแล้วประมาณ 48,351 คน (13 มิ.. 2564) และกำลังทยอยเข้ารับวัคซีนเข็มที่ 2 อย่างต่อเนื่อง โดยในการกลับมาเปิดให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศ ผู้ให้บริการต้องปฏิบัติตามกรอบการดำเนินงานระหว่างสถานการณ์โควิด-19 ขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO)

รวมถึง Guidance for Air Travel through the COVID-19 Public Health Crisis และคำแนะนำจากองค์การอนามัยโลก(WHO) ซึ่งกำหนดไว้เป็นมาตรฐานสากลรวมถึงต้องปฏิบัติตามประกาศของ กพท. ที่ปรับปรุงเป็นระยะให้ทันต่อสถานการณ์อย่างเคร่งครัด และประกาศแต่ละจังหวัด เพื่อให้สามารถป้องกันโรคอย่างรัดกุม ถูกต้อง และส่งเสริมให้บรรลุตามเป้าหมายที่ประเทศไทยได้วางไว้

แฟ้มภาพ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
*** เร่งนำเทคโนโลยีช่วยบริหารจัดการสนามบิน ***

 4.เร่งศึกษาแนวทางการนำเทคโนโลยีมาช่วยพัฒนาการจัดการสนามบินภายในประเทศ โดยกบร. ได้ให้นโยบายเร่งศึกษาการนำเทคโนโลยีการจัดการระบบข้อมูลผู้โดยสารและบริการมาใช้สำหรับสนามบินภายในประเทศ และให้กระทรวงคมนาคมเชิญหน่วยงานที่ดูแลสนามบินร่วมหารือเดินหน้า เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้โดยสารจากทั่วโลกที่คาดว่าจะเดินทางมายังประเทศไทยเพิ่มขึ้นจากการเปิดประเทศภายในสิ้นปีนี้ และมีการท่องเที่ยวภายในประเทศ

ทั้งนี้ เทคโนโลยีที่พิจารณาให้นำมาใช้ คือ 1.ระบบรายงานข้อมูลผู้โดยสารล่วงหน้าสำหรับผู้โดยสารภายในประเทศสายการบินจะสามารถส่งรายงานข้อมูลส่วนบุคคลแบบอิเล็กทรอนิกส์ของผู้โดยสารภายในประเทศให้กับสนามบินต้นทาง ปลายทาง และสนามบินที่มีเที่ยวบินแวะผ่าน เพื่อใช้สำหรับการเช็คอินขึ้นเครื่องบินได้ ทำให้ขยายขีดความสามารถการเชื่อมโยงและติดตามข้อมูลของผู้โดยสารภายในประเทศและระหว่างประเทศ รวมถึงเตรียมรองรับการใช้งานหนังสือเดินทางสุขภาพในอนาคต

และ 2.ระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง CUPPS (Common Use Passenger Processing System) หรือระบบเช็คอินด้วยตนเองอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการผู้โดยสารในสนามบินภายในประเทศให้เป็นมาตรฐานทัดเทียมสนามบินนานาชาติ และช่วยลดจำนวนเจ้าหน้าที่ ลดขั้นตอนการตรวจสอบเอกสาร ลดการสัมผัสและลดความแออัดภายในสนามบิน เพื่อรองรับการเดินทางทางอากาศในรูปแบบใหม่ในอนาคต (ปัจจุบันสนามบินนานาชาติของประเทศไทย มีการใช้งานทั้ง 2 ระบบอยู่แล้ว) แนวคิดกระบวนการรายงานข้อมูลผู้โดยสารล่วงหน้า Domestic API