‘ศักดิ์สยาม’ ลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ กางแผน 9 โปรเจ็กต์คมนาคม ‘บก-น้ำ’ สนองนโยบาย ‘นายกฯ’ ขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน

ศักดิ์สยามกางแผน 9 โปรเจ็กต์ บูมคมนาคมบกน้ำ.สุรินทร์ พร้อมสั่งหน่วยงานนำยางพารามาใช้ด้านความปลอดภัย จี้ ทล.-ทช. สแกนหาถนนสวยจังหวัดละ 1 โครงการ หนุนการท่องเที่ยวสนองนโยบายนายกฯ

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจติดตามผลการดำเนินงานโครงการเร่งด่วน และแผนการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมและส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ .สุรินทร์ วันนี้ (18 มิ.. 2564) โดยได้รับฟังการบรรยายสรุปผลการดำเนินงานโครงการสำคัญเร่งด่วนของหน่วยในสังกัดกระทรวงคมนาคมและรับฟังปัญหาอุปสรรคจาก นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ว่า สืบเนื่องจากพลเอก ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้รับผิดชอบแนวคิดการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับพื้นที่ .บุรีรัมย์ และ.สุรินทร์ โดยมีหน้าที่เป็นที่ปรึกษา ให้คำแนะนำ และเสนอแนะแก่คณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันในพื้นที่จังหวัดที่รับผิดชอบนั้น

ทั้งนี้ เพื่อให้การพัฒนาและแก้ไขปัญหาในระดับจังหวัดสามารถขับเคลื่อนไปได้โดยเร็ว ลดปัญหา และอุปสรรค รวมทั้งใช้ทรัพยากรต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับการลงพื้นที่ .สุรินทร์ในครั้งนี้ เพื่อขับเคลื่อนพัฒนางานด้านการคมนาคมขนส่ง ติดตามผลการดำเนินงานโครงการเร่งด่วน และแผนการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมและส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์ เพื่อให้ประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้น ตามหลักยุทธศาสตร์ที่มุ่งเน้นความสะดวก ปลอดภัย และตรงเวลา โดยกระทรวงคมนาคมได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางบกและทางน้ำ ประกอบด้วยโครงการสำคัญ ดังนี้

*** กางแผน 9 โปรเจ็กต์คมนาคม จ.สุรินทร์ ***

1.โครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 226 ตอนลำน้ำชีห้วยทับทัน กม. ที่ 171+182 -233+891 ระยะทาง 62.709 กิโลเมตร (กม.) แบ่งออกเป็น 6 ช่วง โดยช่วงที่ 1 ช่วงที่ 3 และช่วงที่ 5 เป็นทางขนาด 4 ช่องจราจร ช่วงที่ 2 ยังไม่ได้รับงบประมาณ อยู่ระหว่างการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม ช่วงที่ 3 ช่วงที่ 4 และช่วงที่ 6 ได้รับจัดสรรเงินงบประมาณปี 2564 ประมาณ 800 ล้านบาท อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาจากบริษัทผู้รับจ้าง

2.โครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 2077 ตอนสุรินทร์ลำดวนบัวเชด กม. ที่ 2+305 -70+728 ระยะทาง 66.707 กม. แบ่งออกเป็น 9 ช่วง โดยช่วงที่ 1 ช่วงที่ 4 และช่วงที่ 6 เป็นทางขนาด 4 ช่องจราจร ช่วงที่ 3 ช่วงที่ 5 และช่วงที่ 7 กำลังดำเนินการในปี 2564 ช่วงที่ 2 และช่วงที่ 8 ได้รับงบประมาณปี 2564 ประมาณ 600 ล้านบาท อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาจากบริษัทผู้รับจ้าง ช่วงที่ 9 เป็นทางขนาด 2 ช่องจราจร อยู่ระหว่างรอรับงบประมาณปี 2566

3.โครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 2378 ตอนจอมพระสะพานบุรีรินทร์ กม. 0+000 – 20+040 ระยะทาง 20.040 กม. แบ่งออกเป็น 10 ช่วง โดยช่วงที่ 2 ช่วงที่ 4 ช่วงที่ 7 และช่วงที่ 9 เป็นทางขนาด 4 ช่องจราจร ช่วงที่ 6 อยู่ระหว่างดำเนินงานในปี 2564 ช่วงที่ 1 ช่วงที่ 3 ช่วงที่ 5 ช่วงที่ 8 และช่วงที่ 10 อยู่ระหว่างขอรับจัดสรรงบประมาณเงินกู้ปี 2565

4.โครงการยกระดับมาตรฐานทางถนนสาย สร.4026 แยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2378-.เมือง .สุรินทร์ เพื่อเชื่อมโยงหมู่บ้านช้างบ้านตากลาง และเป็นทางเลือกอีกเส้นทางหนึ่งในการเดินทางจากตัวเมืองสุรินทร์ไปยังท่าอากาศยานบุรีรัมย์ ปัจจุบันเป็นถนน 2 ช่องจราจร ขนาดความกว้างของถนน 9 เมตร จะมีช่องจราจรรวม 6 เมตร และขนาดความกว้างของถนน 12 เมตร จะมีช่องจราจรรวม 7 เมตร เป็นช่วง ซึ่งตามแผนงานจะทำการขยายถนนที่มีความกว้าง 12 เมตรให้มีช่องจราจรรวม 7 เมตร ตลอดสาย

5.โครงการก่อสร้างสะพานข้ามลำชี บ้านโคกเพชร .เมืองสุรินทร์ และ .กระสัง .บุรีรัมย์ มีความยาว 290 เมตร ถนนเชิงลาดยาว 5,225 เมตร ปัจจุบันมีความคืบหน้า 58.89% เร็วกว่าแผน 18.66% จากแผนการก่อสร้าง 40.23%

