ลุ้น! สงกรานต์นี้ ทดลองใช้มอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช ‘ช่วงลำตะคอง’ ระยะทาง 30 กม. ‘ทางหลวงฯ’ เน้นเหมาะสม-ปลอดภัย คาดรู้ผลกลาง มี.ค.นี้

ลุ้น! สงกรานต์ปีนี้ เปิดทดลองใช้ “มอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช” ช่วงลำตะคอง 30 กม. สนองข้อสั่งการ “นายกฯ” ด้านทางหลวงฯ เร่งพิจารณาความเหมาะสม-ความปลอดภัย คาดชัดเจนกลางเดือนหน้า ฟากปรับแบบ 17 ตอนคืบหน้า จ่อเสนอ ครม. ปลาย มี.ค.64 คาดงบเพิ่มไม่ถึง 6.8 พันล้าน ยันเปิดให้บริการตามแผน

นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ตามข้อสั่งการของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยมอบหมายให้ ทล. ไปพิจารณาเปิดทดลองให้บริการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางปะอิน-นครราชสีมา (M6) บางช่วง เพื่อระบายการจราจรนั้น ขณะนี้ ทล. อยู่ระหว่างการพิจารณาความเหมาะสม โดยคำนึงถึงความปลอดภัย และความพร้อมในด้านต่างๆ รวมถึงความรับผิดชอบหากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น และข้อห่วงใยของนายศักดิ์สยาม อีกทั้งในเรื่องของระเบียบกฎหมายด้วย ทั้งนี้ ประเมินว่า ช่วงบริเวณลำตะคลอง มีแนวโน้มที่จะสามารถเปิดให้บริการได้ ซึ่งอยู่ในตอนที่ 24 – ตอนที่ 37 ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร (กม.)

โดยในระหว่างนี้ ทล.จะต้องไปหารือกับผู้รับสัมปทานในสัญญาดังกล่าว เพื่อทำทางขึ้น-ลงชั่วคราว พร้อมทั้งพิจารณาเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากในบางตอน ไม่มีไฟฟ้าแสงสว่าง เพราะอยู่ในสัญญาวางระบบในโครงการการดำเนินงานและบำรุงรักษา (Operation and Maintenance : O&M) โดยจะรายงานความคืบหน้าภายใน ก.พ.นี้ และทราบความชัดเจนการทดลองเปิดให้บริการช่วงกลาง มี.ค.นี้ ว่า สามารถเปิดให้บริการได้หรือไม่

ทั้งนี้ ในเบื้องต้นคาดว่า จะทดลองเปิดให้ใช้บริการในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2564 นี้ ซึ่งจะมีการจัดการจราจรเปิดให้บริการเป็นช่วงเวลา และจะเปิดให้บริการวิ่งขาเดียว หรือไม่วิ่งสวนกัน เช่น ช่วงปลายสงกรานต์ ที่จะมีประชาชนเดินทางขากลับเข้ากรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นจำนวนมาก จะเปิดให้วิ่งกลับขาเดียวเท่านั้น เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวยังไม่เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม หากทุกอย่างมีความพร้อม คาดว่า นายศักดิ์สยาม จะมีการแถลงอย่างเป็นทางการอีกครั้งต่อไป

***ปรับแบบ 17 ตอน งบไม่ถึง 6.8 พันล้าน ชง ครม.ปลาย มี.ค.64***

นายสราวุธ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องการปรับแบบโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางปะอิน-นครราชสีมา (M6) จำนวน 17 ตอน จากทั้งหมด 40 ตอนว่า ตามที่ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบฯ ซึ่งประกอบด้วย อาจารย์จากสถาบันอุดมศึกษา 12 สถาบัน รวมถึงสภาวิศวกร และวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) นั้น

โดยในขณะนี้ได้ตรวจสอบเสร็จแล้ว 10 ตอน โดยได้มีการเสนอเข้าที่ประชุมคณะทำงานฯ เพื่อพิจารณาและสรุปแล้ว 7 ตอน คิดเป็นวงเงินที่เพิ่มขึ้นจากการปรับแบบประมาณ 1,625 ล้าน ที่ประกอบด้วย ตอนที่ 14 ช่วง กม.53+000 ถึง กม.65+300 อยู่ในพื้นที่ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี (ไม่มีการปรับเพิ่มวงเงิน, ตอนที่ 17 ช่วง กม.71+250 ถึง กม.72+328.075 วงเงินเพิ่มขึ้น 22 ล้านบาท อยู่ในพื้นที่ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ก่อนถึงบริเวณ TPI, ตอนที่ 34 ช่วงทางยกระดับผ่านเรือนจำกลางคลองไผ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา วงเงินเพิ่มขึ้น 291 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในส่วนของตอนที่ 34 นั้น เบื้องต้นประเมินว่า จะมีการประกวดราคาใหม่ โดยจะต้องมีการก่อสร้างอุโมงค์ครอบมอเตอร์เวย์ เนื่องจากบริเวณดังกล่าว ผ่านเรือนจำคลองบางไผ่ ซึ่งกระบวนการในการดำเนินการนั้น จะต้องมีการเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่ออนุมัติงบประมาณที่เพิ่มขึ้น จากนั้นจะปิดสัญญา และส่งมอบงานจากคู่สัญญาเดิมให้แล้วเสร็จ เพื่อเข้าสู่กระบวนการประกวดราคา และหารือกับสำนักงบประมาณ เพื่อหาแหล่งเงินต่อไป อย่างไรก็ตาม จะต้องไปหารือร่วมกับกรมบัญชีกลาง ตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อให้การดำเนินการดังกล่าว ถูกต้องตามกฎระเบียบ และกฎหมาย โดยยืนยันว่า จะไม่กระทบต่อการดำเนินการเดิม

