‘ขนส่งฯ’ เผยยอด มิ.ย. 63 จัดเก็บภาษีรถประจำปีในเขต กทม. ได้กว่า 776 ล้าน ผ่านช่องทางเว็บไซต์สุดฮอต สะดวก-ลดเสี่ยงติด ‘โควิด-19’

“ขนส่งทางบกฯ” เผยผลการจัดเก็บภาษีรถประจำปีในเขต กทม. ระบุ มิ.ย. 63 จัดเก็บภาษีรถได้กว่า 776 ล้าน จ่ายผ่านเว็บไซต์สุดฮอต ประชาชนนิยมสูงขึ้นต่อเนื่อง สะดวกรวดเร็ว รอรับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี-ใบเสร็จรับเงินทางไปรษณีย์

นางจันทิรา บุรุษพัฒน์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กล่าวว่า ปัจจุบันกรมการขนส่งทางบก อำนวยความสะดวกให้เจ้าของรถสามารถชำระภาษีรถได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีช่องทางให้เลือกใช้บริการหลายช่องทาง เฉพาะเดือนมิถุนายน 2563 จัดเก็บภาษีรถประจำปีในเขตกรุงเทพมหานครได้จำนวนทั้งสิ้น 776,718,992.42 บาท โดยพบว่าประชาชนนิยมใช้บริการรับชำระภาษีรถยนต์ ณ สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 5 มากที่สุด จำนวนทั้งสิ้น 437,950 คัน จัดเก็บภาษีได้จำนวน 577,306,112.37 บาท รองลงมาคือการใช้บริการเลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax) มีผู้ใช้บริการจำนวน 76,340 คัน จัดเก็บภาษีได้จำนวน 133,510,333.77 บาท

ส่วนการให้บริการรับชำระภาษีรถประจำปีผ่านเว็บไซต์ มีผู้ใช้บริการจำนวน 32,543 คัน จัดเก็บภาษีได้จำนวน 49,280,017.83 บาท ซึ่งเป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมจากประชาชนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องเดินทางมาที่สำนักงานขนส่ง อยู่ที่ไหนก็สามารถชำระภาษีรถประจำปีได้ รอรับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีและใบเสร็จรับเงินทางไปรษณีย์ ทั้งยังลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในช่วงที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ยังมีการให้บริการรับชำระภาษีผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส พบว่ามีจำนวนผู้ใช้บริการจำนวน 12,120 คัน จัดเก็บภาษีได้จำนวน 13,413,105.00 บาท บริการรับชำระภาษีรถประจำปีที่ทำการไปรษณีย์ มีจำนวนผู้ใช้บริการจำนวน 1,444 คัน จัดเก็บภาษีได้จำนวน 2,307,881.91 บาท และบริการรับชำระภาษีรถประจำปีผ่านทางโทรศัพท์มือถือมีจำนวนผู้ใช้บริการจำนวน 583 คัน จัดเก็บภาษีได้จำนวน 901,541.54 บาท

นางจันทิรา กล่าวต่ออีกว่า การรับชำระภาษีรถประจำปีผ่านช่องทางต่างๆ นั้น เป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน โดยเจ้าของรถสามารถชำระภาษีรถล่วงหน้าก่อนครบกำหนด 90 วัน โดยจะมีสมุดคู่มือจดทะเบียนรถหรือไม่ก็ได้ เพียงนำหลักฐานการทำพ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถมาแสดง และสำหรับรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานครบ 7 ปี ขึ้นไป หรือรถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานครบ 5 ปีขึ้นไป ต้องนำรถเข้าตรวจสภาพจากสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) รวมถึงรถที่ติดตั้งแก๊สต้องมีหนังสือรับรองการตรวจสอบและทดสอบตามระยะเวลาที่กำหนดด้วย

สำหรับเจ้าของรถบางรายที่มีความจำเป็นต้องหยุดใช้รถ ทั้งที่มีสาเหตุจากรถชำรุดทรุดโทรมจนไม่สามารถใช้งานได้ รวมถึงกรณีรถสูญหาย จำเป็นต้องมาติดต่อแจ้งการไม่ใช้รถต่อนายทะเบียน ณ สำนักงานขนส่งที่รถจดทะเบียนไว้ หากไม่มาติดต่อดำเนินการ เจ้าของรถยังต้องรับภาระชำระภาษีรถประจำปีทุกปี และกรณีที่มีการค้างชำระภาษีรถเกิน 3 ปี ทะเบียนจะถูกระงับทันที โดยเจ้าของรถต้องชำระภาษีประจำปีย้อนหลังพร้อมเงินค่าปรับเพิ่มและคืนแผ่นป้ายทะเบียนเดิม ดังนั้น หากเจ้าของรถรายใดมีความจำเป็นต้องหยุดใช้รถ ขอให้ติดต่อแจ้งการไม่ใช้รถให้เรียบร้อย สอบถามเพิ่มเติม สายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง