สบพ. เดินเครื่อง ‘ศูนย์ฝึกอบรมบุคลากรฯ อู่ตะเภา’ เร่งทบทวนแผน หลัง ‘สภาพัฒน์ฯ’ แนะหั่นงบเหลือ 1.2 พันล้าน คาดสร้างเสร็จปี 70

สบพ. ทบทวนแผนสร้างศูนย์ฝึกอบรมบุคลากรด้านการบินและอวกาศอู่ตะเภามูลค่า 2.71 พันล้าน หลังสภาพัฒน์ฯแนะหั่นงบไม่เกิน 1.2 พันล้าน พ่วงสถานการณ์โควิด-19 เดินหน้าจ้างที่ปรึกษาศึกษาใหม่ พร้อมเล็งชงของบปี 68 ก่อนลุยสร้าง 18 เดือน แล้วเสร็จภายในปี 70 ลุยปั้นบุคลากรป้อนอุตฯ การบิน ตามมาตรฐาน ICAO ก้าวสู่ฮับวิจัยซ่อมบำรุงผลิตชิ้นส่วนอากาศยาน

นางสาวภัคณัฏฐ์ มากช่วย รองผู้ว่าการฝ่ายบริหาร และรักษาการแทน ผู้ว่าการสถาบันการบินพลเรือน (สบพ.) เปิดเผยว่า สบพ.เป็นหนึ่งหน่วยงานที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมของโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ในพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยรัฐบาลได้มอบหมายให้ สบพ.จัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมบุคลากรด้านการบินและอวกาศอู่ตะเภา ซึ่งกองทัพเรือได้มีการจัดสรรพื้นที่ให้จำนวน 100 ไร่ ขณะนี้ อยู่ระหว่างการทบทวนผลการศึกษา ตามข้อสังเกตของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่ได้มีข้อเสนอแนะว่า โครงการดังกล่าวมีขนาดใหญ่เกินไป และขอให้มีการปรับลดการลงทุน จากเดิมจะใช้วงเงินลงทุน 2,715 ล้านบาท ให้เหลืออยู่ที่ไม่เกิน 1,200 ล้านบาท (การลงทุนในระยะแรก)

ทั้งนี้ จากข้อเสนอแนะของ สศช.ดังกล่าวนั้น สพบ.จึงได้นำผลการศึกษากลับมาทบทวน ประกอบกับจากสถานการณ์การแพร่ระบาดให้เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่เกิดขึ้นในระลอกแรกนั้น ทำให้คณะกรรมการฯ (บอร์ด) มีมติให้ชะลอโครงการดังกล่าวออกไปก่อน ซึ่งขณะอยู่ระหว่างทำการศึกษาความเป็นไปได้ใหม่อีกครั้ง ขณะที่ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เห็นว่า สบพ.ควรทบทวนแผนการศึกษาโครงการเดิมเพื่อให้มีขนาดการลงทุนที่เหมาะสม ตามความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ขณะเดียวกัน หลังจากนี้ สบพ.จะดำเนินการจ้างที่ปรึกษาโครงการ เพื่อทบทวนและศึกษาวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของโครงการจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมด้านการบินและอวกาศอู่ตะเภาฯ (ฉบับใหม่)ในวงเงิน 12 ล้านบาทโดยใช้งบประมาณของ สบพ. ซึ่งเมื่อศึกษาแล้วเสร็จ จะเสนอไปยัง สศช.อีกครั้ง ก่อนที่จะนำเสนอโครงการเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป ทั้งนี้ ตามแผนที่กำหนดไว้ หากได้รับความเห็นชอบจาก ครม.แล้ว คาดว่า จะเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 และเริ่มการก่อสร้างระยะเวลา 18 เดือน หรือแล้วเสร็จภายในปี 2570

นางสาวภัคณัฏฐ์ กล่าวต่อว่า สำหรับศูนย์ฝึกอบรมบุคลกรฯ แผนเดิมใช้งบประมาณ 2,715 ล้านบาท แบ่งออกเป็ร 3 ส่วน ได้แก่ 1.ค่าสิ่งปลูกสร้าง วงเงิน 1,815 ล้านบาท 2.ค่าครุภัณฑ์การเรียนการสอน วงเงิน 448 ล้านบาท และ 3.ค่าดำเนินการ วงเงิน 450 ล้านบาท โดยวัตถุประสงค์ของการดำเนินการนั้น เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาล ในการพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมการบิน และเพื่อสนับสนุนบุคลากรให้แก่หน่วยงานการขนส่งทางอากาศทั้งภาครัฐและเอกชนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานสากลที่องค์การการบินพลเรือนระหว่าง ประเทศ (ICAO) ได้กำหนดไว้ อีกทั้ง สกพอ.ยังได้ให้ความเห็นว่า สบพ. ควรมีการพัฒนาบุคลากรร่วมกับภาคเอกชน เพื่อบูรณาการด้านองค์ความรู้ ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) มีมติรับทราบ และขอให้หน่วยงานที่ เกี่ยวข้องรับความเห็นกพอ. ไปดำเนินการต่อไป

นอกจากนี้ ในส่วนประโยชน์ของโครงการศูนย์ฝึกอบรมฯ นั้น ยังประกอบด้วย 6 ข้อ ได้แก่ 1.ผลิตบุคลากรช่างซ่อมบำรุงอากาศยานรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมการบิน 2.พัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีการซ่อมบำรุงและผลิตชิ้นส่วนจากผู้นำระดับโลก 3.เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และวิจัยเทคโนโลยีด้านซ่อมบำรุงและผลิตชิ้นส่วนอากาศยาน4.ยกระดับมาตรฐานการซ่อมบำรุงอากาศยานของไทยและเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน 5.ดึงดูดการลงทุนศูนย์ซ่อมบำรุงและผลิตชิ้นส่วนอากาศยาน และ 6.สนับสนุนเป้าหมายของประเทศด้านอุตสาหกรรมการบิน