‘การบินไทยฯ’ ยัน ‘ไทยสมายล์’ ยังเป็นบริษัทย่อยฯ พร้อมให้บริการภายในประเทศ-ภูมิภาค เดินหน้ากำกับให้ทำกำไร ชี้! ต้องรอแผนฟื้นฟูแล้วเสร็จ

“การบินไทยฯ” ยัน “ไทยสมายล์” ยังเป็นบริษัทย่อยในกลุ่มบริษัทฯ พร้อมให้บริการภายในประเทศ-ภูมิภาค เดินหน้ากำกับดูแลให้ทำกำไรได้ต่อไป ชี้! ต้องรอแผนฟื้นฟูแล้วเสร็จภายใน 3-5 เดือน ลุ้นศาลล้มละลายกลางไต่สวนอีก 2 ครั้ง

นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวเรื่องการยุบ บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของการบินไทยนั้น ขณะนี้บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการไต่สวนของศาลล้มละลายกลาง ตามที่บริษัทได้ขอยื่นคำร้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ และศาลล้มละลายกลางได้นัดไต่สวนครั้งแรกไปเมื่อวันที่ 17 ส.ค. 2563 ที่ผ่านมา และจะมีการไต่สวนเพิ่มเติมในวันที่ 20 และ 25 ส.ค.นี้ ซึ่งเมื่อกระบวนการไต่สวนแล้วเสร็จ ศาลจึงจะมีการพิจารณาว่า บริษัท การบินไทยฯ ควรเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูหรือไม่ รวมทั้งศาลจะแต่งตั้งคณะผู้ทำแผนซึ่งจะประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไปหลังจากนั้น คณะผู้ทำแผนจะดำเนินการจัดทำแผนซึ่งคาดว่าจะใช้เวลา 3-5 เดือน

ทั้งนี้ ไทยสมายล์ซึ่งเป็นบริษัทลูกของการบินไทย และเป็นสายการบินแบบ Full Service ยังคงให้บริการในเส้นทางภายในประเทศและภูมิภาคเหมือนเดิม แม้ว่าไทยสมายล์จะมีผลประกอบการขาดทุน แต่ในช่วงปีที่ผ่านมา ไทยสมายล์ก็มีผลประกอบการที่ดีขึ้นตามลำดับ กล่าวคือ ขาดทุนน้อยลง และยังได้รับ 2 รางวัลจากการจัดอันดับโดยเว็บไซด์ทริปแอดไวเซอร์ (Tripadvisor Travellers’ Choice Airline Awards) ประจำปี 2563 ได้แก่ รางวัลแรกเป็น สายการบินยอดเยี่ยมในภูมิภาคเอเชีย (Best Regional Airline – Asia) เป็นครั้งที่ 3 และรางวัลที่สองเป็น สายการบินยอดเยี่ยมอันดับหนึ่งของประเทศไทย (Best Airline Thailand) ติดต่อกันเป็นปีที่ 4

อีกทั้ง การบินไทยและไทยสมายล์ยังเป็นสองสายการบินแรกของประเทศไทยที่ได้รับมอบตราสัญลักษณ์มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (Amazing Thailand Safety & Health Administration: SHA) เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยและสุขอนามัยให้แก่ผู้โดยสารตลอดการเดินทาง ทั้งนี้ บริษัทขอให้ลูกค้า คู่ค้า พันธมิตร เจ้าหนี้ ผู้ถือหุ้น รวมทั้งสาธารณชนเชื่อมั่นว่า บริษัทจะจัดทำแผนการกำกับดูแลบริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ฯ ให้สามารถดำเนินกิจการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถทำกำไรได้ต่อไป