‘ทางหลวง’ แจงโลกออนไลน์แชร์ข่าวเก่า ‘ทาพื้นสีแดงกันลื่นแต่ลื่นมากขึ้น’ ยันตอนนี้เหลือบริเวณหน้า รร.เท่านั้น ย้ำปรับปรุงเพื่อความปลอดภัยผู้ใช้ทาง

ทางหลวงแจงปมโลกออนไลน์แชร์คลิปทาพื้นสีแดงกันลื่น แต่ลื่นมากขึ้นเป็นข่าวเก่า ระบุทาพื้นแดง ช่วยเพิ่มความเสียดทานเตือนผู้ใช้ทางเพิ่มความระมัดระวัง เผยเหตุฝุ่นสิ่งสกปรกโดนน้ำอาจทำให้ถนนลื่นขึ้น ยันตอนนี้ไม่ได้ดำเนินการแล้ว เหลือใช้บริเวณหน้าโรงเรียนเท่านั้น ลั่น! ทล.ลุยปรับปรุงทางหลวงให้พร้อมเพิ่มความปลอดภัยเสมอ

นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีการแชร์ข้อมูลเรื่องการใช้สีแดงทาที่ผิวถนนเพื่อกันลื่น แต่กลับพบว่า สีดังกล่าวไม่ใช่ช่วยกันลื่น แถมยังทำให้ลื่นมากขึ้นด้วยว่า จากการตรวจสอบและพิจารณาแล้วนั้น บริเวณดังกล่าว อยู่บนทางหลวงหมายเลข 4311 บริเวณกม.9+900-10+200 เป็นทางหลวงขนาด 4 ช่องจราจรเชื่อมระหว่าง .เมือง ไปยัง .ทับปุด .พังงา ซึ่งที่มีการเผยแพร่ออนไลน์นั้น เป็นคลิปเกิดอุบัติเหตุรถเสียหลัก บริเวณโค้งบางเสียด .พังงา เกิดขึ้น ซึ่งเป็นข่าวเก่าที่เกิดเมื่อปี 2561 โดย ทล.ได้ทำการปรับปรุงผิวจราจร เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ และเกิดความปลอดภัยกับผู้สัญจรไปมาในบริเวณดังกล่าวเสร็จเรียบร้อยตั้งแต่ปี 2562

ภาพถนนทางหลวง จ.ตรัง ที่ปรับปรุงแล้ว

ทั้งนี้ จากการเหตุการณ์ตามคลิปดังกล่าว เห็นได้ว่า รถที่ประสบอุบัติเหตุเป็นการลื่นไถลออกนอกผิวจราจรบริเวณทางโค้ง ซึ่งองค์ประกอบและปัจจัยที่ทำให้เกิดเหตุอุบัติเหตุ ประกอบด้วย สาเหตุมาจาก คน รถ และถนน เช่น ความเร็วขับขี่ สภาพพื้นถนน สภาวะอากาศ และสภาพความพร้อมของรถ อาทิ เครื่องยนต์ เบรก ล้อ ดอกยาง เป็นต้น โดยจากการวิเคราะห์ปัจจัยทั้งหมด พบว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากการใช้ความเร็ว กับสภาวะอากาศที่ไม่เหมาะสม คือ ฝนตกในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ ส่งผลให้ความเสียดทานของถนนลดลง ดังนั้นเมื่อผู้ขับขี่ใช้ความเร็วสูงในการเข้าโค้งจึงทำให้เกิดเหตุในลักษณะดังกล่าวได้

นายสราวุธ กล่าวต่ออีกว่า ทล. ได้ดำเนินการเพิ่มประสิทธิภาพความเสียดทานของผิวทางบนทางหลวงบริเวณดังกล่าวด้วยการปรับปรุงผิวจราจร ซึ่งจะทำให้ผิวทางมีความคงทนสูง เพิ่มความเสียดทาน และระบายน้ำออกจากผิวทางได้ดีรวมทั้งได้ติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยเพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นเตือนผู้ขับขี่ เช่น ป้ายจำกัดความเร็ว ป้ายเตือนแนวโค้ง เป็นต้น ซึ่งจากการดำเนินการดังกล่าวแล้วเสร็จ พบว่าอุบัติเหตุลดลง 75% เป็นการลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ

สำหรับเครื่องหมายสีแดงที่ปรากฏบนพื้นถนน (Red Antiskid) ซึ่งเป็นวัสดุที่ใช้สำหรับเพิ่มความเสียดทานบนพื้นถนนและเป็นการเตือนให้แก่ผู้ขับขี่ระมัดระวัง ปัจจุบัน ทล. ไม่ได้ดำเนินการมีการติดตั้งหรือทางสี Red Antiskid แล้ว เหลือใช้เฉพาะบริเวณที่ต้องการกระตุ้นให้ผู้ขับขี่เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ เช่น บริเวณหน้าโรงเรียน เป็นต้น เพื่อแจ้งเตือนให้ผู้ใช้ทางแยกความแตกต่างของช่วงสายทางได้อย่างชัดเจน

ทั้งนี้ เมื่อมาพิจารณาปัจจัยที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุในส่วนของสภาพถนน สามารถจำแนกออกเป็น 2 ลักษณะหลักๆ ได้แก่1.ปัญหาจากสภาพแวดล้อม ซึ่งเกิดจากฝุ่นหรือสิ่งสกปรกจากการใช้งานถนนโดยทั่วไป เมื่อฝนตกแรกๆ ทำให้สิ่งสกปรกเหล่านี้ผสมกับน้ำฝนและเคลือบผิวจราจร ทำให้ลื่นกว่าปกติ และเมื่อฝนตกต่อเนื่องจะก่อให้เกิดฟิล์มน้ำที่กำลังรอการระบายอยู่บนผิวจราจร เกิดความเสี่ยงในลักษณะการเหินน้ำ ซึ่งทำให้ยานพาหนะเสียการควบคุมได้ และ2.ปัญหาการเสื่อมสภาพจากการใช้งานของถนน เมื่อเปิดใช้งานไปนานๆ ความเสียดทานบนผิวทางจะมีค่าลดลงเรื่อยๆ จนอาจจะก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่อผู้ขับขี่ได้

อย่างไรก็ตาม จากปัจจัยปัญหาที่กล่าวมาข้างต้น ยืนยันว่า ทล.ได้มีการบำรุงรักษาทางหลวงให้มีความพร้อมใช้งานและมีความปลอดภัยต่อผู้ใช้ทางอยู่เสมอ โดยแขวงทางหลวงในพื้นที่ได้มีการทำความสะอาดผิวทาง รวมถึงเฝ้าระวังไม่ให้เกิดน้ำท่วมขังผิวจราจร ระบายน้ำออกจากผิวทางได้เร็วอยู่เสมอ เพื่อป้องกันความเสี่ยงการลื่นไถลของยานพาหนะ นอกจากนั้น ทล.ยังมีการซ่อมบำรุง ปรับปรุง และรักษาสภาพความเสียดทานของผิวทาง ด้วย 2 มาตรการหลักได้แก่ การปรับสภาพผิวทาง เช่น ใช้แรงดันน้ำ รวมถึงการเปลี่ยนผิวทาง เช่น การฉาบผิวทางแบบต่างๆ เป็นต้น