นายสราวุธ กล่าวต่ออีกว่า การประชุมคณะทำงานฯ ในวันนี้ (16 ก.พ. 2564) มีการพิจารณา และรายงานข้อเท็จจริง รวมถึงเหตุผลความจำเป็นในการปรับแบบของคณะกรรมการตรวจสอบฯ ภายหลังที่ได้ลงพื้นที่ และดูรูปแบบจากการออกแบบของ ทล. พร้อมทั้งปรับปรุงตามสภาพความเป็นจริงในปัจจุบัน อีก 4 ตอน ได้แก่ ตอนที่ 5 วงเงินเพิ่มขึ้น 159 ล้านบาท, ตอนที่ 6 วงเงินเพิ่มขึ้น 213 ล้านบาท, ตอนที่ 18 กม.72+328.075-74+300 วงเงินเพิ่มขึ้น 284 ล้านบาท และตอนที่ 19 กม. 74+300-77+000 วงเงินเพิ่มขึ้น 656 ล้านบาท ทั้งนี้ จากการประเมินทั้ง 17 ตอนที่มีการปรับแบบนั้น คาดว่า งบประมาณที่เพิ่มขึ้น จะลดลงจากที่คาดการณ์ไว้เบื้องต้นที่ 6,818 ล้านบาท แต่จะลดลงเท่าไหร่นั้น จะต้องรอสรุปรายละเอียดอีกครั้ง

สำหรับการพิจารณา 4 ตอนดังกล่าวข้างต้นนั้น ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า รูปแบบที่ ทล. ได้ดำเนินการแก้ไขปรับแบบนั้น เป็นไปตามหลักวิศวกรรม และความเหมาะสม โดยพิจารณาใน 4 เหตุผล ได้แก่ 1.สภาพข้อเท็จจริงที่เปลี่ยนไป หลังจากการออกแบบของ ทล. เมื่อปี 2551 ที่ผ่านมา 2.การปรับปรุงให้สอดคล้องกับหลักทางธรณีวิทยาและวิศวกรรม 3.การปรับปรุงตามแนวเส้นทางมอเตอร์เวย์ผ่านพื้นที่ของหน่วยงานอื่น อาทิ กรมชลประทาน และ 4.การปรับปรุง เพื่อบรรเทาผลกระทบของประชาชน

ทั้งนี้ ในส่วนของอีก 10 ตอนที่เหลือนั้น คณะกรรมการตรวจสอบฯ ได้เสนอมายัง ทล. แล้ว 3 ตอน ขณะที่อีก 7 ตอน คาดว่า คณะกรรมการตรวจสอบฯ จะตรวจสอบแล้วเสร็จ ภายใน ก.พ. 2564 จากนั้นจะสรุปรายละเอียดและแนวทาง พร้อมทั้งแนวปฏิบัติ ส่งมายังกระทรวงคมนาคมพิจารณาภายในต้น มี.ค. 2564 และคาดว่า จะเสนอให้ที่ประชุม ครม. พิจารณาอนุมัติงบประมาณที่เพิ่มขึ้นภายในปลาย มี.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า การดำเนินการยังเป็นไปตามแผนที่กำหนด คือ แล้วเสร็จพร้อมทดลองให้บริการในช่วงปลายปี 2565 และเปิดให้บริการเต็มรูปแบบช่วงต้นปี 2566

ขณะที่ความคืบหน้า O&M นายสราวุธ กล่าวว่า ในส่วนของมอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-นครราชสีมา คาดว่า ทล. จะสามารถลงนามกับกิจกรรมร่วมค้าบีจีเอสอาร์ นำโดยบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน), บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ชนะการประมูล หลังจากที่เสนอ ครม. เพื่อขออนุมัติงบประมาณที่เพิ่มขึ้นไปอีกประมาณ 1-2 เดือน จากแผนเดิมที่กำหนดไว้ช่วง เม.ย. 2564 จากนั้นจะทยอยส่งมอบพื้นที่เป็นระยะ พร้อมเร่งรัดการดำเนินการกับกลุ่มบีจีเอสอาร์ จาก 3 ปี เหลือเพียง 2 ปี ในส่วนของ O&M สายบางใหญ่-กาญจนบุรี (M81) นั้น คาดว่า จะลงนามสัญญาภายใน มี.ค. 2564 และกำหนดการเปิดทดลองให้บริการช่วงกลางปี 2566 และเต็มรูปแบบช่วงปลายปี 2566