ลุ้น! ‘อนุทิน’ ไฟเขียว ‘แผนฟื้นฟู ขสมก.’ 14 ก.ย.นี้ ก่อนส่งไม้ต่อ ครม. เคาะอนุมัติภายในเดือนนี้

ชง! “อนุทิน” ไฟเขียวแผนฟื้นฟู ขสมก. 14 ก.ย.นี้ ก่อนส่งไม้ต่อ ครม. เคาะอนุมัติภายในเดือนนี้ หลังที่ประชุมอนุกรรมการฯ “คมนาคม-คลัง” ได้ข้อยุติร่วมกัน พร้อมสั่ง ขสมก. เตรียมข้อมูล-สรุปรายละเอียดประกอบการพิจารณา

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า วานนี้ (8 ก.ย. 2563) ในการประชุมคณะอนุกรรมการพิจาณารายละเอียดแผนฟื้นฟูกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ฉบับปรับปรุงใหม่) โดยมีนายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานนั้น มี 4 หน่วยงานของกระทรวงการคลัง ประกอบด้วย สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) และสำนักงบประมาณ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกระทรวงคมนาคม ได้มีความเห็นร่วมกัน และได้ข้อยุติแนวทางการปรับปรุงรายละเอียดแผนฟื้นฟูฯ ให้มีความชัดเจน และสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ เตรียมสรุปและเสนอคณะกรรมการพิจารณารายละเอียดแผนฟื้นฟูฯ ซึ่งมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในวันที่ 14 ก.ย. 2563 นี้

ทั้งนี้ ข้อสรุปของการประชุมเมื่อวานนี้ ยังคงเดิมของแผนฟื้นฟูฉบับใหม่ไว้ แต่มีการตั้งข้อสังเกต 3-4 ข้อ เพื่อให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กลับไปจัดทำรายละเอียด ก่อนนำเสนอที่ประชุมในวันที่ 14 ก.ย.นี้ โดยข้อสังเกตของที่ประชุมครั้งดังกล่าว ประกอบด้วย เรื่องของราคาในการจัดจ้างรถเอกชนร่วมบริการ (รถร่วมฯ) เข้ามาร่วมเดินรถตามแผนฟื้นฟูใหม่ 54 เส้นทาง ซึ่งมีการนำข้อมูลราคาว่าจ้าง จากหน่วยงานกลางเข้ามาชี้แจงให้ที่ประชุมทราบ อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้ที่ประชุมขอให้ ขสมก.กลับไปนำข้อมูลด้านวิชาการจากหน่วยงานอื่น 1-2 หน่วยงาน เข้ามาประกอบเป็นข้อมูลรวม เพื่อให้ทราบราคาว่าจ้างเฉลี่ย ประกอบการพิจารณาและตัดสินใจของที่ประชุม

แหล่งข่าวฯ กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของการบริหารพลังงานไฟฟ้า หรือการชาร์จแบตเตอรี่ให้กับรถพลังงานไฟฟ้า (EV) ซึ่งมีความแตกต่างจากรถที่ใช้น้ำมันทั่วไป เนื่องจากรถเหล่านี้ จะต้องหมุนเวียนเข้าอู่ที่มีอุปกรณ์ชาร์จ และต้องใช้ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มอย่างเหมาะสม จึงต้องมีการปรับบริหารเวลาการเดินรถให้สอดคล้องกับการจัดการพลังงานด้วย ซึ่งที่ประชุมได้ขอให้ ขสมก. เตรียมข้อมูลไม่แจกแจงรายละเอียดด้วย อีกทั้งยังมีประเด็นเรื่องของเงินภาระเกี่ยวกับการบริการเดินรถด้านสังคม (PSO)  จากปัจจุบันหากแผนฟื้นฟูฉบับใหม่ ขสมก. ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว ระยะเวลาที่ดำเนินการไปจนถึงปี 2572 ซึ่งผลประกอบการของ ขสมก.จะกลับมาเป็นบวก โดยช่วงเวลาดังกล่าว ที่ประชุมต้องการทราบถึงตัวเลข PSO ที่ชัดเจนในแต่ละปี เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาจัดสรรงบประมาณ ที่ภาครัฐยังจำเป็นต้องอุดหนุน ขสมก. แต่ละปีในเฉพาะช่วงเวลาดังกล่าว

ในส่วนสาระสำคัญที่เกี่ยวข้องกับแผนฟื้นฟูฉบับใหม่นั้น เช่น การจัดหารถเมล์พลังงานไฟฟ้าจำนวน 2,511 คัน  การเก็บค่าโดยสารกับเหมาจ่ายวันละ 30 บาท ที่ประชุมเห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าวหมดแล้ว และหากที่ประชุมที่มีนายอนุทิน เป็นประธานให้ความเห็นชอบแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก.ฉบับใหม่ ในวันที่ 14 ก.ย.นี้ กระทรวงคมนาคม ก็เตรียมนำแผนฟื้นฟูดังกล่าวเข้าขอความเห็นชอบจาก ครม. ภายใน ก.ย. 2563 ตามที่นายชัยวัฒน์ ปลัดกระทรวงคมนาคมจะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย. 2563 และตั้งใจไว้จะทำโครงการดังกล่าวให้แล้วเสร็จในระหว่างที่ยังปฏิบัติหน้าที่

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า ในการประชุมคณะกรรมการพิจารณารายละเอียดแผนฟื้นฟูกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ฉบับปรับปรุงใหม่) โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานนั้น ได้มีการประชุมครั้งแรกเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 2563 ที่ผ่านมา โดยได้แต่งตั้งนายชัยวัฒน์ เป็นประธานคณะอนุกรรมการ เพื่อไปจัดทำแผนการบริหารหนี้ให้มีความชัดเจนว่าจะบริหารอย่างไร รวมถึงอธิบายรายละเอียดเรื่องการดำเนินงานฟื้นฟูที่จะไม่ให้เกิดภาระหนี้ในอนาคต พร้อมกันนี้ จะต้องจัดทำรายละเอียดอย่างรอบคอบ สามารถตอบคำถามในบางประเด็นของแผนฟื้นฟูฯ ได้ เช่น การแก้ไขปัญหาการขาดทุนของ ขสมก. อย่างยั่งยืน โดย ขสมก. จะมี EBITDA เป็นบวกในปี 2572 รวมถึงการทำผลกำไรจากการจัดเก็บอัตราค่าโดยสารที่ถูกลงในราคา 30 บาท/คน/วัน (ไม่จำกัดจำนวนเที่ยว) ด้วย