6.การพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือพัฒนาแหล่งน้ำ สร้างอีสานเขียว ท่องเที่ยวปลอดภัย วิถีใหม่ชุมชนโดยสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 7 และสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขา ร่วมกับสำนักงานพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 8

7.การดำเนินโครงการขุดลอกต่างตอบแทน เพื่อประหยัดงบประมาณแผ่นดินและทำให้มีพื้นที่ที่สามารถรองรับน้ำได้โดยสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคบูรณาการร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

8.โครงการก่อสร้างถนนลาดยาง สาย สร.6052 อ่างเก็บน้ำห้วยเสนงบ้านละเอาะ .เมืองสุรินทร์ มีความยาวตลอดเส้นทาง 25,600 กม. ระยะเวลาดำเนินการเริ่มสัญญาวันที่ 29 ..-4 .. 2564 รวมระยะเวลาการก่อสร้าง 157 วัน ซึ่งในปีงบประมาณ 2564 ได้ดำเนินการก่อสร้างในช่วง กม. 7+530.000-11+230.000 มีการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนเมื่อวันที่ 18 .. 2564 ซึ่งประชาชนรับทราบและเห็นชอบโดยไม่มีข้อขัดแย้งใด เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะช่วยให้การสัญจรไปมาได้สะดวกยิ่งขึ้น แก้ปัญหาน้ำท่วมขังถนน ลดการเกิดอุบัติเหตุและเป็นเส้นทางเชื่อมต่อการเดินทางไปยังศูนย์ราชการแห่งใหม่ได้อีกทางหนึ่ง

9. สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดสุรินทร์ เป็นศูนย์รวมการรับส่งผู้โดยสาร และรับส่งพัสดุภัณฑ์ ตั้งอยู่บนถนนจิตรบำรุง .เมือง .สุรินทร์ มีการเตรียมความพร้อมด้านยานพาหนะและพนักงานขับรถยนต์เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน และช่วยลดค่าครองชีพผู้โดยสารที่มีรายได้น้อยด้วยการจำหน่ายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ นอกจากนี้ยังได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อให้ผู้โดยสารมีความเชื่อมั่นในการใช้บริการได้อย่างปลอดภัย

*** นำ ‘ยางพารา’ มาใช้ ***

นอกจากนี้ ยังมีนโยบายอื่นๆ ที่สำคัญประกอบด้วย นโยบายการนำยางพารามาใช้ เพื่อปรับปรุงเพิ่มความปลอดภัยทางถนน การอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลหรือวันหยุดยาวการเตรียมการรองรับอุบัติเหตุ อุบัติภัย สาธารณภัยในภาคคมนาคมขนส่งในช่วงฤดูฝน โครงการท่องเที่ยวปลอดภัยในวิถีชุมชนที่ยั่งยืน ในพื้นที่อ่างเก็บน้ำห้วยระไซร์ การปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่ออีกว่า ตนได้รับทราบผลการดำเนินงานและมีข้อสั่งการเร่งรัดให้ดำเนินโครงการแล้วเสร็จโดยเร็วและให้คำนึงถึงมาตรการความปลอดภัยในการใช้เส้นทาง โดยเฉพาะบริเวณสี่แยกและจุดตัดของถนนให้ติดตั้งแผ่นชะลอความเร็วเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ พร้อมทั้งขอให้ทุกหน่วยงานให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัดโดยปฏิบัติตามมาตรการอย่างต่อเนื่อง และลงทะเบียนขอรับการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อรองรับการเปิดประเทศตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี

ขณะเดียวกัน ให้เร่งรัดการบริหารงบประมาณตามดัชนีชี้วัดความสำเร็จ (KPI) ให้สำเร็จตรงตามวัตถุประสงค์โดยยึดกฎระเบียบตามหลักธรรมาภิบาลให้ชัดเจน และดูข้อมูลปฏิทินงบประมาณ หากเกิดปัญหาให้เร่งดำเนินการแก้ไข รวมถึงการจัดทำแผนการดำเนินงานให้ศึกษาและทบทวนอย่างรอบครอบ อีกทั้ง ติดตามโครงการนำยางพารามาใช้เพื่อปรับปรุงเพิ่มความปลอดภัยทางถนน โดยใช้แผ่นยางธรรมชาติครอบกำแพงคอนกรีต (Rubber Fender Barrier: RFB) และหลักนำทางยางธรรมชาติ (Rubber Guide Post RGP) เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางและเป็นการสร้างความปลอดภัยทางท้องถนน

*** ผุด ‘ถนนสวย’ จังหวัดละ 1 โครงการ ***

นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า ขอให้กรมทางหลวง (ทล.) และกรมทางหลวงชนบท (ทช.) มีโครงการถนนสวยงามอย่างน้อยจังหวัดละ 1 โครงการ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ ให้ประสานงานกับหน่วยงานในท้องที่เพื่อให้ได้รับการจัดสรรงบประมาณมาใช้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง และต้องพัฒนาการคมนาคมขนส่งทางบกให้ประสบผลสำเร็จ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาการขนส่งทางอากาศต่อไป

ทั้งนี้ เมื่อโครงการก่อสร้างต่างๆ แล้วเสร็จทั้งหมดจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายการคมนาคมขนส่งของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดได้อย่างเป็นรูปธรรม สามารถรองรับปริมาณการเดินทางและขนส่งที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งในช่วงเวลาปกติและโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาล ทำให้การเดินทางเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดและระหว่างภูมิภาคเป็นไปอย่างสะดวก รวดเร็ว คล่องตัว และมีความปลอดภัย อีกทั้งยังเป็นฟันเฟืองสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยว ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในภูมิภาคและประเทศไทยให้มีความมั่นคงมั่งคั่ง ยั่งยืน