ทล. จัด ‘โครงการรถบรรทุกสีขาว’ หวังลดความเสียหายของถนน

“กรมทางหลวง” จัดโครงการรถบรรทุกสีขาว หวังลดความเสียหายของถนน จากรถบรรทุกน้ำหนักเกินอย่างยั่งยืน

นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง หรือ ทล. เปิดเผยภายหลังพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการรถบรรทุกสีขาวว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายในการเข้มงวดกวดขันน้ำหนักรถบรรทุก ให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อยืดอายุถนนไม่ให้ได้รับความเสียหายเร็วกว่าที่กำหนด ซึ่งทั้งนี้แต่ละปีกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทต้องเสียงบประมาณในการซ่อมบำรุงถนนที่คิดเป็นสัดส่วน 20 % ของงบประมาณทั้งหมด หรือ ราวปีละ 20,000-30,000 ล้านบาท ส่งผลทำให้รัฐบาลต้องสูญเสียงบประมาณในการซ่อมบำรุงเป็นจำนวนมาก และส่งผลต่อความปลอดภัยของผู้ใช้เส้นทาง ซึ่งได้รับอันตรายจากการชำรุดเสียหายของถนน เกิดอุบัติเหตุทางการจราจร และจากมาตรการเข้มงวดกวดขันการจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกินของรัฐบาล

ทั้งนี้ กรมทางหลวง ได้มีการจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกินเพิ่มขึ้นในแต่ละปี แต่อย่างไรก็ตามการจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกินนั้นเป็นเพียงปลายเหตุของปัญหา หากจะแก้ไขที่ต้นเหตุจำเป็นต้องให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญในการปฏิบัติตามกฎหมาย ป้องกันถนนสาธารณะไม่ให้เกิดความชำรุดเสียหายอย่างยั่งยืน จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องบูรณาการร่วมกันแก้ไข้ปัญหาจากทุกภาคส่วน

อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวต่ออีกว่า กรมทางหลวงจึงได้นำ “โครงการรถบรรทุกสีขาว”เป็นโครงการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ในการควบคุมน้ำหนักรถบรรทุกที่เดินรถบนทางหลวง และสายทางต่างๆ โดยมีต้นแบบจากนโยบายประชารัฐ จังหวัดฉะเชิงเทรา มาบูรณาการแก้ไขปัญหาการบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดของยานพาหนะขนส่งทั่วประเทศ ในทุกพื้นที่โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการบูรณาการทุกภาคส่วนร่วมแก้ไขปัญหารถบรรทุกน้ำหนักเกินให้หมดไปพร้อมทั้งปลูกจิตสำนึกให้ทุกภาคส่วน รักและหวงแหนทางหลวง และสร้างเครือข่าย ภาครัฐภาคเอกชน และประชาชนให้เข้มแข็ง เพื่อเป็นแนวร่วมในการดูแลรักษาทางหลวง แจ้งเบาะแสผู้กระทำผิดกฎหมาย

สำหรับหน่วยงานที่เล็งเห็นความสำคัญเข้าร่วม “โครงการรถบรรทุกสีขาว” 16 หน่วยงานประกอบด้วย กรมทางหลวง, กรมทางหลวงชนบท, กรมการขนส่งทางบก, กรมเจ้าท่า, การรถไฟแห่งประเทศไทย, การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย, การท่าเรือแห่งประเทศไทย, การไฟฟ้าฝ่ายผลิต, การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค, บริษัทไทยออยล์จำกัด (มหาชน) (TOP), บริษัทพีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (PTTGC), บริษัทสตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (SPRC), บริษัทบางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (BCP), บริษัท ไออาร์พีซีจำกัด (มหาชน) (IRPC), บริษัทเอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (ESSO), สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย และสมาคมอุตสาหกรรมการก่อสร้างไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ อย่างไรก็ตาม กรมทางหลวงได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ ขอความร่วมมือ ผู้ประกอบการไม่บรรทุกน้ำหนักเกินตามกฎหมายกำหนด ซึ่งหากฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับเพื่อเป็นการยืดอายุการใช้งานและลดการเกิดอุบัติเหตุบนทางหลวง